posttoday

คนเก่งจะไม่กลัว คนกลัวจะไม่เก่ง

27 พฤษภาคม 2563

คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...กำพล สุทธิพิเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย

ถ้าบอกว่าคนเก่งคือคนที่มีความสามารถ งั้นก็ต้องมีคำถามต่อว่าคนที่มีความสามารถดูจากอะไร ทุกวันนี้เราจะเห็นคนอยู่สองกลุ่ม คือ คนที่พยายามพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนที่เก่ง เป็นคนที่ฉลาด มีความสามารถในสิ่งที่ทำ พยายามพิสูจน์ว่าตัวเองมีคุณค่าอย่างไร กับอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้พยายามหรือแสดงออกว่าว่าตัวเองมีความสามารถ หรือเก่ง แต่กลับพยายามท้าทายตัวเองให้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ทุกคนเกิดมาพร้อมแรงผลักดันอันแรงกล้าที่จะเรียนรู้ ทารกพัฒนาทักษะในการดำรงชีวิตอยู่ของตัวเองทุกวัน ทั้งหัดพูด หัดเดิน หัดวิ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสำหรับทารก แต่เด็กก็จะลองทำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ตาม เด็กๆ จะไม่เคยคิดว่ามันยากเกินไป มันไม่น่าจะทำได้ หรือกลัวว่าจะทำผิดพลาด หรือกลัวจะเสียหน้า ถ้าล้มก็แค่ลุกขึ้นมาทำใหม่ มาถึงตอนนี้แสดงว่าทุกคนตอนเกิดมา ควรจะเก่งเท่ากัน เพราะทุกคนสามารถเดินได้ วิ่งได้ พูดได้ทั้งนั้น

แล้วอะไรที่ทำให้ตอนโตมา ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ในแบบตอนเป็นเด็กนั้นหายไป เพราะตอนที่โตขึ้นมาคนเราจะเริ่มรู้จักประเมินตัวเอง เริ่มกลัวความท้าทาย เริ่มกล้วความผิดพลาด เริ่มกลัวว่าจะถูกมองว่าไม่เก่ง อะไรหรือใครกันหนาที่เอากรอบความคิดแบบนั้นไปใส่ให้ แล้วไปใส่ให้ตอนไหน ในขณะที่บางคนไม่เป็น บางคนไม่กลัวที่จะผิดพลาด เพราะการผิดพลาดคือการได้เรียนรู้ ในขณะที่บางคนจะเลี่ยงหรือไม่ทำในสิ่งที่อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้

มีตัวอย่างงานวิจัย คือ ให้เด็กต่อจิ๊กซอว์ โดยให้เลือกได้ว่าจะต่อจิ๊กซอว์รูปที่เคยต่อไปแล้ว หรือจะต่อรูปใหม่ ก็จะมีเด็กอยู่สองกลุ่ม คือ มีบางกลุ่มที่เลือกต่อจิ๊กซอว์ที่เคยต่อไปแล้ว เพราะจะต่อเสร็จได้ง่าย ต่อเสร็จเร็วกว่าคนอื่น จะรู้สึกเหมือนว่าเป็นคนที่ต่อจิ๊กซอว์เก่ง เพราะเชื่อว่าคนเก่งจะทำอะไรได้สำเร็จเสมอ ในขณะที่อีกกลุ่มเลือกที่จะต่อจิ๊กซอว์รูปใหม่ แม้ว่ามันน่าจะยากกว่าต่อรูปเดิม และน่าจะต่อไม่ได้เร็ว แต่เขารู้สึกว่ามันน่าจะสนุกกว่าการมานั่งต่อรูปเดิมที่ต่อเป็นแล้ว เด็กกลุ่มนี้แม้ว่าจะต่อเสร็จช้ากว่า แต่เขาจะรู้สึกเก่งถ้าต่อรูปใหม่ได้สำเร็จ เพราะถ้าให้ต่อรูปเดิมเด็กกลุ่มนี้ไม่รู้จะต่อไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันรู้แล้วต้องต่ออย่างไร

