ติดตามผลกระทบการระบาดของไวรัสต่อเศรษฐกิจและการประชุมอีซีบี

สายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทยประเมินว่าเงินบาทผันผวนสูงต่อเนื่อง โดยอยู่ในกรอบ 31.10-31.50 ความกังวลต่อการระบาดของไวรัสระลอกที่ 2 และผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนติดตามสำคัญในเวลานี้หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจส่งผลให้หลายรัฐจำเป็นต้องกลับมาใช้มาตรการปิดเมืองอีกครั้ง ด้านตัวเลขเศรษฐกิจ ตลาดประเมินว่าเศรษฐกิจจีนไตรมาสที่ 2 จะกลับมาขยายตัว 2.5% จากที่หดตัวลง 6.0% ในไตรมาสก่อนหน้า ด้านโอเปกพลัสเตรียมหารือเพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม ขณะที่สหภาพยุโรปเตรียมเผยรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันศุกร์

ด้านนโยบายการเงิน ประเมินว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนโยบายการเงินสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบีให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่ามาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19 มีประสิทธิภาพ ความเห็นของคุณลาการ์ดสะท้อนจุดยืนของอีซีบีที่เปลี่ยนมารอดูผลของมาตรการแทนที่จะผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม ในฝั่งเอเชีย ธนาคารกลางญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินโดนีเซียมีกำหนดประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ภาพรวมตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงสัปดาห์ดีผ่านมา โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 31.035 – 31.345 เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากความกังวลของนักลงทุนต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการระบาดรอบที่ 2 ในสหรัฐฯ

ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปปรับลดประมาณการเศรษฐกิจยูโรโซนลงมาที่ -8.1% ในปีนี้ โดยมองว่าเศรษฐกิจอ่อนแอรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ในรอบก่อนหน้าจากมาตรการปิดเมือง และคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่จะยังไม่สมบูรณ์และไม่เท่ากันระหว่างประเทศสมาชิกจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

ด้านไทย รายงานการประชุมนโยบายการเงิน ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2020 ชี้ว่า คณะกรรมการประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่คาดและมีความเสี่ยงที่จะฟื้นตัวช้า จากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะอ่อนแอยาวนาน และผลกระทบในตลาดแรงงานของไทย ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ มองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบไม่ได้สะท้อนว่าไทยเสี่ยงเผชิญภาวะเงินฝืด ส่วนด้านเงินบาท คณะกรรมการมองว่าเงินบาทที่แข็งค่ามาจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าเป็นหลัก แต่จะติดตามผลของมาตรการสนับสนุนเงินทุนขาออกที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และประเมินความจำเป็นที่จะออกมาตรการเพิ่มเติม

เงินบาทยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าถือครองดอลลาร์จากความกังวลว่าการระบาดของไวรัสจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และแคลิฟอร์เนีย รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัส ขณะที่องค์การอนามัยโลกยอมรับว่าโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากรายงานเกี่ยวกับการเลิกจ้างแรงงานในหลายบริษัท โดยธนาคารเวลส์ ฟาร์โก เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ออกมาประกาศว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานหลายพันตำแหน่งภายในปีนี้ ทั้งนี้ เงินบาทปิดตลาดที่ 31.288 (วันศุกร์ เวลา 17.00 น.)