posttoday

การบริหารเงินแบบน้ำตก 5 ชั้น

13 กันยายน 2562

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์

คอลัมน์ Wealth Design โดย...ธัญญา โลหะนันทชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์

เมื่อพูดถึงเงินที่อยู่ในกระเป๋าเราทุกๆ คน เวลาที่เราได้รับเงินมาแล้วเอามาใส่ไว้ในบัญชีหรือกระเป๋า แน่นอนว่าเงินจะปนกันไปหมด แยกได้บ้าง แยกไม่ได้บ้าง ว่าเงินอะไรเป็นเงินอะไร ดีกว่าไหมที่วันนี้เราจะลุกขึ้นมาแบ่งเงินก้อนต่างๆ ให้ชัด และบริหารเงินก้อนต่างๆ อย่างเหมาะสม โดยใช้หลักการบริหารเงินง่ายๆ เหมือนน้ำตก เมื่อเราได้เงินมาแล้วก็เริ่มสะสมเงินจากชั้นบนสุด หากสามารถสะสมเงินตามความจำเป็นของชั้นบนได้แล้วก็เหมือนสะสมน้ำจนเต็มอ่าง ถ้ามีเงินเหลืออีกก็เหมือนภาพน้ำล้นลงไปในชั้นถัดไป โดยน้ำตกจะมีอยู่ 5 ชั้นเริ่มจากชั้นบนสุดได้แก่

น้ำตกชั้นที่ 1 เงินสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าเงินชนิดนี้เอาไว้สำหรับกิน สำหรับใช้ในทุกๆ วัน เราควรจะมีการประมาณการว่าภายใน 1 เดือนนั้น เรามีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณกี่บาท ยกตัวอย่างเช่นใน 1 เดือนต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน, ค่าทานข้าว, ค่าน้ำ, ค่าไฟ ฯลฯ เดือนละ 10,000 บาท ซึ่งเงินก้อนนี้เราก็ควรสะสมไว้ในบัญชีออมทรัพย์ให้เพียงพอแค่ 1 เดือนเท่านั้น ประเด็นที่ต้องคำนึงถึงก็จะมีเพียงเมื่อต้องการใช้เงินปุ๊บ..ก็ควรถอนออกมาใช้ได้ปั๊บ ซึ่งผลิตภัณฑ์อย่างบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดูเหมือนจะตอบโจทย์มากที่สุดเพราะมีสภาพคล่องที่สูง สามารถเบิกถอนได้ตลอดเวลา แต่ข้อเสียคือได้ผลตอบแทนต่ำมากๆ ดังนั้นโทษของการไม่แบ่งเงินเลยและนำเงินมาเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวก็คือเราจะได้ผลตอบแทนที่น้อยมาก ทางที่ดีควรกันเงินก้อนนี้ไว้ใช้ให้เพียงพอกับ 1 เดือน หากเหลือมากกว่านั้นก็ให้จัดสรรไปเพื่อจุดประสงค์อื่นเหมือนน้ำที่ล้นลงมาที่น้ำตกชั้นถัดไป

น้ำตกชั้นที่ 2 เงินสำรองฉุกเฉิน เงินสำรองฉุกเฉินนี้จะมีไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมายกตัวอย่างเช่นไม่สบาย หรือเกิดอุบัติเหตุ หากเรามีเงินสำรองฉุกเฉินในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยเป็นกันชนด้าน การเงินให้กับเราได้เป็นอย่างดี สำหรับปริมาณเงินสำรองฉุกเฉินที่แนะนำคืออยู่ที่ประมาณ 3 ถึง 6 เดือนของค่าใช้จ่ายต่อเดือน เช่นค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท ก็ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่ที่ 30,000 – 60,000 บาท ถึงแม้เงินก้อนนี้เราคงไม่ได้หยิบออกมาใช้บ่อย ๆ แต่ถ้าหากต้องใช้อย่างเร่งด่วนก็จะต้องถอนได้ง่ายเช่นกัน ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับเงินสำรองฉุกเฉินนั่นก็คือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นเพราะมีคุณสมบัติด้านสภาพคล่องที่ยังสูงอยู่ ถึงแม้จะน้อยกว่าเงินฝากบ้างเพราะต้องเตรียมตัวขายล่วงหน้า 1 วันถึงจะได้เงินมาใช้ แต่กลับกันในด้านผลตอบแทนนั้นดีกว่าเงินฝากออมทรัพย์หรือเงินฝากประจำอีก อย่างไรก็ดีผลตอบแทนของกองทุนรวมตราสารหนี้ก็ไม่ได้สูงมากนัก ดังนั้นเงินสำรองฉุกเฉินนี้ควรจะมีเก็บให้เพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะการที่เรามีเงินเก็บในน้ำตกขั้นนี้มากเกินไปคือจะทำให้ผลตอบแทนโดยรวมต่ำลง ถ้าหากมีเงินเก็บในขั้นนี้เพียงพอแล้วก็ให้เงินไหลลงมาที่น้ำตกขั้นต่อไปได้เลย

