posttoday

ทำความรู้จัก K Target Retirementเตรียมเกษียณได้ง่าย ไม่ต้องปรับพอร์ตเอง

25 มิถุนายน 2564

ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) เป็นที่เรียบร้อยในปี 2564 ตามหลักเกณฑ์ที่ว่า มีจำนวนผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% จากประชากรทั้งหมด ซึ่งการที่คนไทยมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่สิ่งที่ไม่น่ายินดีและเป็นสิ่งที่คนไทยในวัยเกษียณส่วนใหญ่กำลังประสบอยู่ นั่นคือ การมีเงินออมที่ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ โดยสาเหตุหลักมาจากขาดการตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนเกษียณตั้งแต่เนิ่นๆ และขาดความรู้ความเข้าใจในการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ ส่วนผู้ที่ลงทุนก็ยังมีข้อจำกัดจากการลงทุนอยู่เฉพาะในประเทศ (Home Bias) ทำให้พลาดโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศอยู่ไม่น้อย

โดย กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ

ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย

ปัจจุบันมีเครื่องมือทางการเงินหลายรูปแบบที่ช่วยในการวางแผนเกษียณ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ กองทุนรวมเพื่อการเกษียณในรูปแบบของกองทุน ‘RMF Target Date’ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ ด้วยกลไกการปรับลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงให้อัตโนมัติตามช่วงอายุเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตลงเมื่อเข้าใกล้วัยเกษียณ ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงไม่ต้องเสียเวลาจัดสรรเงินด้วยตัวเองว่าจะนำไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชั่วโมงบินที่สูงกว่า จึงย่อมส่งผลให้ได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมตามแต่ละช่วงเวลามากกว่า

วันนี้ผมขอแนะนำกองทุนรวมเพื่อการเกษียณ ‘K Target Retirement’ ซึ่งเป็นกองทุน RMF น้องใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2035 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2035RMF) และ กองทุนเปิดเค ทาร์เก็ต รีไทร์เมนต์ 2040 เพื่อการเลี้ยงชีพ (K2040RMF) ซึ่งมีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ 1) กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า จากรูปแบบการลงทุนแบบ Fund of Funds ที่มีการกระจายเงินลงทุนไปในกองทุนต่างประเทศมากกว่า 2 กองทุนขึ้นไป ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่น และลดความผันผวน 2) กองทุนมีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ให้อัตโนมัติตามช่วงอายุ (Glide Path) โดยผู้จัดการกองทุนจะเน้นลงทุนหุ้นในช่วงแรกเพื่อให้เงินงอกเงย และเมื่อขยับเข้าใกล้วัยเกษียณกองทุนจะเน้นปกป้องเงินด้วยการเพิ่มสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้ให้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน และ 3) กองทุนได้รับการดูแลจากบลจ.ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ โดย บลจ.กสิกรไทย ร่วมบริหารกับ Capital Group ซึ่งเป็นบริษัทจัดการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารกองทุน Target Date ติดอันดับ Top 5 (ข้อมูล Morningstar ณ 31 ธ.ค. 63)

สำหรับการพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุน K2035 หรือ K2040 แนะนำให้ผู้ลงทุนที่มีแผนเกษียณอายุประมาณปี ค.ศ.2035 – 2040 (พ.ศ.2578 – 2583) พิจารณาจากปีที่ต้องการเกษียณเป็นหลัก ตัวอย่างเช่น ผู้ลงทุนที่มีอายุ 40 ปี และต้องการเกษียณตอนอายุ 55 ปี (ค.ศ.2035 / พ.ศ.2578) ซึ่งมีระยะเวลาเตรียมเกษียณ 15 ปี ควรเลือกกองทุน K2035RMF แต่หากต้องการเกษียณตอนอายุ 60 ปี (ค.ศ.2040 / พ.ศ.2583) ซึ่งมีระยะเวลาเตรียมเกษียณ 20 ปี ก็ควรเลือกกองทุน K2040RMF ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทุนเลือกลงทุนในกองทุน K2035 หรือ K2040 แล้ว ก็สามารถลงทุนในกองทุนเดิมได้ทุกปีจนกว่าจะเกษียณ เพราะ กองทุนมีการปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยงให้อัตโนมัติอยู่แล้ว

ผู้ลงทุนท่านใดที่กังวลว่าจะมีเงินไม่พอใช้ในวัยเกษียณ ผมเชื่อว่ากองทุน K Target Retirement จะตอบโจทย์การลงทุนเพื่อการเกษียณได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ผู้ลงทุนลองวางแผนกำหนดปีที่ต้องการเกษียณ แล้วเลือกลงทุนในกองทุน K2035 หรือ K2040 เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากทั่วโลกเพื่อเปิดรับชีวิตวัยเกษียณที่ดีในอนาคต

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุน K Target Retirement ได้ที่ https://bit.ly/38wakKh

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน