posttoday

องค์ประกอบของความสำเร็จในชีวิต

13 พฤศจิกายน 2562

คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...กำพล สุทธิพิเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสธนาคารกสิกรไทย

คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...กำพล สุทธิพิเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสธนาคารกสิกรไทย

หัวข้อวันนี้เป็นประโยคที่ผมเองพูดกับตัวเองบ่อยๆ พูดให้ทีมงานฟังบ่อยๆ ทุกคนล้วนประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น อาจจะเป็นเรื่องของการงาน อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนมีความฝัน มีความหวัง มีความปรารถนา และมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ที่ใครต้องการแบบไหน ดังนั้นความสำเร็จของคนหนึ่งจึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับอีกคนหนึ่งได้ว่าใครสำเร็จมากสำเร็จน้อยกว่ากัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันแน่ๆ คือ ความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงความฝัน ความหวัง ความปรารถนา หรือเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

อยากประสบความสำเร็จก็ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองอยากประสบความสำเร็จอะไรใช่ไหมครับ แสดงว่าเราต้องมีเป้าหมายก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าเรากำลังจะมุ่งไปหาอะไร เป้าหมายที่เราคิดว่าเป็นความสำเร็จของเราคืออะไร ถ้าชีวิตเราไม่มีเป้าหมาย เราจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร เปรียบเสมือนเวลาเราเล่นฟุตบอล ถ้าไม่มีประตู ลองนึกภาพดูว่านักเตะจะเล่นกันอย่างไร จะส่งลูกไปทางไหน จะเลี้ยงลูกไปทางไหน จะส่งลูกไปเพื่ออะไร ชีวิตคนที่ไม่มีเป้าหมายก็ประมาณนั้นเลยครับ

หลังจากมีเป้าหมายในชีวิตแล้ว ส่วนประกอบถัดไปเป็นนามธรรม วัดไม่ได้ชัด แต่กลับเป็นเรื่องจริงและสำคัญ คือ “ความเชื่อ” ความเชื่อที่ว่าเราประสบความสำเร็จได้ คนหลายคนเจอความล้มเหลวบ่อยครั้งในเรื่องที่อยากประสบความสำเร็จ จริงๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง ไม่มีความสามารถ แต่เพราะเขาขาดความเชื่อที่ว่าเขาทำได้ หลายคนชอบคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จนั้นเป็นคนที่เก่ง เป็นคนที่มีความสามารถ แต่ลองไปดูเถอะครับว่าคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ส่วนใหญ่นั้นได้ทำงานตรงกับทักษะที่เรียนมาเท่าไรเชียว น้อยครับ อย่างที่บอกเรื่องนี้วัดไม่ได้แต่จริง เพราะความเชื่อคือพลังภายในตัวเราที่สามารถเปลี่ยนเป้าหมายทุกอย่างให้กลายเป็นความสำเร็จ

มีเป้าหมายแล้ว เชื่อแล้วว่าต้องทำได้ ก็ไม่ต้องรออะไรแล้วครับ ลงมือทำเลย การมีเป้าหมายอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้ หรือนำมาซึ่งความสมหวังในสิ่งที่เราต้องการได้ หากปราศจากการลงมือทำในทันที หลายคนมากที่ไม่กล้าลงมือทำตามความฝัน เพราะกลัวความล้มเหลว กลัวว่าตัวเองจะทำไม่สำเร็จ มีคนมาปรึกษาผม มีหลายคนที่กลัวจะทำไม่สำเร็จ ในสิ่งที่คิดว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ ผมฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะรู้สึกสงสารหรือรู้สึกตลกดี

อย่าปล่อยให้ความกลัวและความไม่กล้ามาฉุดให้เราแช่นิ่งอยู่ในความฝันที่ไม่สามารถกลายเป็นความจริงได้ แต่จงลุกขึ้นแล้วก้าวเดินออกไปข้างหน้าด้วยความหวัง และความเชื่อมั่นว่าเราทำได้ ไม่มีอะไรยากเกินไปกว่าความตั้งใจของคนเราครับ

