posttoday

โพลล์พลาด ทองพุ่ง

27 มิถุนายน 2559

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

โพลล์ทุกสำนักของอังกฤษ ถูกตบหน้าอย่างรุนแรง หลังจากที่ประชามติของชาวอังกฤษที่ออกมาแสดงพลังประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังเงียบที่กลุ่มโพลล์สำรวจไม่ถึง โดยก่อนหน้าการลงประชามติ เพียง 7 วัน ในช่วงนั้น โพลล์เกือบทุกสำนักออกมาว่า ระบุว่า อังกฤษจะยังคงอยู่ในอียูต่อไป ซึ่งชนะกันด้วยคะแนน 51% ต่อ 49% โดยประมาณ แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันศุกร์ของไทย หลังจากนับคะแนนมติโหวตทั้งหมดจากประชาชนทั้งประเทศ กว่า 30 ล้านคน พบว่า ผลทางการที่ออกมาล่าสุดคือ ประชาชนต้องการให้อังกฤษออกจากอียู ชนะกันค่อนข้างมากพอสมควร คือประมาณ 3% ระหว่าง 51.9% และ 48.1% โดยที่ชนะกันมากกว่า 1 ล้านเสียง ไม่ถึงกับขาด แต่ก็ถือว่าเป็นเสียงข้างมากที่ประชาชนโหวตให้อังกฤษออกจากอียู สภาวะที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงตามมาคือ ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวน ค่าเงินปอนด์ตกลงกว่า 10% และค่าเงินยูโรเองก็ปรับตัวลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะ Safe-Haven อย่างรุนแรง ทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากช่วง 1,265 เหรียญ ในคืนวันพฤหัสบดี ดีดขึ้นทีเดียวเกือบ 100 เหรียญ ก่อนที่จะกลับมาทรงตัวบริเวณ 1,315 เหรียญ ตลอดวัน

วิเคราะห์ผลกระทบในระยะกลางและระยะยาว

นักวิเคราะห์ทั่วโลก คาดการณ์ว่า ผลกระทบต่อตลาดการเงินและการเมืองน่าจะไม่ใช่เพียงแค่นี้ โดยผลที่เกิดขั้นทันทีคือ นาย เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที หลังผลการทำประชามติเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังพบว่า หลายๆประเทศในสหภาพยุโรป เริ่มใช้วิถีทางทางการเมือง ว่าจะให้ประชาชนโหวตว่าจะอยู่หรือออกจากอียูกันเป็นแถว เช่น ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ผลที่จะตามมาต่อตลาดการเงินของโลก คือความผันผวนไม่แน่นอนของค่าเงินยูโร รวมทั้งเสถียรภาพของเงินยูโร และอาจส่งผลต่อเนื่องไปยังการเข้าช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาของยูโรโซนในกลุ่ม PIGS ซึ่งหากขาดเจ้าภาพรายใหญ่ที่คอยค้ำจุนอียูในขณะนี้ ก็อาจทำให้อียูแตกเป็นเสี่ยงๆได้ในที่สุด เพราะคงไม่มีประเทศใดต้องการอยู่ภายใต้อาณัติของอียู ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของตนเองก็ไม่ดีนัก เงิน นอกจากต้องนำไปช่วยประเทศในอียูแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆในการรับผู้อพยพ ซึ่งสร้างค่าใช้จ่ายและปัญหาต่างๆทั้งทางการเมืองและสังคมแก่ประเทศนั้นๆ แน่นอนว่าผลทั้งหมดย่อมส่งผลไปที่ประเทศสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนัก มองว่าเฟด น่าจะไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ในเดือน ก.ค. นี้ และยังวิเคราะห์มองไปไกลถึงน่าจะขึ้นไม่ได้ไปทั้งปีนี้ด้วยซ้ำ

วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทองคำ

โดยภาพรวมของปัจจัยพื้นฐาน ทองคำเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกะทันหัน ในสภาวะตลาดเช่นนี้ ทองคำกลับมาเป็น Safe-Haven ได้อย่างสง่างาม ปัจจัยทางด้านพื้นฐานกลับมาเอื้อต่อการขึ้นของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีโอกาสเป็นปัจจัยบวกตลอดทั้งปีในระยะยาวด้วยซ้ำ อันจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR ซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ในระดับโลก ขนาดทำกำไรไปอย่างมากเพราะต้นทุนส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับ 1,200 เหรียญ แต่ในวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งราคาทองคำอยู่ที่ 1,300 เหรียญ กองทุน SPDR ก็ยังเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเข้าไปอีก 18.41 ตัน และรวมทั้งประชาชนชาวอังกฤษเริ่มแห่ซื้อทองคำด้วยความตื่นตระหนกอีกกว่า 1 พันล้านปอนด์

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำจบสิ้นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น ซึ่งถูกกดดันโดยโพลล์จากสำนักต่างๆที่รายงานว่า อังกฤษมีโอกาสอยู่ในอียูต่อไปมากกว่าที่จะออกจากอียู ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า ในระยะกลางและระยะยาว ทองคำจะกลับเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับในระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญ และมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,355 เหรียญ โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้า ราคาทองคำน่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 1,355 เหรียญได้ สำหรับภาพกราฟรายสัปดาห์เอง ก็กลับมายืนยันทิศทางขาขึ้น หลังจากทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันแล้วสามารถรับไว้ได้

สรุปได้ว่า การลงทุนในทองคำ ณ ขณะนี้ ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างที่สุดในบรรดาสินทรัพย์ทั้งหลาย อย่างไรก็ดี ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ความเสี่ยงและความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในตลาด นักลงทุนหลายท่านถูก Force Close หรือ Call Margin ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องเข้าใจและบริหารพอร์ตการลงทุนของตนเองให้มีความสมดุลและเหมาะสมต่อสภาพตลาด คำว่าสมดุลในที่นี้ คือการที่จะไม่ใช่ Margin สูงเกินไป หรือในทางกลับกัน คือไม่ใช้ Leverage มากนัก ซึ่งจะทำให้การลงทุนมีความสมดุลและปลอดภัย นอกจากนี้การรับสภาวะขาดทุนแต่น้อยในช่วงต้น ย่อมดีกว่าปล่อยให้เกิดสภาวะขาดทุนมากและสะสมไปเรื่อยๆจนเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อการลงทุน

MTS GOLD แม่ทองสุก มีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคของราคาทองคำสำหรับนักลงทุน มีทีมงานที่คอยดูแลและให้คำแนะนำพอร์ตการลงทุนของท่าน ขณะที่ตัวนักลงทุนเองจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา และพัฒนาความรู้ความเข้าใจ ในการบริหารพอร์ตของตนเองให้ดีและไม่มีความเสี่ยงมากนักควบคู่กันไป โดยเว็บไซต์ของ MTS GOLD เป็นเว็บไซต์ที่นักลงทุนสามารถดูราคาทองคำและวิเคราะห์เนื้อข่าวของราคาทองคำ ซึ่งถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณประโยชน์สูงที่สุดต่อการลงทุนทองคำ ณ ขณะนี้ สนใจลงทุนทองคำติดต่อได้ที่ MTS Call Center 02-770-7777