น้ำตกชั้นที่ 3 เงินเพื่อวัตถุประสงค์ระยะสั้น ยกตัวอย่างเช่นภายในอีก 3 เดือนจะต้องจ่ายค่าเทอมลูก หรือ เตรียมเงินไว้จ่ายค่าประกันชีวิต หากเรามีวัตถุประสงค์ในการใช้เงินในอนาคตที่แน่ชัดและสั้นกว่า 1 ปีแล้ว ก็ควรที่จะกันเงินมาอยู่ในน้ำตกชั้นนี้ เพราะเงินที่ต้องใช้อย่างแน่ชัดภายในระยะเวลาที่สั้นๆ เราไม่ควรนำเงินไปเสี่ยงกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงเพราะหากผิดพลาดพลั้งไปอาจจะทำให้ขาดทุนแถมยังไม่สามารถคงการลงทุนรอไว้ได้อีกด้วยเพราะจะต้องถอนเงินออกไปใช้แล้ว การลงทุนที่เหมาะคือการลงทุนที่เงินต้นอยู่ครบและสามารถถอนได้ตามกำหนดเวลา แต่ยังคงให้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก ดังนั้นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเงินชั้นนี้เช่นกัน ถ้าหากมีเงินเพียงพอกับในชั้นนี้แล้วและหรือไม่มีจุดประสงค์ในการใช้เงินระยะสั้นก็สามารถปล่อยให้เงินไหลลงไปชั้นถัดไปได้

น้ำตกชั้นที่ 4 เงินเพื่อวัตถุประสงค์ระยะกลาง เช่นเตรียมเงินก้อนจ่ายค่าโอนคอนโดภายใน 1-2 ปี ถ้าหากเรามีเงินที่จะต้องใช้กับวัตถุประสงค์ในระยะ 1-2 ปีนั้นทางผู้เขียนยังไม่แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากนักเพราะโอกาสขาดทุนนั้นยังมีอยู่สูง ส่วนสินทรัพย์ที่แนะนำให้ลงทุนคือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว เพราะโดยปกติแล้วกองทุนประเภทนี้จะได้ผลตอบแทนมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นแต่จะมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคาเพิ่มเข้ามา อย่างไรก็ดีหากระยะเวลาในการถือครองยาวนานเกิน 6 เดือนขึ้นไปการลงทุนในสินทรัพย์นี้ก็ถือว่ามีความปลอดภัยอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ได้บางส่วนเนื่องจากจะสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงได้เช่นกัน

น้ำตกชั้นที่ 5 เงินลงทุน เงินในชั้นนี้เป็นเงินที่สำคัญมากเพราะจะช่วยให้มีความมั่งคั่งในระยะยาวเหมือนน้ำตกที่สะสมแล้วแตกกิ่งก้านสาขาจนกลายเป็นคลองเป็นแม่น้ำและจะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตคุณในระยะยาวได้ แต่การลงทุนในชั้นนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากไม่ได้เตรียมตัวจากชั้นอื่น ๆ มาให้ดีเสียก่อน เช่น เมื่อได้เงินมาแล้วก็เก็บเงินลงทุนในหุ้นอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้คิดถึงอนาคตและเผื่อการลงทุนอื่นๆไว้เลย เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานภาวะตลาดอาจจะไม่ดีการลงทุนให้ผลตอบแทนติดลบ ซ้ำร้ายเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล จึงต้องขายขาดทุนหุ้นออกมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีก ดังนั้นทางที่ดีก่อนลงทุนควรมีการบริหารเงินทั้ง 4 ชั้นก่อนหน้านี้ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากเราบริหารเงินสี่ชั้นข้างบนได้ดีโอกาสที่เงินก้อนนี้จะถูกถอนออกมาจะน้อยมาก ซึ่งนั่นจะช่วยให้เราสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องกังวลกับการสะดุดของแผนการลงทุนระหว่างทาง ตัวอย่างเป้าหมายการลงทุนระยะยาวเช่นเป้าหมายเพื่อการเกษียณ, เป้าหมายของการศึกษาบุตร

หากการบริหารเงินสดเป็นหลักการง่ายๆ แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมาก เพราะหากคุณบริหารเงินได้ดีมีประสิทธิภาพแล้ว การลงทุนเพื่อความมั่งคั่งของคุณจะได้เริ่มบนหลักที่มั่นคง และการออมเงินการลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่ต้องไม่ลืมว่าหลักการลงทุนที่ถูกต้องด้วยการกระจายความเสี่ยงการลงทุนอย่างเหมาะสม รวมถึงมีความสม่ำเสมอในการลงทุน นอกจากนี้หากได้มีการวางแผนการลงทุนที่ดีแล้วจะยิ่งช่วยทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าเงินคุณจะงอกเงยอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ว่าคุณจะไปถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน