posttoday

ยังมองดี?

29 มกราคม 2559

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

ในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ก็ได้รับทราบความเป็นไปของตลาดหุ้นไทยตลอดเวลา ซึ่งทำให้กลับมาคิดว่า การลงทุนในยุคใหม่นี้ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนท่านก็ลงทุนได้จริงๆ

ที่ผมกล่าวอย่างนี้หลายท่านอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกรู้อยู่แล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่ยุค Internet เข้ามา แต่สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแม้เริ่มยุคการซื้อขายด้วย Internet มาหลายปีแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า ความผูกผันที่ต้องอยู่ติดกับตลาดหุ้นยังคงมีอยู่ แต่ในช่วง 1-2 ปีมานี้เอง ผมคิดว่าความรู้สึกว่า ตลาดหุ้นเป็นแหล่งลงทุนอีกแบบหนึ่ง และการลงทุนโดยไม่ต้องยึดติดกับราคาตลาดแบบใกล้ชิดเริ่มมีมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากกระแส VI ที่แรงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

เพราะฉะนั้น สภาพตลาดหุ้นหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเริ่มเปลี่ยนไป โลก Internet เข้ามามีบทบาทอย่างแท้จริง ซึ่งผมคิดว่าหลังจากนี้ความผูกพันกับโลกยุค Internet กับการลงทุน น่าจะเข้ามาอย่างรวดเร็วและน่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหลายสิบปี แต่การพัฒนาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งประเด็นที่หยิบยกเรื่องนี้เข้ามา นอกจากที่จะสนับสนุนให้นักลงทุนรายย่อยที่พยายามใช้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังนับเอาประโยชน์เหล่านี้ไปใช้กับจุดเด่นของความคล่องตัวในฐานนะที่เราเป็นนักลงทุนรายย่อย จะทำให้ความรวดเร็วในการตัดสินใจอาจจะได้เปรียบนักลงทุนที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าหรือมีข้อมูลที่มากกว่าก็เป็นไปได้?

วกกลับมาในทิศทางตลาดหุ้นไทย การปรับตัวขึ้นของ SET Index เป็นไปตามคาด เหตุผลก็คือ ปัจจัยลบที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยคงเดิม การตอบรับในเชิงลบสำหรับราคาหุ้นจึงไม่มีการเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น SET Index จึงมีการปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งต่อจากนี้ผมยังคิดว่าโอกาสขึ้นยังเป็นต่อไปเรื่อยๆ เหตุผลเพราะ การรับรู้ข่าวร้ายในเชิงลบ โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ 2 เรื่องที่ทำให้ราคาหุ้นตกรอบล่าสุด ก็คือ ราคาน้ำมัน และปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ น่าจะมีทิศทางที่ไม่แย่กว่าเดิมหลังจากนี้ ราคาน้ำมันอาจจะเป็นเรื่องของการคาดการณ์ที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่เชื่อในเรื่องของการปรับตัวลดลงไปที่ 10-20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ เศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศ ณ ช่วงเวลานี้ จะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่ผมคิดว่ารัฐบาลจะต้องงัดทุกมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ เหตุผลก็คือ ในภาพเศรษฐกิจมหภาค การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องใช้เวลา เชื่อกันว่าน่าจะเห็นในระยะ 3-6 เดือนหลังจากออกมาตรการ ซึ่งพิจารณาจากแนวคิดของรัฐบาลที่เชื่อว่าจะอยู่ถึงกลางปีหน้า การเห็นผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ควรจะเกิดในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ จึงจะทำให้ภาพของรัฐบาลในเชิงเศรษฐกิจดีขึ้น และเกิดความประทับใจ
เพราะฉะนั้น ผมมองว่าจากนี้ไปไม่น่ามีข่าวร้าย แม้ล่าสุดผมได้มีโอกาสไปฟังการสัมมนาจัดโดย Deutsche Bank แม้อาจจะมีมุมมองเชิงลบหลายอย่าง เช่น มองราคาน้ำมันดิบอาจจะไปที่ 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ในมุมมองผู้เข้าร่วมฟังก็ยังมองว่า สินทรัพย์ที่น่าลงทุนในปี 2016 ยังคงเป็นหุ้นอยู่ดี สำคัญคือ หุ้นไทย? หรือหุ้นต่างประเทศ?

วิเคราะห์เชิงเทคนิคในมุมมองของ SET Index สิ่งที่เราเห็นจะพบว่า 1,260-1,270 ต้องไม่ควรต่ำกว่า คือ ต่ำกว่า จะชี้ว่า การ Break out ในเชิง UP เสีย แต่กรณีไม่ต่ำกว่า แต่ไม่ต้องถึงก็ได้ ภายในสัปดาห์หน้า จะเห็น 1,300 บวกลบ หรือ 1,350 บวกลบ หรือระยะเดือน 1,400

บทสรุปก็คือ เรายังไม่เห็นสัญญาณในเชิงลบต่อภาพการลงทุนระยะสั้น เพราะฉะนั้นมุมมองของ SET Index เราจึงยังมองภาพในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง แม้การปรับตัวขึ้นของ SET Index อาจจะไม่รุนแรง แต่ภาพยังคงเป็นการปรับตัวขึ้นในช่วงสั้นยังคงเป็นไปได้