posttoday

โลก Move On จากโควิดแล้ว ลงทุนอะไรดี

30 ธันวาคม 2564

ในช่วงกรระบาดของโควิด ในแง่การลงทุน เราจะพบว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ล้ำหน้าไปก่อนที่ประเทศเหล่านั้นจะกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษกิจตามปกติแล้ว

ขณะนี้หลายประเทศโดยเฉพาะประเทศใหญ่ในกลุ่มตะวันตก ฉีดวัคซีนให้ประชาชนในวงกว้าง ทำให้เมื่อรวมจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วกับผู้ที่เคยติดโควิดและหายเรียบร้อยแล้ว มีรวมกันเกินอัตรา 70% ของประชากรทั้งประเทศ ตัวเลขนี้เป็นสำคัญที่บ่งบอกว่าประเทศนั้นๆ มีภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ Herd Immunity และเป็นตัวเลขที่ระดับสากลยอมรับ ทำให้ประเทศเหล่านี้สามารถเปิดประเทศ กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ได้

เราจะเห็นว่า ประเทศในกลุ่มที่กล่าวมานี้ พยายามผลักดันเรื่องการกระจายวัคซีน รวมทั้งเน้นรักษาระดับอัตราการติดเชื้อ เพราะไม่ต้องการให้ประเทศตัวเองต้องกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้ง ซึ่งก็น่าจะดำเนินการได้

ขณะที่ประเทศในฝั่ง Emerging Market ซึ่งก็รวมถึงประเทศในแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยเอง ก็จะเดินตามแนวทางนี้เช่นกัน

เมื่อกลับมาดูในแง่ของการลงทุน เราจะพบว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ล้ำหน้าไปก่อนที่ประเทศเหล่านั้นจะกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษกิจตามปกติแล้ว โดยหุ้นหลายตัวปรับขึ้นไปรอก่อน เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมองไปถึงการลงทุนระยะยาว มองเห็นล่วงหน้าก่อนแล้วว่า ภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงเข้าไปลงทุนดักรอก่อน

จากการที่ประเทศต่างๆ ทยอยเปิดประเทศ เศรษฐกิจเริ่มกลับมา ผู้ลงทุนได้ให้ความสนใจกับ Theme การลงทุนที่สอดรับกับการเปิดประเทศ หรือ Reopening ซึ่งก็จะพบว่า กิจการหรือว่าหุ้นหลายๆ ตัวในกลุ่มนี้ปรับขึ้นไปมาก เมื่อเป็นเช่นนึ้จึงเกิดคำถามในใจตามมาว่า ควรจะลงทุนใน Theme นี้ต่อไปหรือไม่ หรือ Theme ไหนบ้างที่น่าสนใจลงทุนหลังเศรษฐกิจกลับมาเดินหน้า

วิธีการลงทุนที่ดี คือ เริ่มจากพิจารณาว่า หลังจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นในระยะยาว และโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลังจากผ่านพ้นผลกระทบจากโควิด หรือการหา Next Normal นั่นเอง จากนั้นก็พิจารณาเลือกลงทุนด้วยหลักการนี้

โดยรวมๆ แล้ว Next Normal ที่จะเกิด มี 3 ประเด็นหลักๆ ได้แก่

1. Stay at Home Economy โดยต่อจากนี้ไป บ้านจะไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยที่เรากลับไปพักผ่อนหลังเลิกงานอีกต่อไปแล้ว แต่บ้านจะกลายเป็นทั้งบ้าน สถานที่สันทนาการ และที่ทำงานในเวลาเดียวกัน ดังนั้น เทคโนโลยีที่จะสนับสนุนการทำงานจากที่บ้าน สนับสนุนการใช้ชีวิตลักษณะนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ อย่างเช่น Metaverse หรือชุมชนโลกเสมือนจริงที่กำลังถูกพัฒนาขึ้น ซึ่งจะทำให้ในอนาคต เราอาจได้ประชุมร่วมกันในโลกเสมือนจริงก็ได้

2. Touchless Society ถือเป็นอีกแนวโน้มที่เราต้องใช้ชีวิตไปในทิศทางนี้ โดยโควิดจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตเราเหมือนเดิม แต่การแพร่ระบาดก็คงไม่หายไปง่ายๆ เพียงแต่ความรุนแรงของโรคจะลดลง ขณะที่มาตรการต่างๆ จะยังคงอยู่ เพราะฉะนั้น ระบบหรือเทคโนโลยีที่สนับสนุนเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคมก็เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจ เช่น เทคโนโลยีไร้สัมผัส อย่าง การชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Payment

3. การดูแลสิ่งแวดล้อม เทรนด์นี้จะอยู่กับเราตลอดไป เพราะคนทั่วโลกต้องร่วมมือกันหาวิธีการช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนพลังงงานสะอาด หรือทำให้เกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ใน 3 เทรนด์ที่กล่าวมา กองทุนบัวหลวงก็มีหลายๆ กองทุนที่ลงทุนภายใต้แนวคิดเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น B-SIP ที่ให้ความสำคัญเรื่องการรักษาโลกใบนี้ B-INNOTECH ที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ BCARE ที่ลงทุนในธุรกิจสุขภาพ B-FUTURE ที่ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ หรือว่า B-GTO กองทุนที่เต็มไปด้วยกิจการที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาเติมเต็มการใช้ชีวิตของเรา