อย่าผัดวันประกันพรุ่ง การที่เราเริ่มลงมือทำแล้วนั้น เราจะประสบความสำเร็จเร็วหรือช้าก็อยู่ที่นิสัยผัดวันประกันพรุ่งของเราเอง เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราผัดวันประกันพรุ่งออกไป ก็เท่ากับว่าเราเองนั้นได้ผลักความสำเร็จของเราให้ออกไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ คนเราที่ทำแบบนี้เพราะอาจจะกลัวและวิตกกังวลกับผลที่จะตามมา จึงขอยืดเวลาที่จะเผชิญกับมันออกไปก่อนหรือออกไปให้นานที่สุด นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของเราแล้ว การผัดวันประกันพรุ่งออกไปยังเป็นตัวขัดขวางความสุขความสบายใจของเราอีกด้วยซ้ำ เพราะหากไม่รีบลงมือทำสิ่งนั้น ความทุกข์ความวิตกกังวลใจก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ต่อไป แต่ถ้าเราตัดสินใจทำ แม้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งแรกที่พบคือ ความกังวลใจต่างๆ นานาจะหายไป ดังนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามในชีวิตเรา ถ้าเราเผชิญหน้ากับมันเร็ว เราก็จะผ่านมันไปเร็ว

องค์ประกอบอีกอย่างที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือ ความอดทน ซึ่งดูเหมือนคนรุ่นใหม่ๆ จะมีความอดทนในเรื่องต่างๆ ค่อนข้างต่ำ อยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องอดทนอะไรมากมาย ถามจริงๆ ครับว่ามีหรือครับสิ่งที่ว่านั้น ไม่มีหรอกครับ อดทนต่ออะไร ตอบง่ายๆ เลยครับ มีอยู่สองคำคือ อดกับทน และต้องอดและทนกับอะไร ก็คือ “อด” ในสิ่งที่อยากได้แล้วไม่ได้มา “ทน” ในสิ่งที่ไม่อยากได้แล้วได้มา

หากปราศจากความอดทนแล้ว ความสำเร็จคงเกิดขึ้นได้ยาก มีหลายครั้งที่หลายคนทิ้งความหวังบางอย่างของเขาลงกลางคัน เพียงเพราะเขาไม่มีความอดทนต่อความยากลำบากที่เผชิญระหว่างที่ไปยังเป้าหมายข้างหน้า เขาไม่มีความอดทนต่อความยากลำบากที่กำลังทำอยู่ เขาไม่มีความอดทนต่อความหนักหนาของปัญหาและอุปสรรคที่ขัดขวางเขาอยู่ สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

ลงมือทำแล้ว อดทนก็แล้ว สิ่งหนึ่งที่คนทุกคนต้องเจอแน่ ๆ ไม่มีวันหนีพ้น คือ ความล้มเหลว ดังนั้นองค์ประกอบของคนที่ประสบความสำเร็จอันสุดท้าย คือ อย่ากลัวความล้มเหลว ความล้มเหลวไม่ได้น่ากลัวหรือทำให้เราพ่ายแพ้ในชีวิต แต่ความล้มเหลวเป็นบทเรียนสอนให้เราเก่งขึ้น ทุกๆ ครั้งที่เราเริ่มต้นใหม่ หลายๆ ครั้งที่เราทำผิดพลาด หรือประสบกับความล้มเหลว มันกำลังบอกเราว่าเรามีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ทำน้อยเกินไป แต่ก็ทุกครั้งที่เราทำพลาดไป สิ่งที่เราได้ตอบแทนกลับมาก็คือ ความรู้ความเข้าใจในสิ่งนั้นที่มากขึ้น

ความล้มเหลวเป็นกระบวนการของการสร้างการเรียนรู้ โดยการทำให้เราล้มเพื่อจะได้เรียนรู้วิธีการลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เมื่อเราเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นใหม่ได้ เราก็จะกล้าที่จะก้าวเดินต่อไปเพื่อให้ถึงเป้าหมายในชีวิตของเราโดยที่ไม่กลัวล้ม เพราะเราลุกเป็นแล้ว สุดท้ายไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจของเรา หากสิ่งไหนที่เรายังทำไม่ได้ จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากหรอก เพียงแต่เรายังตั้งใจไม่มากพอต่างหาก