posttoday

เริ่มต้นจัดทัพลงทุนรับปี 2020

10 มกราคม 2563

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด

สวัสดีปีใหม่ปี 2020 ครับผู้อ่านทุกท่าน คงคิดว่าหลายๆท่านคงได้มีโอกาสลองสำรวจและประเมินการลงทุนในปีที่ผ่านมาของตนเองกันแล้วบ้างว่าเป็นอย่างไร ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผมก็มีโอกาสได้เจอเพื่อนๆหลายคนซึ่งแต่ละคนก็เล่าเรื่องการลงทุนของตนเองและได้ผลการลงทุนที่แตกต่างกันไป

- คนแรกจะเล่าว่าปี 2019 เป็นปีการลงทุนที่ไม่ดีเลย พอร์ตการลงทุนไม่โต หุ้นในพอร์ตบางตัวติดลบ ปี 2019 ถือว่าเป็นหนึ่งปีที่การลงทุนได้ผลการลงทุนไม่ถึงเป้าหมาย

- แต่คนที่สองบอกว่าปี 2019 ถือว่าเป็นหนึ่งปีที่ผลการลงทุนออกมาดีมากเลย ได้ผลตอบแทนสูงกว่า 15% เสียอีก

- ส่วนคนที่สามบอกว่าปี 2019 คือปีที่ได้ผลตอบแทนตามคาดหวังคือประมาณ 10%

ท่านผู้อ่านพอเดากันออกไหมครับว่าเพื่อนผมแต่ละคนลงทุนในอะไร และอย่างไรกัน? แต่ก่อนเฉลยผมขอพามาอัพเดทผลการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลกแบบผลตอบแทนรวม (Total return) ในปี 2019 กันก่อน SET Index (ดัชนีตลาดหุ้นไทย) +4.26% MSCI ACWI Index (ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก) +27.95% MSCI World Index (ดัชนีตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว) +28.44% MSCI Emerging Market Index (ดัชนีตลาดหุ้นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา) +19.42% S&P500 Index (ดัชนีตลาดหุ้นประเทศสหรัฐอเมริกา) +32.22% ตราสารหนี้ทั่วโลก + 8.67% และหน่วยลงทุนอสังหาฯไทย + 22.39%

จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี แต่สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 2019 นั้นได้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าที่อื่นๆ หากเรามองแค่เฉพาะผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (ไม่รวมปันผล) ตลาดหุ้นไทยปีที่แล้วให้ผลตอบแทนเพียงแค่ +1.02% เท่านั้นเอง

พอมาถึงตอนนี้ผู้อ่านก็พอจะเดาออกแล้วใช่ไหมครับว่าเพื่อนผมแต่ละคนลงทุนอะไร?

- สำหรับคนแรก เลือกลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยลงทุนในหุ้นรายตัว บางตัวให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็มีบางตัวที่ขาดทุน สุทธิแล้วแทบจะไม่ได้อะไร นอกจากนั้นก็ยังลงทุนในกองทุนรวมตลาดหุ้นไทยซึ่งผลตอบแทนก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก บางกองบวก บางกองลบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเพื่อนคนแรกแทบไม่ได้อะไรกลับบ้านไปจากการลงทุนปี 2019

- สำหรับคนที่สองเน้นการลงทุนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ชอบการลงทุนในกองทุนรวมในประเทศสหรัฐอเมริกา, จีน, กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ฯลฯ ในพอร์ตโฟลิโอส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นต่างประเทศ ใช้วิธีมีเงินว่างก็อัดซื้อกองทุนหุ้นต่างประเทศ พอมีเงินก้อนใหม่ก็อัดซื้อเข้าไปใหม่ ดังนั้นจึงได้ผลตอบแทนที่สูงมาก ๆ ในปี 2019

- สำหรับคนสุดท้ายที่ได้ผลตอบแทนประมาณ 10% ก็เป็นเพราะในพอร์ตโฟลิโอมีการผสมผสานลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ทั้งตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และ หน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ วิธีการลงทุนคือจัดสัดส่วนลงทุนแต่ละสินทรัพย์ไว้ พอมีเงินลงทุนเพิ่มก็ทยอยเข้าซื้อแต่ละสินทรัพย์ตามสัดส่วน ผลตอบแทนจึงได้กลางๆ และผันผวนน้อย

