“ธุรกิจแนวใหม่ลูกค้าต้องตามใจเรา”
โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง
โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง
พูดแบบนี้ผมว่าคนทำธุรกิจต้องอยากรู้ … “มีด้วยหรือธุรกิจที่ไม่ต้องตามใจลูกค้าแต่ให้ลูกค้าตาใจเราแทน”
สิ่งที่ผมเล่ามันเกิดขึ้นแล้วครับจากมุมเล็กๆที่หนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
“ไม่ต้องจิ้มอะไร ..กินแบบนี้เลย ..อย่าใส่วาซาบิเดี๋ยวคุณจะไม่ได้ลิ้มรสความสดของปลา ..อย่า …” (เฮ้ย!! ผมก็นึกในใจว่า ร้านอาหารนี้แปลกนะ เราจ่ายเงินมาอย่างแพงต่อหัวนี่หลายพันบาท ถ้ากินเหลาบ้านเรา ราคาที่จ่ายนี้เลี้ยงได้ทั้งครอบครัว
ใช่!! ผมเชื่อว่า เดี๋ยวนี้ คนไทยเราเริ่มรู้จัก และ ทดลองร้านอาหารแบบนี้กันมากขึ้น ...วันนี้จะหาร้านแบบนี้ในกรุงเทพเอง ก็หาได้ไม่ยาก
มาดูกัน"บทเรียนจากร้านอาหารตามใจเชฟ ...มีด้วยหรือ ?
มีครับ ..เขาเรียกร้านแนวนี้ว่าOmakaseเป็นร้านญี่ปุ่นแนว "อาหารตามในเชฟ" ..คำว่าOmakaseเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า "I'll leave it to you" (ถ้าแปลเป็นไทยก็คือเชฟจะทำอะไรก็จัดมาเลย !!)
ดีไหม ? ...ผมว่าดีนะถ้าเรามีร้านอาหารสักร้านที่ลูกค้าเลือกไม่ได้ ...เราเลือกเองว่าลูกค้าต้องกินอะไร
แล้วจะดีมากเลยที่ลูกค้าทั้งเลือกไม่ได้แถมต้องจ่ายแพงมาก ๆ ...ครับ !! ฟังดูโคตรขัดความรู้สึกแต่เชื่อไหมว่าร้านอาหารแนวนี้ฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่และก็ฮิตมากขึ้นเรื่อยๆ ...เคยถามไหมว่าทำไมคนเราถึงชอบร้านแนวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ผมว่าคนทำร้านอาหารโดยเฉพาะตามสั่งฟังเรื่องนี้แล้วน้ำตาแทบร่วง ...โดยเฉพาะคนที่เคยทำร้านอาหารอย่างผมจะทราบเลยว่าร้านอาหารมีสิ่งที่ปวดหัวมากที่สุดคือ Stock สินค้า ..เราไม่รู้ว่าลูกค้าจะเข้ามากหรือน้อยวันไหนทำให้ต้องสั่ง Stock มาเกินบางครั้งก็เหลือทิ้ง ..บางทีก็ต้องทิ้งเพราะไม่มีใครสั่งจนไม่สด ...ผมเคยฝันว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เราสามารถรู้ความต้องการของลูกค้าล่วงหน้า -- แต่กลายเป็นว่าร้านอาหารญี่ปุ่นแนวOmakaseทลายข้อจำกัดทุกข้อ ...ผมยกให้เป็นสุดยอดแนวคิดของร้านอาหารเลยก็ว่าได้ดังนี้
1.ลูกค้าให้เชฟเลือกเมนูอาหารให้ทำให้เชฟสามารถเลือกวัตถุดิบที่สดที่สุดดีที่สุดในตลาดมาให้ลูกค้าเพราะเชฟกำหนดเมนู ..ผลก็คือได้วัตถุดิบอาหารขั้นเทพและดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล
2.ไม่มี Stock เหลือทิ้งเพราะร้านอาหารแนวOmakaseต้องจองล่วงหน้า (ไม่งั้นแทบไม่มีที่นั่ง) ทำให้รู้ว่าแต่ละวันจะใช้วัตถุดิบเท่าไหร่ค่อนข้างแน่นอนกำหนด Stock ได้เป๊ะ !!
3. ร้านแนวOmakaseขาย "ตัวเชฟ" พอๆกับขาย "อาหาร" ..ส่วนใหญ่เป็นเชฟมีชื่อหรือกำลังจะมีชื่อเพราะการกินอาหารแนวนี้มันเหมือนการแสดงโชว์มากกว่าการนั่งกินอาหาร ..ใช่!! มันคืองานศิลปะประเภทหนึ่งแต่เพียงแค่มันหยิบใส่ปากแล้วเคี้ยวได้ก็เท่านั้นเอง ...ดังนั้นร้านแนวนี้ตั้งราคาอาหารไว้สูงมาก ..ทำให้สามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ..บริการให้สุด ..วัตถุดิบให้สุด ...ให้สิ่งสุดยอดไม่ต้องยั้ง
ลองเอาแนวคิดของร้านOmakaseมาดูปรับใช้กับการทำธุรกิจของเราผมว่าน่าสนใจ
เพราะวันนี้คนรุ่นใหม่เขาเบื่อกับทางเลือก ..แถมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด ...ลองคิดซิครับว่าธุรกิจเราจะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างไร ?
ขอเกาหัวอีกสามครั้ง...ตกลงว่า ที่เขาพูดว่า ลูกค้าคือ พระเจ้า แล้วร้านอาหารแนวนี้เขาเอา Logic อะไรในการคิด ...มันท้าทายการทำธุรกิจ แถมสอนเราอีกว่า “โลกของธุรกิจไม่มีอะไรที่ตายตัว”
ความสำเร็จมันเกิดจากเรากล้าคิดกล้าทำ และกล้ามีจุดยืน นี่แหละ ที่ผมเรียนรู้การทำธุรกิจจากเชฟเหล่านี้
“ไม่ธรรมดาจริงๆ”