posttoday

ฝีมือผู้จัดการกองทุน กับการกระจายความเสี่ยง

27 พฤศจิกายน 2562

คอลัมน์ รู้รอบโลก รู้รอบรวย โดย...ดร. ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย

คอลัมน์ รู้รอบโลก รู้รอบรวย โดย...ดร. ตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย

การลงทุนคือการมองไปข้างหน้า มีหลายๆ บทวิเคราะห์ที่ลงความเห็นว่าผลตอบแทนโดยรวมของหุ้นและตราสารหนี้โลกในอีก 3-5 ปีคงจะไม่สูงมาก แต่ด้านความเสี่ยงของสินทรัพย์ในโลกนั้นน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การกระจายความเสี่ยงระหว่างหุ้นและตราสารหนี้ยังคงให้ผลดีและเป็นกลยุทธ์มาตรฐานที่ควรจะมีในพอร์ต แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงหลังโอกาสที่ราคาหุ้นและตราสารหนี้จะลดลงพร้อมกันมีมากขึ้น ผมก็มองอย่างนั้นเช่นกันว่าผลตอบแทนจะต่ำลงและความเสี่ยงจะสูงขึ้น

ทางออกของบรรยากาศการลงทุนเช่นนี้ คงต้องเน้นลงทุนในสิ่งที่นักลงทุนมีความมั่นใจระยะยาว เสริมการกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนที่มีความผันผวนที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกับสิ่งที่มีในพอร์ต วันนี้การพูดถึงการกระจายความเสี่ยงอาจไม่ได้เป็นเพียงการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์แต่เพียงอย่างเดียว การกระจายความเสี่ยงไปยังกลยุทธ์ที่หลากหลาย ที่ไม่ได้ผันผวนในลักษณะเดียวกันกับสินทรัพย์ และนำผลตอบแทนที่เป็นบวกของหลายๆส่วนมารวมกันและมีความผันผวนที่แตกต่างกันจะเพิ่มความเสถียรให้กับพอร์ตการลงทุนมากขึ้น

ผมขอยกตัวอย่าง เวลาลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศโดยปกติจะมีความเสี่ยงในสามด้านด้วยกัน 1. อัตราแลกเปลี่ยน 2. อัตราดอกเบี้ย 3. โอกาสการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งสามด้านเป็นความเสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนได้ การซื้อตราสารหนี้ตรงๆ หรือผ่านกองทุนรวม คือวิธีที่จะลงทุนในสินทรัพย์ แต่การลงทุนในกลยุทธ์ ก็คือการจัดการบริหารจัดการความเสี่ยงทั้งสามนี้ ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีความเสี่ยงนี้เลยก็ได้ เช่นการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี และการขายพันธบัตรรัฐบาลไทย 2 ปี กลยุทธ์ดังกล่าวดึงความเสี่ยงที่อัตราดอกเบี้ยไทยจะขึ้นลงออกไป เหลือไว้แค่ส่วนต่างระหว่าง 2 ปีและ 10 ปี ซึ่งโดยปกติผลตอบแทนจะเป็นบวกแค่ต่ำมาก เนื่องจากเป็นส่วนต่างเท่านั้น ดังนั้นการลงทุนแบบกลยุทธ์จึงอาศัยอัตราทด เข้ามาเพิ่มผลตอบแทน ที่เดิมส่วนต่างผลตอบแทนอาจเป็นแค่ 0.4% หากทด 8 เท่าอาจได้ถึง 3.2% เลยทีเดียว

การลงทุนลักษณะนี้ จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเพื่อที่จะวางกลยุทธ์ กระจายความเสี่ยงของแต่ละกลยุทธ์ และ ควบคุมความเสี่ยงโดยรวม ดังนั้นพอร์ตลักษณะนี้จะพึ่งพิงความสามารถของผู้จัดการกองทุนเป็นหลักและ พึ่งพิงการขึ้นลงของสินทรัพย์เป็นรอง จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้จัดการกองทุนที่ชำนาญมากๆ โดยการจ่ายค่าธรรมเนียมของผู้จัดการกองทุนหลักจะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่ทำได้ อีกไม่นาน KBank Private Banking จะนำเสนอกองเหล่านี้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและช่วยให้การกระจายความเสี่ยงในพอร์ตดีขึ้นด้วย