ถ้าหากถามว่าในปี 2020 นี้จะเลือกวิธีการลงทุนแบบไหนแล้วให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด คำตอบก็คือ “ผมไม่รู้” แต่สิ่งที่แนะนำและควรทำคือ “การลงทุนควรจะต้องมีแผนการและกระจายลงทุนอย่างเหมาะสม” ซึ่งในบทความนี้ผมจะขอพูดเรื่องการกระจายลงทุนก่อน

จะเห็นได้ว่าเพื่อนคนแรกมีการลงทุนแต่ในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการลงทุนจะมีความเสี่ยงกระจุกตัวอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น อีกแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจคือการลงทุนเราจะต้องถือลงทุนยาว ในระยะสั้นเพียงแค่ปีเดียวอาจจะวัดกันไม่ได้ แต่หากเราย้อนกลับไปดูดัชนีหุ้นไทยจะพบว่าดัชนีหุ้นไทยวิ่งขึ้นลงผ่าน 1600 จุดในปี 2013 – 2015, 2017-2019 และเริ่มต้นปี 2020 เราก็เริ่มต้นที่ต่ำกว่า 1600 จุด ดังนั้นการซื้อถือยาวอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ แต่หากวางแผนให้ดี การกระจายลงทุนอย่างเหมาะสมแล้ว โดยที่เรามีการติดตามปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องลงทุนยาวๆ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่า

ส่วนเพื่อนคนที่สองถือว่าโชคดีมาก ที่ปี 2019 ตลาดต่างประเทศให้ผลตอบแทนที่ดี แต่สิ่งที่สามารถจะทำให้พอร์ตการลงทุนดีขึ้นได้อีกก็คือการรักษาระดับสัดส่วนสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก อย่างเหมาะสม เพราะพอร์ตการลงทุนมีแต่การลงทุนในหุ้นต่างประเทศเพียงอย่างเดียว หากอนาคตมีเงินก้อนใหม่เข้ามาลงทุนอาจจะลองพิจารณาซื้อกองทุนตราสารหนี้ อสังหาฯ หรือทองคำ โดยการมีสินทรัพย์อื่น ๆ เพิ่มเข้าไปในพอร์ตจะช่วยลดความผันผวนและมีการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้นอีกด้วย

ส่วนเพื่อนคนสุดท้ายได้มีการจัดพอร์ตโฟลิโออย่างเหมาะสมแล้ว เขาได้มีการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับตนเองและเป้าหมายการลงทุน (เป้าหมายคือการเกษียณ ซึ่งในที่นี้ยังมีเวลาลงทุนเป็น 10ปี และเป็นคนยอมรับความเสี่ยงการลงทุนได้) สิ่งที่สามารถทำเพิ่มได้คือ การปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์และมีวินัยการลงทุน โดยลงทุนตามแผนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากยึดมั่นลงทุนตามแผนที่วางไว้ การบรรลุเป้าหมายทางการเงินก็คงจะเป็นเรื่องไม่ยากอย่างแน่นอน

อีกส่วนหนึ่งที่ผมเกริ่นนำไปข้างต้น เรื่องแผนลงทุน ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำคัญก่อนที่เราจะเริ่มลงทุน เหมือนกับวันนี้เราเดินออกจากบ้านก็คงจะต้องมีจุดหมายว่าเราจะไปไหน การลงทุนก็เช่นกันครับว่าเราลงทุนเพื่ออะไร ซึ่งแผนการลงทุนมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1 กำหนดเป้าหมายของพอร์ตการลงทุนว่าลงทุนเพื่ออะไร

2 รู้จักตนเอง ว่าสามารถยอมรับความเสี่ยงการลงทุนได้ขนาดไหน

3 จัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุน

4 ลงทุนตามแผนที่วางไว้อย่างมีวินัย

5 ติดตามผลและปรับกลยุทธ์

เราลองมาเริ่มต้นทำสิ่งดีๆให้กับตัวเองกันนะครับ ลองเริ่มคิดแผนลงทุนและจัดทัพลงทุนให้เหมาะสมตั้งแต่วันนี้เพื่อผลลัพธ์ทางการเงินที่ดีในปี 2020 ถ้าหากท่านผู้อ่านคิดว่าต้องการตัวช่วยในการทำแผนลงทุนในขั้นตอนที่ 1-5 SCBS ก็มีบริการดีๆ ชื่อ ROBO ADVISOR ที่จะช่วยทำให้เรื่องแผนการลงทุนยากๆเป็นเรื่องง่ายๆ โชคดีในการลงทุนตลอดปี 2020 ครับ