posttoday

เข้าสู่ยุคการหาเงินบนก้อนเมฆ

12 ธันวาคม 2560

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บล.บัวหลวง

โดย...ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บล.บัวหลวง

โลกที่หาเงินบนก้อนเมฆ Cloud-base Business เรียนรู้อะไรจาก Adobe

หลายคนคุ้นเคยกับ Adobe Photoshop บริษัทนี้ทำทุกอย่างตั้งแต่โปรแกรมออกแบบ ไปจนถึงเอกสาร พูดให้เห็นภาพก็คือ เขาเป็นบริษัทขายซอฟต์แวร์

เดิมทีซื้อซอฟต์แวร์มาเป็นกล่อง ซื้อขาดเขามาใช้ ก็เหมือนซื้อสินค้าบริการทั่วไปนั่นแหละ จ่ายซื้อทีเดียวแล้วก็เอามาใช้

บริษัท Adobe ในปี 2556 เริ่มประสบปัญหา คือ คนเริ่มหันไปใช้มือถือสมาร์ทโฟน แล้วใช้ชีวิตบนเน็ตแบบขาดไม่ได้ สิ่งที่บริษัท Adobe ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ คือ

1.จะเลือกขายสินค้าแบบเดิม ก็ขายเป็นซอฟต์แวร์ตามปกติ ขายเป็นผลิตภัณฑ์ (ซึ่งยอดขายในเวลานั้น ที่ขายแบบเดิมคือ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีกำไร 2.9 แสนดอลลาร์ พูดง่ายๆ ว่ายอดขายทั้งหมดของบริษัทอยู่ในรูปแบบเดิม)

2.หรือจะเลือกไม่ขายเป็นสินค้า แต่ขายเป็นบริการแทน (Subscription Service : จ่ายน้อย แต่จ่ายตามที่ใช้ไปเรื่อยๆ)

ถ้าเป็นธุรกิจส่วนใหญ่คงเลือกแบบที่ 1 "ขายเป็นสินค้า" เพราะทำอยู่เดิมดีอยู่แล้ว...การเปลี่ยนแปลงมาแบบที่ 2 "ขายบริการ" มันดูน่ากลัว แล้วก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะดีหรือไม่

อารมณ์มันคล้ายๆ คุณเป็นโนเกียแล้วต้องเลือกว่าจะมุ่งไปโทรศัพท์แบบเดิม หรือสมาร์ทโฟน ...ใช่!! โนเกียเลือกแบบเดิม วันนี้เราเลยแทบไม่เห็นชื่อ โนเกีย อีกแล้ว!!

มาฝั่ง Adobe เขาตัดสินใจทำแบบที่ 2 คือ เปลี่ยนตัวเองมาเป็นบริษัทขายบริการบน Cloud ลูกค้าจ่ายน้อยๆ เป็นรายเดือนไปเรื่อยๆ

ผลปรากฏว่า ยอดขาย Adobe ลดลงไป 8% กำไรก็แย่ลงไป ลองดูตัวเลขยอดขายและกำไร ของ Adobe

ปี 2556 ยอดขาย 4,000 ล้านดอลลาร์ กำไร 2.9 แสนดอลลาร์

ปี 2557 ยอดขาย 4,100 ล้านดอลลาร์ กำไร 2.68 แสนล้านดอลลาร์ (แย่ลงไปอีก)

ปี 2558 ยอดขาย 4,700 ล้านดอลลาร์ กำไร 6.29 แสนล้านดอลลาร์ (เริ่มเห็นผลหลังจากการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่)

ปี 2559 ยอดขาย 5,900 ล้านดอลลาร์ กำไร 1,100 ล้านดอลลาร์

สิ่งที่ Adobe ต้องทำ คือ เปลี่ยนวิธีการขายทั้งหมด นับหนึ่งใหม่ ทีมขาย วิธีขาย เขาเรียกว่า Burn the Boats คือ "ทุบหม้อข้าว แล้วเข้าตีเมือง"

ใช้กลยุทธ์ Why Buy When You Can Rent

ซื้อทำไมเช่าสิ คุ้มกว่า...กลยุทธ์นี้ทำให้ Adobe ต้องรื้อโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมด ทำให้ทุกวันนี้ลดต้นทุนลง กำไรเพิ่ม ในส่วนยอดขายก็เพิ่ม เพราะ Adobe สามารถเจาะตลาดใหม่ๆ เช่น ธุรกิจเล็กๆ ที่เดิมซื้อซอฟต์แวร์ไม่ไหว ให้มาจ่ายรายเดือน ขยายไปกับตลาดที่วันนี้ธุรกิจออนไลน์เล็กๆ ขยายตัวอย่างก้าวกระโดดไปกับยุคนี้

หุ้นของ Adobe โตขึ้น 5 เด้ง จากปี 2556 "รวยขึ้น 5 เท่า จากการทุบหม้อข้าวออกรบ"

อันนี้ไม่ได้บอกว่า ทุกคนที่กล้าเปลี่ยนแล้วดี แต่ยุคนี้ต้องคิดให้รอบคอบ แล้วเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ลองไปปรับใช้กับธุรกิจคุณดูครับ

"โลกที่ลูกค้าเริ่มพูดว่า จะเป็นเจ้าของทำไม ในเมื่อเช่าใช้คุ้มกว่า!!"