posttoday

เงินฝากประจำก็มีดี ไม่แพ้กองทุนเทอมฟันด์

14 สิงหาคม 2561

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่ได้รับก็จะเป็นจุดตัดสินใจลงทุน ทำให้นักลงทุนหลายๆ คนมักจะเลือกที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลาแทนเงินฝากประจำ

โดย..ณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ : CFP@ Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่ได้รับก็จะเป็นจุดตัดสินใจลงทุน เพราะที่ผ่านมากองทุนตราสารหนี้มีโอกาสขาดทุนได้น้อย ทำให้ข้อได้เปรียบของกองทุนตราสารหนี้ที่มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Auto Redemption นั้นไม่เสียภาษี ต่างกับเงินฝากประจำทั่วไปที่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ทำให้นักลงทุนหลายๆ คนมักจะเลือกที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลาแทนเงินฝากประจำ

แต่การลงทุนกองทุนตราสารหนี้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะฝั่งสหรัฐอเมริกาที่ปัจจุบันธนาคารกลางมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.75-2% สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5% ทำให้มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลออกจากไทย ส่งผลให้ราคาตราสารหนี้ปรับตัวลดลง เกิด Mark-to-Market Loss กองทุนตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บางท่านที่ยังไม่เคยเห็นราคากองทุนตราสารหนี้ปรับลดลงก็เริ่มมีให้เห็น จากที่เมื่อก่อนราคาขึ้นมาตลอด

ยังไม่เพียงเท่านี้ ก่อนหน้านี้กองทุนตราสารหนี้บางกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง เพราะลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่มีฐานะการเงินไม่มั่นคงพอหรืออันดับความน่าเชื่อถือไม่สูง เมื่อบริษัทเหล่านั้นมีปัญหาฐานะการเงินทำให้ไม่สามารถจ่ายคืนเงินให้กับผู้ที่ลงทุนในหุ้นกู้ได้ นักลงทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้กองทุนเหล่านั้นก็ได้รับการขาดทุน ไม่เพียงแค่ดอกเบี้ยที่ไม่ได้รับ แต่ขาดทุนเงินต้นที่ได้ลงทุนไปด้วย ซึ่งตามหลักการลงทุนตราสารหนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทเป็นความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารหนี้ที่ต้องให้ความสำคัญอันดับต้นๆ ก่อนผลตอบแทนที่จะได้รับเสียอีก

มาดูด้านเงินฝากประจำกันบ้าง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินธนาคารจะได้อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ แต่ในช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์มีขยับขึ้นมาบ้างจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่เติบโต การลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ทำให้การขยายตัวของการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ดีขึ้น โดยจะสังเกตได้จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มปรับขึ้นมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำปรับตัวขึ้นไปด้วย แต่ทั้งนี้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินล่าสุดก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น

ซึ่งการลงทุนในเงินฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับแน่นอนแล้วยังคงได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากที่ปัจจุบันได้สูงสุด 10 ล้านบาท/บัญชี/ธนาคาร และมีสภาพคล่องในกรณีที่มีความจำเป็นต้องถอนเงินก่อนครบกำหนดก็สามารถทำได้เพียงแต่อัตราดอกเบี้ยก็จะถูกปรับลดลง เป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ที่มีกำหนดระยะเวลาที่ต้องถือครบกำหนดเวลาถึงจะไถ่ถอนได้

ส่วนท่านที่อยากจะลองเริ่มออมเงินแบบง่ายๆ แต่ได้อัตราดอกเบี้ยที่ดี ผมขอแนะนำเงินฝากประจำพิเศษของธนาคารพาณิชย์ที่ไม่ต้องเสียภาษีที่เรียกว่าเงินฝากปลอดภาษี 24, 36 และ 48 เดือน ที่จะให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถฝากได้ไม่เกิน 2.5 หมื่นบาท 1.65 หมื่นบาท และ 1.25 หมื่นบาท/เดือน ตามลำดับและต้องฝากเท่าๆ กันทุกเดือน โดยปัจจุบันเงินฝากปลอดภาษี 24, 36 และ 48 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยของธนาคารอยู่ประมาณ 2.25-2.55% ต่อปี และ 2.5-2.7% ต่อปี ตามลำดับ

ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ของปลอดภาษีจะสิ้นสุดและกลับมาคิดภาษีก็ต่อเมื่อมีการไถ่ถอนก่อนกำหนด ไม่ได้ฝากต่อเนื่องอย่างน้อยเดือนละครั้งและขาดฝากได้ไม่เกิน 2 ครั้งตลอดระยะเวลาที่ฝาก นับว่าเงินฝากประจำแบบนี้ก็น่าสนใจสำหรับมือใหม่อยากออมเงิน ซึ่งควรวางแผนการออมเงินให้ดีและศึกษาเงื่อนไขก่อนที่จะฝากด้วยนะครับ