posttoday

บัตรเครดิตกับดอกเบี้ยที่มหาโหด (1)

30 พฤษภาคม 2560

โดย...กิติชัย เตชะงามเลิศ นักลงทุนหุ้นและอสังหาริมทรัพย์

โดย...กิติชัย เตชะงามเลิศ นักลงทุนหุ้นและอสังหาริมทรัพย์

บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่คนสมัยนี้รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ไม่ต้องพกพาเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมาก เวลาที่จะไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าราคาสูง ทำให้ปลอดภัยไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะโดนจี้ปล้น อีกทั้งยังทำให้ยืดเวลาการชำระเงินไปได้อีก ขึ้นอยู่กับว่าไปใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าหรือบริการวันไหน ถ้าเป็นวันเริ่มต้นของรอบบิลก็อาจจะยืดเวลาการชำระเงินไปได้อีกมากสุดถึง 50 วัน ซึ่งถ้ารูดบัตรใช้จ่ายเป็นเงินจำนวนที่สูง เช่น มีวงเงิน 2 ล้านบาทแล้วนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการมูลค่า 2 ล้านบาท

ในวันแรกของรอบบิล ในขณะที่ในวันเดียวกันนั้นได้นำเงิน 2 ล้านบาทไปซื้อกองทุนตราสารหนี้ ซึ่งปัจจุบันให้ผลตอบแทนประมาณ 1% เลือกซื้อจนครบ 50 วัน ก็จะได้ผลตอบแทน 2,684.93 บาท โดยคิดผลตอบแทนจากจำนวนวัน 49 วัน เพราะการขายกองทุนประเภทนี้จะได้รับเงินค่าขายกองทุนเป็น T บวก 1 คือจะได้รับชำระในวันถัดจากวันที่ขาย แต่ถ้าท่านรูดบัตรเครดิตเพื่อซื้อกองทุนบางประเภท (ปกติบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนกองทุนรวมจะอนุญาตให้ใช้บัตรเครดิตซื้อกองทุนได้เกือบทุกประเภท ที่เป็นกองทุนที่บริหารจัดการโดยบริษัทจดทะเบียนกองทุนรวมที่เป็นบริษัทลูก หรือเป็นบริษัทที่มีการทำสัญญาต่อกันไว้แต่ส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อกองทุนตราสารหนี้)

แล้วระหว่างที่ถือสร้างผลตอบแทนประมาณ 5% ท่านจะได้รับผลตอบแทนคิดเป็นเงินถึง 13,424.66 บาท หรือถ้าท่านปกติใช้บริการวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (OD) ของธนาคารอยู่แล้ว โดยเสียดอกเบี้ยที่อัตรา MRR+5% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันนี้อัตรา MRR อยู่ที่ 7.62% (ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate)) นั่นเท่ากับว่าท่านเสียดอกเบี้ยที่อัตรา 12.62% ซึ่งถ้าท่านนำเงิน 2 ล้านบาทไปลดหนี้ของวงเงินกู้ดังกล่าว จะทำให้ท่านประหยัดดอกเบี้ย 50 วัน คิดเป็นจำนวนเงิน 34,575.34 บาท นับว่าเป็นเงินที่ประหยัดได้มากทีเดียว

นี่ยังไม่นับคะแนนสะสมที่ได้รับจากการรูดบัตรแต่ละครั้ง ซึ่งแล้วแต่นโยบายของบัตรเครดิตนั้นบัตรเครดิตบางใบก็ให้คะแนนทุก 10 บาท บางใบก็ 25 บาท/1 คะแนน หรือบัตรเครดิตบางราย ก็ให้คะแนนสะสมที่แตกต่างกันตามประเภทบัตรส่วนใหญ่บัตรเครดิตระดับบน จะได้คะแนนสะสมเป็น 2 เท่าของบัตรเครดิตระดับธรรมดา

ผู้ใช้บัตรเครดิตเมื่อสะสมคะแนนได้ถึงระดับหนึ่ง ก็สามารถที่จะใช้คะแนนสะสมไปแลกสินค้าหรือบริการได้ฟรี หรือเป็นส่วนลดในการแลกซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งบัตรเครดิตเกือบทุกรายก็อนุญาตให้ผู้ใช้บัตรของตนสามารถนำคะแนนสะสมไปแลกเป็นไมล์ของสายการบินต่างๆ ผมเองก็นิยมใช้คะแนนสะสมของบัตรเครดิตเอาไว้แลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการตามห้างสรรพสินค้า เมื่อบัตรเครดิตนั้นนั้นอนุญาตให้นำคะแนนสะสมเท่าจำนวนที่ซื้อเพื่อแลกรับส่วนลด 15% ขึ้นไป รวมทั้งนำคะแนนสะสมไปแลกเป็นไมล์ของสายการบิน เพื่อไว้ใช้แลกเป็นตั๋วเครื่องบินเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางผมเองก็ประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินไปหลายแสนบาทแล้วครับ

ผลประโยชน์อื่นๆ ของการซื้อบัตรเครดิตที่ไม่ใช่ตัวเงินก็ยังมีอีกมากมายขึ้นอยู่กับชนิดของบัตรเครดิตนั้นๆ บัตรเครดิตบางใบก็ให้สิทธิประโยชน์เช่นตรวจสุขภาพฟรี ณ โรงพยาบาลชั้นนำ ออกกำลังกายฟรีที่ฟิตเนสชื่อดัง สามารถใช้เลานจ์ ในส่วนที่จัดไว้ให้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในสาขาของธนาคารผู้ออกบัตร รวมทั้งให้สิทธิไปใช้ เลานจ์ของสนามบินต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจะมีบริการอาหารและเครื่องดื่ม นิตยสาร หนังสือพิมพ์ และไว-ไฟ โดยออกเป็นบัตร Priority Pass แนบมาให้กับผู้ใช้บัตร บางบัตรยังกลับบ้านให้ผู้ถือบัตรได้ไปใช้บริการ Wi-Fi Hotspot ต่างๆ ที่กำหนดไว้ได้ทั่วโลก บัตรเครดิตบางใบก็ให้ส่วนลดใน

ห้างสรรพสินค้ารวมทั้งร้านค้าและสถานบริการต่างๆ บางแห่ง โดยเฉพาะร้านอาหารตามโรงแรมชั้นนำซึ่งมักจะมีโปรโมชั่นไป 2 จ่าย 1 ไป 3 จ่าย 2 หรือไป 4 จ่าย 3 เป็นต้น นอกจากนั้นในเดือนเกิดมีบัตรเครดิตหลายใบที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมเป็นพิเศษ เช่น ให้ไปใช้บริการที่สถานบริการที่กำหนดไว้ Free เป็นต้น

บทความหน้าจะมาพูดถึงโทษของการใช้บัตรเครดิตกันครับ