posttoday

‘มัลติ แอสเซท’ ครบเครื่องในกองทุนเดียว

21 กุมภาพันธ์ 2561

การจัดสรรเงินหรือจัดพอร์ตลงทุนให้ปลอดภัย หรือถ้าเจ็บตัวก็ไม่มาก นั่นคือการใส่ไข่ในหลายตะกร้า

โดย...พูลศรี เจริญ

การจัดสรรเงินหรือจัดพอร์ตลงทุนให้ปลอดภัย หรือถ้าเจ็บตัวก็ไม่มาก นั่นคือการใส่ไข่ในหลายตะกร้า นั่นคือการกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น หรือเรียกว่า "มัลติ แอสเซท"

การลงทุนในรูปแบบที่กล่าวข้างต้น นักลงทุนบางคนอาจร้องเสียงหลงว่า นั่นเหมาะสำหรับคนรวยที่มีเงินลงทุนจำนวนมาก และจ้างมืออาชีพทั้งการเป็นที่ปรึกษาคำแนะนำในการจัดสรรเงินลงทุนและนำเงินไปลงทุนให้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทจัดการกองทุนบ้านเราได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมแบบครบเครื่องในกองทุนเดียวเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ลงทุนรายย่อย นั่นคือกองทุนประเภทมัลติ แอสเซท ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้มีเงินลงทุนน้อย ผู้ที่ไม่มีเวลาลงทุนเอง ตลอดจนผู้ที่ขาดความรู้เรื่องการลงทุน การลงทุนผ่านกองทุนรวมน่าจะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวที่สุด

การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ผสมผสาน ในหลายสินทรัพย์นั้นมี 2 ประเภท ได้แก่ กองทุน รวมผสม หรือเรียกอีกชื่อว่า บาลานซ์ ฟันด์ เป็นกองทุนรวมที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินประเภทต่างๆ ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น หรือตราสาร อื่นๆ แต่จะต้องมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นในขณะใดขณะหนึ่งไม่น้อยกว่า 35% และไม่เกินกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมนั้น กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ ปานกลาง

กองทุนรวมผสมยืดหยุ่น หรือเฟล็กซิเบิ้ล พอร์ตโฟลิโอ ฟันด์ (Flexible Portfolio Fund) คือกองทุนรวมที่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินประเภทต่างๆ ได้ทุกประเภทเช่นเดียวกับกองทุนรวมผสม แต่ไม่มีข้อจํากัด เรื่องสัดส่วนการลงทุนในหุ้น

ดังนั้น การจัดสรรเงินลงทุนระหว่างเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น หรือตราสารอื่นๆ จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจลงทุนของผู้จัดการ กองทุนตามสภาวะตลาดในขณะนั้นๆ กองทุนรวมประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลาง

การลงทุนในพอร์ตผสมที่กระจายลงไป ในหลายสินทรัพย์ตอบโจทย์ได้ 3 เรื่องหลักๆ ดังนี้

ประการแรก ทำให้เข้าถึงสินทรัพย์ลงทุนหลากหลายได้ง่ายขึ้นด้วยกองทุนเดียว ไม่ต้องมานั่งวิเคราะห์เอง

ประการที่สอง กระจายลงทุนหลายประเภทสินทรัพย์เท่ากับกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปในตัว

ประการที่สาม เป็นการเพิ่มผลตอบแทนในยุคดอกเบี้ยต่ำ จะเห็นได้ว่าผู้มีเงินออมยอมรับความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อหาทางเลือกใหม่ๆ ที่ดีกว่าการฝากเงินหรือการลงทุนตราสารหนี้แบบเดิมๆ

กองทุนประเภทมัลติ แอสเซท ในบ้านเราได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมากตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกปี 2560 หรืออาจเรียกอีกชื่อว่ากองทุนประเภทมัลติ แอสเซท อินคัม ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมที่เน้นกระจาย การลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริม ทรัพย์ และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ทั้งในและ ต่างประเทศ

จะเห็นได้ว่ากองทุนประเภทนี้เน้นผสมการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกเพื่อสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในเรื่องรายได้ระหว่างทาง และโอกาสในการรับผลตอบแทนตามเป้าหมายในระดับที่น่าพอใจตามประเภทสินทรัพย์และระยะเวลาที่ลงทุน จึงทำให้กองทุนประเภทดังกล่าวเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นักลงทุนสามารถทยอยลงทุนได้ในทุกช่วงสภาวะของตลาดและเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากจะมีสัดส่วนของการลงทุนในหุ้นผสมอยู่ โดยกองทุนประเภทนี้เหมาะที่จะเป็นกองทุนหลักในพอร์ตการลงทุน เพราะมีการกระจายลงทุน ในหลายสินทรัพย์และมีความผันผวนต่ำกว่า หุ้นแต่มีโอกาสการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาวสูงกว่าตราสารหนี้

ขอยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น กรณีกองทุนเปิดแอสเซทพลัส โกลบอล อินคัม พลัส (ASPGIPLUS) มีการกระจายการลงทุน ในสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 4,150 ตราสารผ่าน กองทุนของ Fidelity International ผู้เชี่ยวชาญ การบริหารกองทุน พร้อมกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบยืดหยุ่นเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกสภาวะตลาด พร้อมสร้างรายรับสม่ำเสมอสูงสุด 12 ครั้ง/ปี

กองทุน ASPGIPLUS เน้นลงทุน ในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ เช่น ตราสารหนี้ต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการ กระจายการลงทุนส่วนอื่นไปในสินทรัพย์ ที่มีโอกาสเติบโตสูงและสินทรัพย์ทางเลือก เช่น หุ้นต่างประเทศ และหน่วยลงทุนใน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือรีท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ หรือกองทุนอีทีเอฟ หรืออาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงที่อ้างอิงกับดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ โดยจะพิจารณาปรับลดสัดส่วนการลงทุนได้ ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน