ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต โชว์ครึ่งปีแรกเติบโต 34%

ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต  เผยครึ่งปีหลัง เตรียมออกแบบประกันออมทรัพย์ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวชุดใหญ่ รองรับลูกค้าทุกกลุ่มในทุกช่องทางหลัก  

นายวิพล วรเสาหฤท  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต หรือ SCBLIFE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ว่า ในภาพรวมมีการขยายตัวได้ดี และเติบโตแข็งแกร่ง  โดยมีเบี้ยปีแรก (AFYP) จากทุกช่องทางการขายทั้งสิ้น 7,763 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34% และสูงกว่าเป้าหมาย 9% มีเบี้ยปีต่ออายุ  1.14 หมื่นล้านบาท  เพิ่มขึ้น 18%   และมีเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 1.88 หมื่นล้านบาท  เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดรวม ที่เบี้ยรับรวมขยายตัว 17%  

สำหรับ ปัจจัยที่ทำให้เติบโตอย่างมาก เกิดจากกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่องทางธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ หรือแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 53% ทำเบี้ยปีแรกได้รวม 6,916 ล้านบาท  โดยประกันคุ้มครองสินเชื่อ หรือเครดิตไลฟ์ เติบโตถึง 116% สอดคล้องกับการขยายตัวที่สูงของธุรกิจสินเชื่อกู้บ้านและสินเชื่อกู้ซื้อรถยนต์ รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอีของธนาคารไทยพาณิชย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่เบี้ยปีแรกของประกันรายบุคคล เพิ่มขึ้น 23%  ทำให้เบี้ยปีแรกของประกันรายบุคคล  และประกันคุ้มครองสินเชื่อมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ 48% และ 41% ตามลำดับ  ส่วนช่องทางประกันชีวิตธุรกิจเฉพาะ ทำเบี้ยปีแรกได้ 467 ล้านบาท และช่องทางตัวแทนมีเบี้ยปีแรก 380 ล้านบาท

นายวิพล กล่าวว่า กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จะเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน  ทั้งด้านยอดขาย และการขยายฐานลูกค้าใหม่ของทุกช่องทางให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และมีกำไรอย่างยั่งยืน  นอกจากนี้ ได้พัฒนา และเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หลายหลายแบบ ในทุกช่องทาง ทั้งแบงก์แอสชัวรันส์  ช่องทางตัวแทน  และธุรกิจเฉพาะ  โดยช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์  เจาะกลุ่มลูกค้ารายบุคคล  ลูกค้าสินเชื่อบ้าน  รถยนต์  และประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อธุรกิจสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยจะขยายความคุ้มครองให้ครอบครัวของลูกค้าอีกด้วย  

ทั้งนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยึดผลการสำรวจพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละช่องทางการขาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง   โดยเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ใหม่ จะเป็นแบบออมทรัพย์ทั้งระยะสั้น  ระยะกลาง  ระยะยาว  เพื่อเกษียณอายุ  มีการันตีผลตอบแทนแน่นอน  คุ้มค่าต่อการลงทุน  และได้สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีควบคู่กัน สำหรับช่องทางตัวแทนนั้น  เตรียมปรับโครงสร้างองค์กรภายใน  และปรับพื้นฐานต่างๆ  เพื่อรองรับโมเดลการพัฒนาตัวแทนแบบใหม่ ซึ่งบริษัทได้พัฒนาขึ้นเอง  ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ในต้นปี 2256