posttoday

เอ็กซิมแบงก์จับมืออินโดประกันเอสซีจี เคมิคอลส์

29 กุมภาพันธ์ 2555

เอ็กซิมแบงก์ จับมือองค์กรรับประกันแห่งชาติอินโดนีเซียคุ้มครองความเสี่ยงเอสซีจี เคมิคอลส์ ขยายการส่งออกสินค้าปิโตรเคมีไทย

เอ็กซิมแบงก์ จับมือองค์กรรับประกันแห่งชาติอินโดนีเซียคุ้มครองความเสี่ยงเอสซีจี เคมิคอลส์ ขยายการส่งออกสินค้าปิโตรเคมีไทย

นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์ และนายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์  ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ลงนามในกรมธรรม์ประกันการส่งออกของเอ็กซิมแบงก์ เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงในการส่งออกสินค้าเม็ดพลาสติกไปยังตลาดอินโดนีเซีย พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการเอ็กซิมแบงก์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการรับประกันต่อ (Reinsurance Agreement) ร่วมกับนายซาฟรีล ราซีฟ อามิร กรรมการผู้จัดการ PT Asuransi Ekspor Indonesia Persero (ASEI) หรืออาเซ่ ซึ่งเป็นองค์กรรับประกันการส่งออกแห่งชาติของอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ธสน. จะให้บริการประกันการส่งออกเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงด้านการชำระเงินค่าสินค้าส่งออกของผู้ผลิตถุงพลาสติกรายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซียให้แก่บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์  ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปิโตรเคมีครบวงจรรายใหญ่ของไทยและผู้ผลิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีอาเซ่เป็นผู้รับประกันต่อ (Reinsurer) ทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงต่อจากเอ็กซิมแบงก์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งในกรณีที่เอสซีจี พลาสติกส์ไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากการส่งออกดังกล่าวเนื่องจากความเสี่ยงทางการค้า ได้แก่ ผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธการชำระเงิน ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า หรือความเสี่ยงทางการเมือง  เอ็กซิมแบงก์ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้สูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น ตลอดจนช่วยติดตามหนี้คืนเมื่อมีปัญหา 

“เป็นครั้งแรกของความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินของรัฐในไทยและอินโดนีเซียเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้แก่บริษัทเอกชนรายใหญ่ของทั้งสองประเทศ ช่วยให้บริษัทปิโตรเคมีรายใหญ่ของไทยสามารถขยายธุรกิจผลิตและส่งออกเม็ดพลาสติกไปยังอินโดนีเซียได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า เพื่อส่งออกต่อไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรป และถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในเวทีการค้าระหว่างประเทศท่ามกลางโอกาสที่เปิดกว้างขึ้นในตลาดอาเซียนซึ่งกำลังก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 โดยใช้จุดแข็งของแต่ละฝ่ายเสริมสร้างโอกาสและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ ซึ่งจะขยายผลเป็นโอกาสในการพัฒนาภาคการผลิต การค้า และเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันในระยะยาวและยั่งยืน” นายคนิสร์กล่าว

ด้านนายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยทำให้ผู้ผลิตถุงพลาสติกในประเทศอินโดนีเซียมีวัตถุดิบผลิตสินค้าส่งออกในตลาดโลก ก่อให้เกิดการสร้างงานในภาคการผลิตอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันก็ทำให้เอสซีจี เคมิคอลส์มียอดส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 2,400 ล้านบาท และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์พลาสติกในภูมิภาคโดยรวม