เที่ยวไหนดี ค่าเงินถูกขนาดนี้ อยากบิน
คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...K-Expert บุษยพรรณ วัชรนาคา ที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารกสิกรไทย
คอลัมน์ ตลาดนัดการเงิน โดย...K-Expert บุษยพรรณ วัชรนาคา ที่ปรึกษาการเงิน ธนาคารกสิกรไทย
ใกล้จะปลายปีแล้ว ไปเที่ยวไหนดีนะ? ญี่ปุ่น เกาหลี หรือยุโรปดี?
ก่อนจะตอบคำถามนี้ K-Expert อยากชวนคุณไปดูตัวเลขเรื่องการออกไปเที่ยวของชาวไทยกันก่อนว่า หลายปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้าง
จากตัวเลขจะเห็นว่า คนไทยนิยมไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงมียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวขาออกสูงถึง 8.83 ล้านคน มียอดใช้จ่ายรวม 286.02 พันล้านบาท ส่วนจุดหมายปลายทางว่าประเทศไหนคนไทยชอบไปกันมาก ก็หนีไม่พ้นโซนเอเชียอย่างญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้
นอกจากนี้ จากผลสำรวจแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study) ถึงการวางแผนท่องเที่ยวในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยสำรวจเกี่ยวกับเทรนด์และพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักเดินทาง 17,500 รายจาก 27 ประเทศทั่วโลก พบว่า นักท่องเที่ยวไทยติดอับดับการเดินทางไปต่างประเทศบ่อยที่สุด ด้วยจำนวนทริปที่คาดว่าจะเพิ่มเป็นปีละ 3.9 ทริปภายในปี 2562
ย้อนกลับมาคำถามที่ว่า แล้วปีนี้จะไปเที่ยวไหนดี? โดยทั่วไป ถ้าจะเดินทางออกนอกประเทศเพื่อการพักผ่อนหรือไปเที่ยวกับครอบครัวในวันหยุดยาว การเลือกประเทศจุดหมายปลายทางนั้นอาจมาจากความชอบ สายการบินขยายเส้นทาง จุดหมายปลายทางใหม่ๆ งบประมาณหรือการจัดโปรโมชั่นราคา
แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา สังเกตไหมว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในมุมคนอยากไปเที่ยวนอก การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเท่ากับว่าเราใช้เงินจำนวนเท่าเดิม แต่จะแลกเงินของประเทศปลายทางได้เพิ่มขึ้น และนั่นก็หมายความว่า ไปเที่ยวแล้วคุ้มขึ้นนั่นเอง!!! ได้เวลาไปเที่ยวแล้วสิเรา
ลองปักหมุดประเทศปลายทางจากค่าเงิน
อันดับแรก K-Expert เอาตัวเลขอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศต่างๆ ในปี 2561 เทียบกับปี 2562 พบว่า ในทุกประเทศประเทศหลักนั้น เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบทั้งหมด นำมาโดยประเทศแถบสแกนดิเวียอย่าง สวีเดน นอร์เวย์ ตามมาด้วยประเทศในแถบยุโรปตะวันออกอย่าง ฮังการี เช็ก โปแลนด์
ส่วนประเทศยอดนิยมสำหรับชาวไทยอย่างญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน หรือเวียดนามที่เป็นน้องใหม่มาแรงสำหรับนักเดินทาง ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย อย่างไรก็ดี ถือว่ายังเหมาะกับการจัดกระเป๋าเดินทางไปเยือน
คำถามคือ อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกับการเลือกประเทศไปเที่ยวจริงเหรอ?
ตัวอย่างงานศึกษาของ World Travel & Tourism Council ที่ใช้ตัววัดที่เรียกว่า Visitor-weighted exchange rate เพื่อดูผลจากการเปลี่ยนแปลงค่าเงินต่อตัวเลขการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ พบว่า การแข็งขึ้นหรืออ่อนลงของอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศนักท่องเที่ยว มีผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศปลายทาง เช่น เม็กซิโกมีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากประเทศที่ใช้เงินสกุล USD เป็นหลัก ดังนั้นช่วงปี 2012-2015 ที่เงิน USD แข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบเปโซ นักท่องเที่ยวรู้สึกว่างบเที่ยวของพวกเขาถูกลงไปมาก จึงส่งผลให้ออกเดินทางไปนอกประเทศและมีผลดีต่อธุรกิจท่องเที่ยวในเม็กซิโกนั่นเอง
ดังนั้น คุณอาจลองเล็งประเทศปลายทางสำหรับทริปถัดไป จากตารางอัตราแลกเปลี่ยนข้างบนดูก็ได้นะ
เช็คสภาพอากาศว่า อยากไปเที่ยวแบบไหน
อีกเรื่องที่พลาดไม่ได้เวลาวางแผนเที่ยว ก็หนีไม่พ้นการเช็คสภาพอากาศของประเทศปลายทาง บางประเทศเหมาะที่จะไปเพียงบางฤดูกาล อย่างโซนสแกนดิเนเวีย แต่ก็มีอีกหลายประเทศที่มีอะไรให้เที่ยวได้ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลองมาดูตัวอย่างกันหน่อยว่า ในกลุ่มประเทศที่ค่าเงินถูกลง เดือนไหนเป็นฤดูอะไรกันบ้าง
ก่อนออกเดินทาง อยากให้เตรียมอีกนิด
หลังจากเลือกประเทศได้แล้ว เลือกช่วงเวลาสำหรับการเดินทางแล้ว K-Expert อยากฝากให้คุณตามข่าวสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศปลายทางด้วยว่าเป็นอย่างไร หลายครั้งที่บางประเทศเกิดความไม่สงบทางการเมือง พายุเข้า แผ่นดินไหว เป็นต้น ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยระหว่างเดินทาง และคงอรรถรสในการเที่ยวนั่นเอง
นอกจากนี้ ประกันการเดินทางก็เป็นอีกสิ่งที่อยากให้เตรียมไป หลายประเทศเป็นข้อบังคับ แต่นอกเหนือจากนั้น ก็เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คุณจะได้มีคนดูแลค่าใช้จ่าย อีกทั้งการพกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับการใช้งานในต่างประเทศไปด้วย นอกจากจะไว้ใช้เผื่อกรณีแลกเงินไปไม่พอ ก็ยังมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ใช้ระหว่างเดินทางไม่ว่าจะเป็น การช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หรือ Privilege อื่นๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับทริปของคุณเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณได้ที่เที่ยวในทริปถัดไปของคุณแล้วหรือยัง?