posttoday

นโยบายทรัมป์ กับราคาทองคำ

14 กุมภาพันธ์ 2560

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

นักลงทุนจะเห็นได้ว่าการมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดการเงิน รวมทั้งสร้างความผันผวนให้เกิดขึ้นในตลาดทองคำเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ทรัมป์ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในช่วงต้นเดือน พ.ย.ของปีที่ผ่านมา ก็กดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมีการคาดหวังต่อแผนการปรับลดภาษี การปรับโครงสร้างค่าใช้จ่าย และการผ่อนคลายกฎเกณฑ์เพื่อหนุนภาคธุรกิจของประเทศ

ดูเหมือนว่าแนวทางดำเนินนโยบายต่างๆ จะเป็นการหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จึงทำให้นักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงและผลักดันให้ดัชนีดาวโจนส์นับตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาสามารถยืนเหนือระดับ 20,000 จุด

อย่างไรก็ดี หลังการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ทรัมป์ก็ยังไม่ได้ให้ความชัดเจนต่อแผนการปรับลดภาษีหรือนโยบายที่จะหนุนเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับแสดงจุดยืนในลักษณะชาตินิยม หรือ “America First” พร้อมเริ่มดำเนินนโยบายในเชิงกีดกันทางการค้าและสร้างความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ความต้องการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) ใหม่

ประกอบกับทรัมป์มีการลงนามคำสั่งห้าม 7 ประเทศมุสลิมเข้าประเทศ และความต้องการสร้างพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นการดำเนินนโยบายที่กลับมาทำให้นักลงทุนกังวลต่อภาวะทางการเมืองระหว่างประเทศอีกครั้ง

นอกจากนี้ การที่ทรัมป์และทีมงานมีความต้องการให้ค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าเพื่อเป็นการเอื้อต่อการแข่งขันทางการค้า จึงทำให้ราคาทองคำค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 1,244.67 เหรียญสหรัฐ ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงปลายสัปดาห์ตลาดจะเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรอีกครั้ง หลังจากที่ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะเปิดเผยแนวทางการปฏิรูปโครงสร้างภาษีในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ก็กลับมาทำให้นักลงทุนเกิดความคาดหวังว่าจะทราบความชัดเจนของนโยบายดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น และอาจเห็นทรัมป์ทำการลดภาษีภาคธุรกิจลงจากระดับ 35% สู่ระดับ 20% เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ

ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาดช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจสหรัฐ จึงทำให้ดัชนีเงินเหรียญสหรัฐกลับขึ้นมาทำจุดสูงสุดในรอบ 3 วันทำการ บริเวณ 100.71 จุด หลังจากที่ช่วงต้นสัปดาห์ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 99.23 จุด ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่กดดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวลงหลุด 1,230 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์อีกครั้ง โดยในวันศุกร์ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,220 เหรียญสหรัฐ

วิเคราะห์เทคนิค

ราคาทองคำระยะสั้นปรับตัวลดลง หลังจากที่ไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,250 เหรียญสหรัฐได้ ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรและราคาทองคำหลุดลงมาทดสอบแนวรับด้านล่าง 1,220 เหรียญสหรัฐ โดยภาพรวมในระยะสั้นและระยะปานกลางยังเป็นทิศทางขาขึ้น ซึ่งราคาทองคำยังมีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก โดยที่ราคาจะต้องไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,205 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,100 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,450 บาท/บาททองคำ คำแนะนำยังเป็นการเก็งกำไรทิศทางขาขึ้น โดยซื้อบริเวณแนวรับและขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน นักลงทุนควรที่จะต้องปรับกลยุทธ์ให้ทันกับความเคลื่อนไหวของตลาดที่มีอย่างรวดเร็ว โดยปัจจัยที่จะต้องติดตามต่อเนื่อง คือ เรื่องนโยบายของทรัมป์ว่าในระยะสั้นจะมีการเล่นข่าวอะไรอีกหรือไม่

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ผู้นำการลงทุนทองคำและสินค้าอนุพันธ์ในตลาด TFEX มีการนำระบบ MT4 มาพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การซื้อขายสินค้า TFEX ภายใต้ชื่อ “MTS MT PRO” ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนก้าวทันเทรนด์การลงทุนในระบบ Auto Trade มากขึ้น นอกจากนักลงทุนจะสามารถดูกราฟราคา Real Time และส่งคำสั่งซื้อขายผ่านทางโปรแกรมดังกล่าวได้แล้ว นักลงทุนยังสามารถลงทุนได้อย่างมีกลยุทธ์มากยิ่งขึ้นกับ Key Features สุดล้ำอย่าง “SMART EA”