posttoday

“กระจายความเสี่ยง โดยกระจายการลงทุน” ทางเลือกที่ลงตัวกับทุกสถานการณ์

12 กันยายน 2562

คอลัมน์ ห้องความรู้บัวหลวง

คอลัมน์ ห้องความรู้บัวหลวง

เรื่อง “กระจายความเสี่ยง โดยกระจายการลงทุน” ทางเลือกที่ลงตัวกับทุกสถานการณ์

โดย เศรณี นาคธน

กองทุนบัวหลวง

..........................

ท่ามกลางความกังวลด้านเศรษฐกิจ และตลาดการเงินโลกที่เพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์รุมเร้าต่างๆไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่แลดูจะบานปลายสู่สงครามเทคโนโลยี และสงครามค่าเงิน การเกิดภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวต่ำกว่าระยะสั้น (Inverted Yield curve) หรือความขัดแย้งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดความกังวลว่า เศรษฐกิจโลกอาจกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอย

แม้กองทุนบัวหลวงมองว่าเศรษฐกิจของโลกจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในอนาคตอันใกล้ ด้วยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวยังคงแข็งแกร่ง และตลาดการเงินยังคงได้รับผลบวกจากการผ่อนคลายทางด้านการเงินของบรรดาธนาคารกลาง ทว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในช่วงการลงทุนที่ยาก และต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากราคาสินทรัพย์แต่ละประเภทได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว การจะปรับตัวขึ้นตลอดไปนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

ในช่วงเวลาที่คลุมเครือและผันผวนเช่นนี้ ผู้ลงทุนคงเกิดคำถามขึ้นในใจว่า แล้วจะไปลงทุนอะไรดี หากเลือกหลบความเสี่ยงและวางเงินลงทุนทั้งหมดไว้ในบัญชีเงินฝากหรือตราสารหนี้ อาจเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนักในสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินฝากและตราสารหนี้ทั่วโลกกำลังอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก

นอกจากนั้น เป็นที่น่าเสียดายว่า ผู้ลงทุนหลายคนกลับเลือกไม่ลงทุนอะไรเลยในช่วงที่ตลาดผันผวน แล้วมาค้นพบในภายหลังว่า เงินเก็บของเรากำลังถูกบั่นทอนให้ด้อยมูลค่าลงเรื่อยๆ จากเงินเฟ้อ

“การกระจายความเสี่ยง” หรือ “Diversification” เป็นทางเลือกที่เหมาะกับการลงทุนในทุกช่วงสภาวะ ดังเช่นประโยคยอดฮิตที่ว่า อย่าวางไข่ทุกใบไว้ในตะกร้าเดียวกัน เพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับตะกร้าใบนั้น ก็เท่ากับว่า ไข่ทุกฟองจะต้องแตกไปด้วย และด้วยสัจธรรมที่ว่า ไม่มีราคาสินทรัพย์ประเภทใดที่จะอยู่ในขาขึ้นได้ตลอดเวลา การกระจายความเสี่ยงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การลงทุนในระยะยาวประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ในแง่การได้ผลตอบแทนสูงที่สุด แต่เป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยงของเงินลงทุนโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดเกิดความผันผวน ยากที่จะคาดเดาทิศทางได้อย่างเช่นในภาวะปัจจุบัน

การกระจายความเสี่ยง จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียกว่า “กองทุนผสม” ซึ่งเป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนจะบริหารความเสี่ยง ด้วยการกระจายการลงทุนให้ครอบคลุมหลากหลายประเภทสินทรัพย์อย่างมีแบบแผน โดยผู้จัดการกองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนในแต่ละประเภทสินทรัพย์ให้เหมาะสมกับสภาวะของเศรษฐกิจและตลาดการเงินในแต่ละขณะ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ไม่ผันผวนมากนัก

กองทุนบัวหลวงขอแนะนำกองทุนผสม 3 กองทุนที่สามารถเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนในทุกสถานการณ์ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR) และ กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X) ซึ่งทั้ง 3 กองทุนจะการกระจายการลงทุนครอบคลุมสินทรัพย์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่ผู้จัดการกองทุนคัดสรรมาอย่างเหมาะสมในแต่สภาวะการลงทุน ซึ่งไม่เพียงจะบริหารความเสี่ยงด้านขาลงเท่านั้น แต่ว่า ยังเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติมจากสินทรัพย์อื่นๆ ด้วย

B-INCOME มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายรับที่สม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน โดยกำหนดให้มีการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในทุกสิ้นไตรมาส เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ระดับปานกลางและต้องการกระแสเงินสดรับอย่างสม่ำเสมอ โดย B-INCOME เน้นลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบกระแสเงินสดสม่ำเสมอทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตราสารหนี้ หุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Yield) สูงและมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

B-SENIOR และ B-SENIOR-X ออกแบบมาเพื่อผู้ลงทุนที่อยู่ในวัยเกษียณหรือกำลังวางแผนก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ มุ่งหวังผลตอบแทนที่ชนะอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบั่นทอนมูลค่าเงินเก็บยามเกษียณของผู้ลงทุน โดยจะแบ่งสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ 70% อีก 30% ที่เหลือจะลงทุนในหุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์การเงินอื่นที่เหมาะสม

ข้อแตกต่างของ B-SENIOR และ B-SENIOR-X อยู่ที่ความเสี่ยงทางด้านต่างประเทศ โดย B-SENIOR จะจำกัดการลงทุนต่างประเทศไว้ไม่เกิน 15% ขณะที่ B-SENIOR-X จะเพิ่มโอกาสแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศได้มากกว่า ที่ไม่เกิน 79%

สำหรับ 2 กองทุนนี้ มีอีกหนึ่งความพิเศษที่กองทุนบัวหลวงจะมอบให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน คือ ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถตั้งขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในทุกๆ สิ้นเดือนได้ เพื่อนำเงินออกไปใช้จ่ายเป็นรายเดือนและมีกระแสเงินสดเหมือนเช่นในช่วงที่ยังอยู่ในวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม B-SENIOR และ B-SENIOR-X สามารถเป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในวัยเกษียณ แต่ต้องการแบ่งสัดส่วนการลงทุนมายังกองทุนผสมได้เช่นกัน

ไม่ว่าทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตลาดการเงินจะผันผวนมากขนาดไหน ถ้าผู้ลงทุนเข้าใจวัตถุประสงค์ เป้าหมายการลงทุนของตัวเอง และมีการวางแผนรวมถึงปรับปรุงแผนการลงทุนอย่างเป็นระบบ เชื่อว่า ผู้ลงทุนจะสามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและตลาดการเงินได้