posttoday

กลุ่มเกษียณอายุ...ตลาดเกิดใหม่มาแรง

29 ตุลาคม 2555

กลุ่มประชากรเกษียณอายุ ถือเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่สถาบันการเงินทุกแห่งรวมถึงธุรกิจประกันชีวิตกำลังเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับ

โดย...วารุณี อินวันนา

กลุ่มประชากรเกษียณอายุ ถือเป็นตลาดเกิดใหม่ ที่สถาบันการเงินทุกแห่งรวมถึงธุรกิจประกันชีวิตกำลังเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การออม และ การลงทุน ออกมารองรับสังคมผู้สูงอายุสนองความต้องการผู้บริโภคที่กำลังมองหาเครื่องมือช่วยให้สินทรัพย์งอกเงยหลังเกษียณการทำงาน เพื่อรักษาคุณภาพชีวิต และ สถานะทางสังคมไม่ให้ตกต่ำ

กลุ่มเกษียณอายุ...ตลาดเกิดใหม่มาแรง

สมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดประกันชีวิตบำนาญในไทยนับเป็นตลาดเกิดใหม่มากๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวทางการเงิน แต่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูง หากสามารถนำแบบประกันพรีเมี่ยม ที่ให้คุณค่าในความรู้สึกของผู้ซื้อหรือผู้ใช้ มีคุณภาพดี ไม่เหมือนใคร ในราคายุติธรรม ที่ทำให้คนกลุ่มนี้มั่นใจได้ว่าบริษัทสามารถบริหารเงินให้ได้มีเงินใช้เหมือนในปัจจุบัน จะทำให้มีการผ่องถ่ายเงินเข้ามาออมผ่านประกันชีวิตประเภทบำนาญโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เราเพิ่งมาทำตลาดขายประกันผ่านตัวแทนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยมุ่งขายกรมธรรม์บำนาญบำนาญเป็นหลัก ปรากฎว่ากรมธรรม์บำนาญขายดีได้รับความนิยมมาก มีสัดส่วนเบี้ยประกันสูงถึง 73% ของเบี้ยที่ขายทั้งหมด ซึ่ง 9 เดือนแรกมีเบี้ยใหม่ที่ขายผ่านตัวแทน 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปี 600 ล้านบาท เบี้ยต่อกรมธรรม์เฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 แสนบาท สูงที่สุดในอุตสาหกรรม”สมโพชน์ กล่าว

สำหรับ เหตุผลที่ทางบริษัทโตเกียวมารีน ประกันชีวิต รวมถึง บริษัทประกันชีวิตอื่นๆ เริ่มหันมาทำตลาดบำนาญ เพราะมองว่ากลุ่มคนวัย 30 –55 ปี เริ่มมองหาสินทรัพย์ที่จะสร้างรายได้ที่แน่นอนหลังเกษียณอายุ และคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากในสังคมไทย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ วิเคราะห์ว่าปี 2553-2562 คนไทยจะเพิ่มเป็น 67 ล้านคน จะมีผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หรือ ผู้สูงอายุ 11.8% และ ปี 2563 ประชากรไทยจะเพิ่มเป็น 70 ล้านคน ผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 16.8%

ขณะที่ รัฐบาลยังไม่มีเครื่องมือที่จะดูแลผู้สูงอายุอย่างชัดเจน แม้จะมีพรบ.”กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช.”มาตั้งแต่ปี 2554 โดยให้แรงงานนอกระบบประมาณ 35 ล้านคนสมัครเข้าเป็นสมาชิก และออมกับกอช.ทุกเดือน 50-100 บาท และรัฐบาลสมทบให้เท่าตัว ถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งขึ้นมาได้ อาจจะทำให้เงินที่ได้รับมาไม่เพียงพอกับผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนแรงงานที่อยู่ในระบบ 10 ล้านคน จะออมเงินเพื่อเกษียณอายุผ่าน “กองทุนประกันสังคม” และ “กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund” และ ข้าราชการ 1.18 ล้านคน จะออมอยู่ภายใต้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจคนวัย 18-59 ปีถึงปัจจัยสำคัญสำหรับการเตรียมตัวสู่วัยเกษียณ 98.40% ตอบว่า เงิน ส่วนรายจ่ายสำคัญของผู้สูงอายุ ผลสำรวจตอบมาว่า สุขภาพ เป็นรายจ่ายอันดับ 1

เมื่อ”เงิน”เป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ จึงเป็นโอกาสของสถาบันการเงิน ในการที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์มาทำให้เงินของลูกค้างอกเงย มีให้ใช้อย่างแน่นอนทุกเดือน โดยที่เงินต้นยังคงอยู่ และเงินนั้นต้องไม่สร้างภาระค่าใช้จ่าย