เคยบ้างไหมตอนทำงานหรือตอนที่ประชุมต่างๆ มีบางเรื่องที่เราไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจ แต่ไม่ยอมถามหรือพยายามทำความเข้าใจ ณ ตอนนั้นเลย เพราะอะไร เพราะกล้วว่าคนอื่นจะมองว่าเราไม่เก่งหรือเปล่า แต่เรากลับไม่กลัวว่าเราจะไม่ได้เรียนรู้ หรือไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆ แสดงว่าเราไม่อยากเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเอง เราเต็มใจที่จะยอมไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆ เพื่อที่จะแลกกับการที่ตัวเองดูฉลาดในช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะที่บางคนไม่กลัวเสียหน้า กล้าที่จะถามหรือยกมือบอกว่าไม่รู้ หรือไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆ เพราะพวกเขาคิดว่าความเก่งจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีการเรียนรู้มากขึ้น ความเก่งไม่ใช่การพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเราเก่งในเรื่องที่เคยทำ

ในที่ทำงานเราเองก็จะเห็นคนที่วันๆ พยายามที่จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเก่ง คือ จะเลือกทำแต่งานที่ตัวเองทำได้ดี และเคยทำสำเร็จมาแล้ว ชอบที่จะทำซ้ำๆ แบบเดิม เพราะรู้สึกว่าปลอดภัย ยังไงก็สำเร็จแน่ๆ แม้ว่าจะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็ยอม หรือถ้าเป็นในที่ประชุมก็จะไม่ยอมยกมือตอบ หรือแสดงความเห็นใดๆ ถ้าไม่แน่ใจว่าคำตอบของตัวเองถูกแน่ๆ

ต้องลองถามตัวเราดูว่า เรารู้สึกว่าเราเก่งตอนไหนกันครับ ตอนที่เราสามารถทำทุกเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในสิ่งที่เราชำนาญอยู่แล้ว หรือตอนที่เรากำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เราเคยทำ แล้วเราทำสำเร็จ แม้ว่าจะถูกบ้าง ผิดบ้าง หรืออาจใช้เวลานาน

คนเก่งจริง เขาเป็นอย่างไรกัน เราคิดว่าคนที่เก่งจริงๆ เขาจะพยายามเอาเวลาไปแสดงให้เห็นว่าเขาเก่ง หรือเขาจะเอาเวลาไปพยายามเรียนรู้ในสิ่งที่เขาไม่เก่ง ทุกวันนี้ในยุคที่เทคโนโลยีมาทำลายล้างในหลายๆ ธุรกิจ น่าจะสะท้อนให้เห็นเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี คนที่ในอดีตเคยเก่งๆ เคยยิ่งใหญ่ ทุกวันนี้ล้มหายตายจากไปก็มาก

ถ้าเราต้องพิจารณาใครสักคนว่าเป็นคนที่เก่งไหม เราจะเลือกใครระหว่างคนที่พอใจกับเรื่องง่ายๆ และชื่นชมกับคำชมในสิ่งที่ตัวเองชำนาญอยู่แล้ว หรือ คนที่พยายามเรียนรู้ใหม่ๆ และกระตือรือร้นที่จะแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง

หลายคนจะถูกประเมินด้วยอะไรสักอย่างว่าเราเก่งหรือไม่เก่ง ซึ่งคนที่เก่งในวันนี้ เอาอะไรมามั่นใจว่าความเก่งในวันนี้จะคงอยู่ตลอดไป หรือคนที่ถูกมองว่ายังไม่เก่งในวันนี้ ทำไมจะเก่งขึ้นไม่ได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการที่คนอื่นหรือหัวหน้ามองเราว่าเก่งหรือไม่เก่ง คือการที่เรามองตัวเอง แล้วตอบตัวเองว่าเราเป็นคนเก่งแบบไหน

เราจะเป็นคนที่เก่งแบบพยายามพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเรามีความสามารถ หรือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นเห็นในเรื่องที่ไม่มีความสามารถ แล้วไม่ยอมเรียนรู้เพิ่มเติม กับคนเก่งอีกแบบที่ไม่ได้สนใจความเก่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่พยายามเรียนรู้ เพื่อปรับปรุงความไม่เก่งที่มีอยู่

อย่าลืมนะครับทุกคนเกิดมาเก่งเหมือนๆ กัน เราสามารถหัดพูด หัดเดิน หัดวิ่งมาได้เหมือนกันทุกคน แล้วอะไรที่ทำให้วันนี้เราห่างจากคนอื่น ถ้าไม่ใช่การยอมรับเรื่องไม่เก่งและพร้อมที่จะพัฒนา