Bill Gates ยิ่งให้ ทำไมยิ่งรวย

คอลัมน์ Wealth Design โดย...เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

ช่วงที่ผ่านมา Bill Gates ได้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิที่เขาบริหารอยู่ เป็นมูลนิธิที่เน้นไปทางช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสไปมากถึง 35,000 ล้านเหรียญ หรือมากกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่ตัวของคุณบิลก็ไม่ได้รวยน้อยลงเลย ในปี 2019 นี้ ยังสามารถมาเพิ่มความมั่งคั่งขึ้นได้อีก 16,000 ล้านเหรียญ หรือราว 490,000 ล้านบาท ปัจจุบัน มีความมั่งคั่งอยู่ที่ราว 106,000 ล้านเหรียญ หรือกว่า 3.2 ล้านล้านบาท ร่ำรวยเป็นอันดับ 2 ของโลกรองมาจากคุณ Jeff Bezos อะไรคือความลับของความมั่งคั่งของเขา ไปดูกัน

สิ่งที่ทำให้ความมั่งคั่งของคุณบิลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีๆ คือสไตล์การลงทุนของเขา ที่เน้นไปที่หุ้น โดยพอร์ตโฟลิโอของเขา มีหุ้นมากกว่า 60% (ปัจจุบัน คุณบิล เกตต์ยังถือหุ้น Microsoft ที่เขาก่อตั้งขึ้นประมาณ 330 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นเงินประมาณ 45,000 ล้านเหรียญ) เขาจะไม่ลงทุนเชิงรับ จากความมั่งคั่งที่เขามีอยู่ ก็แสดงว่าเขามีหุ้นหรือ ETF ในมือไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะหากเปรียบเทียบกับนักลงทุนในทวีปอเมริกาเหนือทั่วไป ซึ่งอยู่ที่ราว 32% โดยมีสัดส่วนการลงทุนที่ค่อนข้างเยอะในพวกพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงอสังหาริมทรัพย์

คุณบิลยังเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และของโลก โดยกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าหุ้นอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงมากแล้วเหมือนในช่วงอดีตที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบกับสินทรัพย์อย่างอื่น เช่นพันธบัตรอายุ 10 ปี ที่มีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่า 2% ซึ่งถือว่าต่ำมาก”

นี่คือมุมมองและสไตล์การลงทุนของคุณบิล เกตต์ครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นต้นแบบในการลงทุนของเรานะครับ คนเราไม่เหมือนกัน มีเป้าหมายและเวลาในการลงทุนที่ต่างกัน รวมถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงก็ต่างกันเช่นกัน ดูๆ ไว้เป็นกรณีศึกษาที่ดีก็พอ ส่วนตัวเราก็ต้องมาสำรวจดูว่ามีเป้าหมายอย่างไร และรับความเสี่ยงได้มากขนาดไหน ถ้ารู้สึกเสี่ยงมากเกินไป ลงทุนแล้วไม่มีความสุขก็ไม่ควรทำครับ อย่างกรณีของคุณบิล หุ้นส่วนใหญ่ของเขาก็ยังเป็นหุ้น Microsoft ที่เขาก่อตั้งขึ้นมาอยู่ ถึงแม้จะขายออกไปเยอะมากแล้วก็ตาม

Bill Gates ให้ไปเยอะมากแล้วแต่ความรวยก็ยังไม่ลดลง ถ้ามองในแง่ของการลงทุน ปัจจัยหลักที่ทำให้ความมั่งคั่งของคุณบิลเป็นแบบนี้ คือสัดส่วนการถือหุ้นที่ค่อนข้างสูง และหุ้นที่คุณบิลถือก็เป็นหุ้นที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง มีการซื้อหุ้นคืนอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเติบโตขึ้นได้ตลอด การลงทุนในหุ้น Microsoft ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเช่นกัน ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้วและก็เป็นแบบนี้มาอย่างยาวนาน ในอนาคตข้างหน้าก็ยังคาดว่าจะยังเป็นแบบนี้ต่อไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้เรียนรู้จากกรณีศึกษานี้ก็คือ “การให้” ครับ นักลงทุนที่ดี ต้องรู้จักคำว่าให้ด้วยเช่นกัน เพราะการให้จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจและรู้จักคำว่าพอ คงจะไม่ดีแน่ ถ้าเรามั่งคั่งขึ้น แต่เป็นคนที่ให้อะไรใครไม่เป็นและไม่รู้จักคำว่าพอครับ

**ล่าสุดทาง Microsoft ได้ประกาศเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสจาก 0.46 เหรียญมาเป็น 0.51 เหรียญ และมีการเพิ่มวงเงินสำหรับซื้อหุ้นคืนเป็น 40,000 ล้านเหรียญโดยไม่กำหนดวันสิ้นสุดและสามารถยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้น Microsoft ปรับตัวเพิ่มขึ้น +36% S&P 500 +18% แต่ถ้านับผลตอบแทนแบบ 1 ปีที่ผ่านช่วงตลาดตกหนักในเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วย หุ้น Microsoft +25% ส่วน S&P 500 +2.3% เท่านั้น

ปัจจุบัน ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์วินโดว์สและไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 83% มีเงินสด 140,000 ล้านเหรียญหรือคิดเป็น 16% ของราคาหุ้นปัจจุบัน ข้อมูลถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2019**