“ประกันบำนาญ น่าจะเป็นทางเลือกที่ตรงที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้มั่นคง แน่นอน หลังเกณียณอายุ ถึง 85-89 ปีเพราะผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจะไม่มีภาระภาษี และเงินต้นยังคงอยู่ เป็นมรดกให้ลูกหลานได้”สมโพชน์ กล่าว

สอดคล้องกับ สาระ ล่ำซำ  ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย เปิดเผยผลการจัดงานสัปดาห์ประกันภัยครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 3 วัน มีผู้เข้าชมงานกว่า 5 หมื่นคน บริษัทประกันชีวิตทำยอดขายในงานได้ 519.66 ล้านบาท กรมธรรม์ประกันบำนาญ ขายดีเป็นอันดับ 2 รองจากประกันออมทรัพย์ระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูง

สำหรับ วิธีการเสนอขายประกันบำนาญที่ประสบความสำเร็จ จะมีแนวทางที่แตกต่างไปจากการขายประกันทั่วๆ ไป โดยจะเป็นลักษณะของการให้ความรู้เรื่องการบริหารสินทรัพย์ การวางแผนภาษีหลังเกษียณแก่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการวางแผนการเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ที่มุ่งไปที่มิติการใช้เงินต่อเงิน ซึ่งทำได้จากการออม การลงทุน และการเก็งกำไร ทั้งในรูปของเงินฝาก กองทุน ตราสารหนี้ พันธบัตร ทอง หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน และ ประกันบำนาญ

ขณะเดียวกัน มีการจัดกลุ่มสินทรัพย์ลงทุน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นว่า มีสินทรัพย์ใดที่เมื่อเวลาผ่านไปสร้างมูลค่าเพิ่มและไม่มีภาระค่าใช้จ่าย กลุ่มมีมูลค่าเพิ่มและมีค่าใช้จ่าย กลุ่มเวลาผ่านไปมูลค่าไม่เพิ่มแต่มีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแล และกลุ่มมูลค่าไม่เพิ่มและมีภาระค่าใช้จ่าย พร้อมกับชี้แจงถึงการนำเงินที่ลูกค้าซื้อประกันบำนาญไปลงทุน เพื่อจะได้มีเงินคืนไว้ตามที่ค้ำประกันไว้ในสัญญา และฐานะการเงินของบริษัท

พร้อมกับ เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ที่เงินต้นไม่หาย และได้ผลตอบแทน คือ เงินฝาก แต่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับตลาด ซึ่งเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยอยู่ประมาณ 1.9% ต่อปี และแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึง 8% หรือ 10% เหมือนสมัยก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งเป็นไปได้ยาก

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ที่ออกภายใต้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ที่ออกมาเป็นเครื่องมือการออมเพิ่มเติมสำหรับเตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ จะได้เงินคืนเมื่ออายุ 55 ปี ความเสี่ยงจะสูงขึ้น แม้ว่าส่วนใหญ่กองทุนเหล่านี้จะมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อความปลอดภัยในเงินต้น แต่ไม่มีหน่วยงานใดค้ำประกันผลตอบแทนที่แน่นอน 

“ลูกค้ากลุ่มนี้ มีความรู้เรื่องการลงทุน มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลาย มีเงินพร้อมที่จะลงทุน และมองหาการลงทุนใหม่ๆ ที่ได้ผลตอบแทนแน่นอน ซึ่งเราจะเสนอประกันบำนาญที่ค้ำประกันผลตอบแทน และได้สิทธิลดหย่อนภาษี เพิ่มเข้าไปในพอร์ตลงทุนของเขา เชื่อว่าเป็นสินค้าที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  โดยเฉพาะช่วงที่เหลือของปีซึ่งเป็นจังหวะที่คนมองหาเครื่องมือลดหย่อนทางภาษี และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง ประกันบำนาญจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ”สมโพชน์กล่าว

ทั้งนี้ สมโพชน์ ให้คำแนะนำว่าการเตรียมตัวออมเงินเพื่อเกษียณอายุ สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วัยทำงานใหม่ๆ เพราะการออมตั้งแต่อายุน้อยๆ เงินที่ออมต่อเดือนก็จะต่ำไปด้วย แต่ถ้าออมเมื่ออายุมากๆ การเก็บเงินออมต่อเดือนก็จะสูงไปด้วย และ ควรจะใช้เวลาในการศึกษาแบบประกันบำนาญของแต่ละบริษัท เพื่อจะได้แบบประกันที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด