posttoday

ธนชาตมุ่งขึ้นที่ 3 ประกันภัยรถยนต์

20 มีนาคม 2556

ธนชาต มุ่งทะยานท็อป 3 ในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ ตั้งเป้าเบี้ยรับอีกกว่า 7 พันล้านบาทในปีนี้

ธนชาต มุ่งทะยานท็อป 3 ในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ ตั้งเป้าเบี้ยรับอีกกว่า 7 พันล้านบาทในปีนี้

นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย   เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจในปี2556นั้น บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายจะทำยอดเบี้ยประกันภัยรับไว้ที่ 7,020 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อน โดยมุ่งขยายธุรกิจในส่วนของลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าเป็น 1 ใน 3  ผู้นำของอุตสาหกรรมในส่วนการประกันภัยรถยนต์ และจะยังคงยึดตามแนวทางของกลุ่มธนชาต ที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า 

ทั้งนี้ จะทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ของลูกค้าได้ในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง   เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีหลากหลายมากขึ้น พร้อมให้บริการที่ใกล้ชิดและเข้าถึงลูกค้ายิ่งขึ้นด้วยเครือข่ายสาขาของธนาคารธนชาต ที่มีให้บริการกว่า 630 สาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้พัฒนาระบบประกันภัยออนไลน์หรือ E-Business มาอย่างต่อเนื่อง   เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ให้สามารถทำธุรกรรมด้วยตนเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าถึงบริการของบริษัทได้ในทันที  ซึ่งเป็นอีกช่องทางการให้บริการที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ หวังตอบสนองลูกค้าที่ปัจจุบันนิยมใช้บริการผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น

นายพีระพัฒน์  กล่าวว่า บริษัทยังมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการด้านสินไหมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สำรวจภัยของบริษัทฯ ก็สามารถคว้ารางวัลอันดับหนึ่ง “ Best Surveyor Award 2012 ” ของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัย ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความเป็นเลิศในการให้บริการของบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องผ่านการฝึกอบรมในเรื่องบุคลิกภาพและความสามารถในการแก้ปัญหาและให้คำแนะนำกับลูกค้า ณ จุดเกิดเหตุ และให้ลูกค้าออกจากจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด

“ในปีนี้บริษัทฯ ยังมีแผนจะเดินหน้าเพิ่มจำนวนอู่ซ่อมอีกประมาณ 100 แห่ง จากเดิมที่มีประมาณ 390 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณงานซ่อมที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมได้นำระบบ Claim Online มาใช้ร่วมกับอู่ในเครือของบริษัทเพื่อลดระยะเวลาซ่อมรถยนต์ให้เสร็จเร็วที่สุดอีกด้วย” นายพีระพัฒน์

สำหรับ ปี 2555 บริษัทฯมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 5,700 ล้านบาท  เติบโตเพิ่มขึ้น 22%   กำไรสุทธิ 616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41%   โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่เติบโตสูงถึง 35% เป็นผลจากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก โดยมีความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio ) อยู่ที่ 528% ซึ่งตามมาตรฐานของ คปภ.กำหนดไว้เพียง 140%