posttoday

ถ้าหนี้ครัวเรือนระดับนี้ ต้องใช้ตัวช่วยคลินิกแก้หนี้

03 กุมภาพันธ์ 2563

คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) ตอนที่ 5/2563 โดย...สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร

ในเวลานี้นอกจากปัญหาสงครามการค้า การส่งออกไม่สดใส การท่องเที่ยวเจอกับโรคระบาดไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ต่อด้วยปัญหาฝุ่น PM 2.5 และความล่าช้าในการใช้จ่ายงบประมาณเพราะความไม่มีวินัย ใจสัตย์ซื่อ มือถือสาก ปากถือศีลของนักการเมืองบางคนบางกลุ่มแล้ว ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยที่เติบใหญ่มาจนอยู่ในระดับกว่า 13 ล้านล้านบาท

ด้วยเหตุที่หนี้ครัวเรือนของประเทศอยู่ในระดับที่น่ากังวลใจ และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มไม่สดใสนัก ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เล็งเห็นมาตั้งแต่ต้นแล้วว่าการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของปี 2563 นี้ โดยเฉพาะหนี้ที่ก่อจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล (กู้เป็นก้อนแล้วมาผ่อนเป็นงวด หรือพวกเงินผ่อน 0%) หนี้พวกนี้ดอกเบี้ยจะแพงมากๆ ยิ่งถ้าผิดนัดชำระแล้ว สถานการณ์แบบตกนรก มีหอกทิ่มแทงใจของคนเป็นลูกหนี้จะหนักหนาสาหัสมากๆ

การจัดให้มีโครงการคลินิกแก้หนี้ โดยธปท.ได้สนับสนุนให้ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) และสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อสองประเภทดังกล่าวมากกว่า 30 แห่งดำเนินการแก้ไขหนี้สินคนที่ค้างชำระเกินกว่า 90 วัน หรือลูกหนี้ NPL หรือภาษาชาวบ้านคือกลุ่มหนี้เสียนั่นเอง เกณฑ์หลักๆ ก็มีว่า

1. มีเจ้าหนี้แห่งเดียวหรือหลายแห่งก็ได้

2. เป็น NPL ก่อน 1 มกราคม 2563

3. จะเป็นหนี้เสียในขั้นตอนก่อนฟ้อง หรือหลังฟ้อง หลังคำพิพากษาของศาลก็ได้

4. ลูกหนี้มายื่นเอกสารกับ SAM ขอเข้าโครงการ

5. แจ้งรายได้และเอกสารบนความเป็นจริงไม่ปิดบังเพื่อให้ SAM รู้ถึงขีดความสามารถในการชำระหนี้

6. แจ้งสถานะความเป็นหนี้ด้วยการตรวจสอบภาระหนี้สินจากเครดิตบูโร ภาษาชาวบ้านคือตรวจเครดิตบูโร แล้วเอาเอกสารไปยื่นให้กับ SAM ผ่านช่องทางที่กำหนด

ด้วยความเป็นเครือข่ายที่ให้ช่วยเหลือประชาชนในการแก้หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ (ขนาดว่าธนาคารออมสินได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่รายล่าสุดที่เข้าร่วมโครงการนี้) เราจึงเชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือคนที่ติดกับดักในหนี้สินที่ก่อขึ้นมาในอดีตได้มีทางออก ไม่ต้องวิ่งไปหาเจ้าหนี้ทีละราย ไม่ต้องหยุดงานไปเจรจาทีละแห่ง ไม่ต้องมาประเมินว่าจะเคลียร์กับหนี้ก้อนใดก่อนหลัง เดินไปหา SAM บอกความจริงกับเขา ซื่อสัตย์กับตัวเองว่าจะมีวินัยในการแก้ไข คิดแต่ว่าต่อไปนี้จะ "กินอยู่แบบไม่ปรุงแต่ง" เข็ดแล้วกับอาการของมันต้องมี ไม่เอาอีกแล้วกับ เที่ยวไปก่อน ซื้อไปก่อน แล้วมาผ่อนทีหลัง หรือจำจนตายแล้วกับการรูดการ์ด รูดปรื๊ดๆ

หน้าที่หลักของ SAM คือเป็นคนกลางที่ช่วยเจรจาและประสานงานระหว่างเจ้าหนี้-ลูกหนี้ ทำให้การแก้ปัญหาหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งปกติจะเจรจาให้สำเร็จได้ค่อนข้างยากเกิดขึ้นได้จริง มีการรวมหนี้เบ็ดเสร็จ ไม่ถูกทวงจากเจ้าหนี้หลายราย และได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางและการแก้ไขปัญหาหนี้ ที่สำคัญมากๆ คือ ลูกหนี้จะได้รับข้อเสนอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่ผ่อนปรนเป็นพิเศษ คือ ผ่อนเฉพาะเงินต้น โดยมีระยะเวลาผ่อนนานถึง 10 ปี ซึ่งปกติถ้าไปเจรจากับเจ้าหนี้เดิมมักจะเรียกให้จ่ายคืนในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 6 เดือนเป็นต้น (ซึ่งมันทำได้ยากมากๆ) เช่น ถ้ามีหนี้ 1 แสนบาท ยอดผ่อนต่อเดือนจะอยู่ที่เพียงประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น และเมื่อผ่อนชำระเสร็จสิ้นตามสัญญาจะยกดอกเบี้ยค้างชำระให้ ท่านที่เป็นหนี้เสีย หนี้ NPL ครับ

1. หยุดการหนีหน้า และหนีหนี้

2. เผชิญหน้า เผชิญหนี้ เผชิญความจริงของชีวิต

3. พูดความจริง ไม่มีอะไรนอกจากความจริง

4. กลับมากินอยู่ตามฐานานุรูป กินอยู่ตามสภาพ ไม่ปรุงแต่ง มีน้อยใช้น้อย

5. ลดเวลาเล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เล่นอินสตราแกรม เลิกเล่นเวลาทำงาน กลับมาทำงานให้ดี ทำชีวิตตัวเองให้ดี

6. ออกไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย วิ่งแบบหวานเย็นนะครับ ไม่ต้องตั้งเป้าจะไปมาราธอนแบบเสื้อผ้า หน้าผม รองเท้าจัดเต็มนะครับ

7. เข้านอนแต่หัวค่ำ นอนให้หลับ ถึงเวลาตื่นต้องพยายามตื่น เวลาตื่นขึ้นมาแล้วให้พยายามหายใจต่อไปอย่าหยุดหายใจ

คิดอะไรไม่ออกให้เอารูปของบุพการีมาดูแล้วถามใจตัวเองว่า เรามาติดกับดักหนี้นี้ได้อย่างไร หนทางในการแก้หนี้ทางอื่นเป็นอย่างไร และคลินิกแก้หนี้คือคำตอบในเวลานี้ใช่หรือไม่... ขอบคุณที่ติดตามครับ