posttoday

เก็บตังค์พลังบวก DCA

25 ตุลาคม 2561

หุ้นเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ออมอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน

โดย...วารุณี อินวันนา

หุ้นเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ออมอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน ในจำนวนเท่าๆ กัน ผ่านนิทรรศการ “เก็บตังค์พลังบวก DCA” ที่เน้นการลงทุนระยะยาวให้ได้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ

ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในจำนวน 4 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพระเอกของตลาดทุนไทย ประกอบด้วย S มาจาก Stock (หุ้น) M มาจาก Mutual Fund (กองทุนรวม) B มาจาก Bond (พันธบัตร/ตราสารหนี้)และ D มาจาก Derivative (ตราสารอนุพันธ์)

คนจะรู้สึกกลัวการลงทุนในหุ้นมากที่สุดเพราะมีความผันผวนด้านราคาสูง ไม่มีเวลาติดตาม ทำให้มีโอกาสขาดทุนสูง ที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่จึงเลือกฝากธนาคาร ตามด้วยซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ ขณะเดียวกันก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่มองว่ามีโอกาสทำกำไรสูง
เช่นกัน

การลงทุนในหุ้นจะต้องลงทุนระยะยาว 5 ปี 8 ปี 10 ปีขึ้นไป โอกาสการขาดทุนน้อยมาก เพราะราคาหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นไปตามเศรษฐกิจของประเทศ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาว

การลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) เป็นการซื้อหุ้นทุกเดือน เดือนละเท่าๆ กัน จะตอบโจทย์ หนึ่ง กระตุ้นให้เกิดการออมเป็นประจำ สอง ไม่ต้องห่วงว่าจะซื้อแพงเพราะเป็นการซื้อในวันเดียวกันของทุกๆ เดือนจะได้ราคาถัวเฉลี่ยทั้งปี

คนที่จะลงทุนแบบ DCA เหมาะกับ มือใหม่หัดลงทุนในหุ้นและคนรุ่นเก่า

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากได้กำไรจากการขาย เมื่อใช้วิธีการซื้อแบบ DCA แล้ว การจะขายก็ต้องติดตามดูจังหวะ

คนรุ่นเก่า ที่คิดว่าจะอายุยืน เมื่อเกษียณอายุ 60-65 ปี อาจจะอยู่ต่อได้อีก 20 ปี เงินที่ออมไว้อาจไม่พอ เพราะอย่างน้อยเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นปีละ 3-4% ก็กินดอกเบี้ยหมดแล้ว ถึงจุดหนึ่งต้องลงทุนในที่ที่มีผลตอบแทนสูงคือหุ้น ที่จะต้องได้กำไรจากส่วนต่างราคา และ
ต้องได้เงินปันผลเพื่อนำมาใช้จ่าย ก็จะซื้อแบบ DCA และถือไว้ยาวอีก 5-10 ปี ถึงจะขาย

“วันนี้ผมอายุ 63 และจะอยู่ต่อไปอีก 15 ปี ก็ถือยาวได้ ก็เลือกซื้อหุ้นรายตัวแบบ DCA จำนวน 10 บริษัท เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี รู้จักประวัติบริษัท รู้จักผู้บริหาร รู้ว่าทิศทางธุรกิจไปได้ตามภาวะเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาก็ได้ปันผลปีละ 4-5% สูงกว่าฝากธนาคาร และส่วนใหญ่ราคาหุ้นที่ซื้อไว้ก็เพิ่มสูงขึ้น มีกำไรจากส่วนต่างราคา แต่ก็มีที่ขาดทุนเพราะเลือกหุ้นผิด นี้คือเสน่ห์ของ DCA ซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ใช่เซียนหุ้น ไม่ได้เก็งกำไร ไม่มีเวลาติดตาม ซึ่งทุกวันนี้การลงทุนแบบ DCA ก็สะดวก เพราะเกือบทุกบริษัทหลักทรัพย์มีการเปิดให้บริการ” ประธานกรรมการ ตลท. แนะนำจากประสบการณ์ตรง

กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การออมและการลงทุนจะต้องมีความรู้พื้นฐานและต้องกระจายการลงทุนไปในผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลายในรูปแบบอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ และการออมหุ้นในรูปของ DCA เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้มีโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็มีโอกาสขาดทุนด้วยเช่นกัน

สำหรับเหตุผลที่ทาง ตลท.สนับสนุนให้ออมหุ้นแบบ DCA เพราะมีความเป็นห่วงประชาชนไทยที่มีการใช้จ่ายก่อนออม ทำให้เกิดหนี้ครัวเรือนเพิ่ม ซึ่งทาง ตลท.จะเน้นไปที่รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ รู้ขยายผล คือหาเงินมาแล้วต้องเก็บก่อน

การส่งเสริมให้เกิดการออมผ่านคำว่า “เก็บตังค์พลังบวก DCA” เพราะมี 3 พลังบวกเกิดขึ้น คือ หนึ่ง พลังเงินต้นเพิ่มขึ้นจากการออมแบบ DCA สอง พลังจากอัตราผลตอบแทน ถ้าฝากเงินเพียงอย่างเดียว เสี่ยงต่ำกว่าก็จริงแต่ก็ได้ผลตอบแทนที่น้อยกว่า แต่ทาง ตลท. ไม่ได้แนะนำให้นำเงินทั้งหมดมาออมหรือลงทุนในหุ้นแบบ DCA ทั้งหมด จะต้องกระจายออมในหลายๆ อย่าง สาม พลังจากระยะเวลา ยิ่งออมอายุยังน้อยจะมีพลังมาก

“การลงทุนแบบ DCA ระยะยาว จะมีผลตอบแทนทั้งเงินปันผลและส่วนต่างกำไร ถ้าเลือกหุ้นเป็น จะลดความเสี่ยงได้ เช่น เลือกหุ้นในกลุ่ม SET50” กฤษฎา กล่าว