posttoday

มองหาโอกาสจากวิกฤตโควิด-19

11 มกราคม 2564

คอลัมน์ เข็มทิศนักลงทุน โดย...บลจ.กสิกรไทย

สวัสดีปีใหม่ 2564 ทุกท่านครับ เริ่มต้นปีมานี้ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังน่าเป็นห่วงอยู่ แต่จากบทความในคราวที่แล้ว ผมได้พูดถึงการลงทุนที่ยังทำได้ต่อเนื่องแม้จะเจอกับวิกฤตต่างๆ เพราะโอกาสยังมีอยู่เสมอ เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่าภายใต้วิกฤตโควิดเช่นนี้ เรายังพอมีโอกาสที่เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อการลงทุนมากน้อยแค่ไหน

‘วัคซีน’ ความหวังหลักของผู้ลงทุน

แม้ว่าตลอดทั้งปีที่ผ่านมาทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาด ทว่าก่อนสิ้นปี กลับมีข่าวดีให้ได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง หลังบริษัทยายักษ์ใหญ่จากฝั่งยุโรป และสหรัฐฯประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกที่ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 มีความคืบหน้ามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ทุกท่านยังต้องจับตาความคืบหน้าในการอนุมัติต่อไป รวมถึงกระบวนการแจกจ่ายใช้อย่างทั่วถึง และการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในอนาคตว่าจะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน

ตลาดหุ้นแพงไปแล้วรึยัง?

แม้ในหลายตลาดจะฟื้นตัวได้เร็วจากช่วงที่เชิ้อระบาดในรอบแรก โดยสามารถแตะ All Time High และซื้อขายแพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต อย่างไรก็ดี บลจ.กสิกรไทย มองว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจกว่าในเชิงเปรียบเทียบ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง อัตราดอกเบี้ยที่จะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกจนทำให้เกิดภาวะนักลงทุน “Search for Yield” สภาพคล่องที่ยังสูง อีกทั้งแนวโน้มพัฒนาไปในเชิงบวกจากความสำเร็จในการผลิตวัคซีน

ตลาดหุ้น Emerging Markets (EM) จะกลับมาจริงหรือ?

การมีวัคซีนและการทยอยใช้เป็นวงกว้างที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ทำให้เกิดความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก Consensus คาดการณ์เศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ประมาณ 5% ในปี 2564 แรงหนุนหลักมาจากกลุ่ม EM อย่างจีนและอินเดียที่อาจขยายตัวได้กว่า 8% อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มนี้มีความแตกต่างกัน โดยในภูมิภาคเอเชียมีการฟื้นตัวที่ดีกว่า โดยเฉพาะจีน ขณะที่บางประเทศยังมีความเปราะบาง เนื่องจาก ต้องพึ่งพาการค้านอกภูมิภาคสูง

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนค่าส่งผลต่อแนวโน้มการไหลเข้าของกระแสเงินทุนจากต่างชาติในตลาดเกิดใหม่ อีกทั้งนโยบายของสหรัฐฯภายใต้ประธานาธิบดีคนใหม่ที่น่าจะเอื้อต่อการค้าในกลุ่มเกิดใหม่ ส่งผลดีต่อการลงทุนในกลุ่มนี้ หากพิจารณาราคาหุ้นก็ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มพัฒนาแล้ว ด้วยเหตุนี้ หุ้นจีนและเอเชีย จึงมีความน่าสนใจด้วยปัจจัยหนุนดังที่กล่าวมาข้างต้น

ตราสารหนี้เอเชียที่ถูกจับตา

ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงจำเป็นต้องทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงอัดฉีดสภาพคล่องให้เพียงพอ เพื่อช่วยหนุนความสามารถในการกู้ยืมของภาคเอกชน อัตราดอกเบี้ยภาครัฐที่อยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึงสภาพคล่องส่วนเกินที่ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบผ่านธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้ความจำเป็นในการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น พฤติกรรม Search for Yield ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตราสารหนี้ Investment Grade (IG) นอกจากนี้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะลดบรรยากาศความตึงเครียดของนโยบายระหว่างสหรัฐฯ ต่อเอเชียโดยรวม อีกทั้งการบรรลุข้อตกลงทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะส่งผลดีต่อสินทรัพย์โดยรวมในเอเชีย ด้านค่าเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ตามปัจจัยด้านการไหลเข้าของเงินลงทุน และอัตราการเติบโตในปี 2564 ที่จะฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็วกว่า เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มที่พัฒนาแล้ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลเชิงบวกต่อตราสารหนี้ IG ในเอเชีย

โดยรวมในระยะถัดไป ตลาดยังคงให้น้ำหนักการลงทุนไปที่ความคืบหน้าของวัคซีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศแกนหลักต่างๆ ซึ่งจะเอื้อต่อการเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่จากความไม่แน่นอนต่างๆที่ยังคงปกคลุมสูง อีกทั้งตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมามาก ผู้ลงทุนยังควรใช้ความระมัดระวัง (Cautious และ Selective) ในการลงทุนและกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตฯ การทยอยสะสมลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารพอร์ตฯการลงทุนให้กับท่าน ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มีกองทุนหลากหลายให้ทุกท่านได้เลือกลงทุนให้เหมาะกับสภาวะตลาด ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ปีใหม่นี้แต่ละท่านคงมีเป้าหมายที่อยากจะทำให้สำเร็จแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าเป้าหมายในชีวิตจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้อย่าลืมกำหนดเป้าหมายทางการเงินควบคู่กันไปด้วยนะครับ เพื่อที่ท่านจะได้ประสบความสำเร็จในชีวิตและมีอิสรภาพทางการเงินในอนาคต