posttoday

ธนชาตขายประกันชีวิตให้พรูเด็นเชียลสำเร็จ

26 มีนาคม 2556

ธนชาตปิดการขายธนชาตประกันชีวิตให้พรูเด็นเชียล ได้เงิน1.5หมื่นล้าน รับรู้กำไรในไตรมาส 2

ธนชาตปิดการขายธนชาตประกันชีวิตให้พรูเด็นเชียล ได้เงิน1.5หมื่นล้าน รับรู้กำไรในไตรมาส 2

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ธนาคารน่าจะสามารถปิดการเจรจาขายหุ้นสามัญของบริษัท ธนชาตประกันชีวิต ที่ธนาคารถืออยู่ทั้ง 100% ให้แก่บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) ซึ่งมีมูลค่าหุ้นเป็นเงิน 1.75 หมื่นล้านบาท ได้ภายในไตรมาสหน้า หลังจากลงนามบันทึกข้อตกลงไว้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

ขณะนี้ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ภายในเดือน เม.ย.นี้ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย โดยธนาคารจะรับรู้กำไรจากการขายครั้งนี้ได้ในไตรมาส 2 ซึ่งการขายธุรกิจประกันชีวิตออกไปในครั้งนี้ จะทำให้ธนาคารมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 16% และมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 เพิ่มขึ้นจาก 9% เป็น 11% ทำให้ธนาคารสามารถนำไปขยายธุรกิจประเภทอื่นได้มากขึ้น” นายสมเจตน์ กล่าว

สำหรับบริษัท ประกันชีวิตนครหลวงไทย อีกหนึ่งธุรกิจประกันชีวิตในเครือธนาคารที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งจะไม่สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางธนาคารได้หลังการขายหุ้นบริษัท ธนชาตประกันชีวิต สำเร็จลง เนื่องจากข้อตกลงกับกลุ่มพรูเด็นเชียล ระบุให้ธนาคารจะต้องเป็นช่องทางในการเสนอขายประกันชีวิตของบริษัทพรูเด็นเชียล ประกันชีวิต แต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 15 ปี

“เป็นไปได้ที่ธนาคารอาจจะพิจารณาขายกิจการออกไปเพื่อป้องกันความซ้ำซ้อน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ที่สนใจได้สอบถามเข้ามาหลายราย” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต กล่าว

นายสมเจตน์ กล่าวว่า กลยุทธ์ทางธุรกิจในปีนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อไว้ราว 10-12% โดยจะเน้นไปยังกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนดีและมีขนาดเล็กลง เช่น ในสายลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ จะหันรุกตลาดลูกค้าธุรกิจที่มียอดขายตั้งแต่ 1,0003,000 ล้านบาท ธุรกิจเอสเอ็มอีจะหันมาบุกตลาดลูกค้าขนาดย่อมที่ใช้วงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท และลูกค้าบุคคลจะเน้นขยายสินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดให้มากขึ้น

“สเปรดในปีนี้น่าจะดีขึ้นจาก 2.42.5% ในปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้หมายความว่าลงมาเล่นรายเล็กแล้วจะเสี่ยงเพิ่มเพราะยังใช้เกณฑ์พิจารณาความเสี่ยงเหมือนเดิม และเอ็นพีแอลน่าจะลดลงจาก 4.3% มาอยู่ที่ 3.3% ได้ภายในสิ้นปี”นายสมเจตน์ กล่าว