posttoday

หุ้น ICT จุดต่ำสุดผ่านไปแล้ว !

18 ธันวาคม 2558

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

โดย เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอกการลงทุน

ผมไม่ค่อยแปลกใจ สำหรับราคาการประมูลคลื่น 900 ที่ทะลุ เกิน 1 แสนล้านบาท (2 ใบ) เพราะเคยคาดไว้พอสมควรแล้ว โดยเฉพาะในบทความของบทวิเคราะห์ บลป.เอกการลงทุน ที่นำเสนอทาง www.aekinvestmest.com เพราะในเชิงการทำธุรกิจผมไม่คิดว่า จะมีการมองแค่กำไรขาดทุนช่วงสั้นเท่านั้น และในหลายอุตสาหกรรมเราก็เคยเห็นว่า กลยุทธ์เพื่อชนะคู่ต่อสู่มีหลายรูปแบบทั้งกีดกัน,พันธมิตร หรือ แม้กระทั้งสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อมาแข่งขัน 
 
เพราะฉะนั้น การมองแบบตรงๆตรงมา การวิเคราะห์ในเชิงเหตุผลทางตรงจึงใช้ไม่ได้ ในการประมูลครั้งนี้ คำถามที่ผมคิดว่า นักลงทุนอยากทราบก็คือ ราคาเคลื่อนของหุ้นที่มีการเข้าประมูลคลื่นความถี่จะเป็นอย่างไร หลักๆ ถ้าเรียกชื่อให้เข้าใจง่าย ก็คือ ผู้ประมูลคลื่นล่าสุด ก็เป็นตัวแทนของบริษัทในตลาด นั้นก็คือ ADVANC,DTAC,TRUE และ JAS ซึ่งการวิเคราะห์ที่เห็นมาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่จะให้น้ำหนัก การตั้งเงื่อนไข เมื่อมีการประมูลเสร็จสิ้นแล้วและผลกระทบ ยกตัวอย่างเช่น กรณี JAS ได้รับเป็นผู้ชนะในการประมูลจะเกิดการแข่งขันสูงมากในผู้ให้บริการคลื่นมือถือ และจะทำให้รายได้ ในอุตสาหกรรมลดลง เพราะมีการตัดราคา  หรือ การตั้งเงื่อนไข ว่า การประมูลกรณีสูงกว่า 35000 ล้านบาท จะทำให้ค่าใช้จ่ายบริษัทสูงขึ้น และมีผลทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลง เป็นตัน

ข่าวล่าสุด ขณะเขียนต้นฉบับ และการดีดกลับของราคาหุ้นในกลุ่ม ICT ก่อนหน้านี้ ทำให้เห็นได้ว่า คงไม่จำเป็นที่ต้องมาย้อนกล่าวเพิ่มเติม เพราะประเด็นอยู่ที่ว่า บริษัทที่เข้าประมูลกำไรน้อยลงกรณีใช้ model ธุรกิจเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น กรณีราคาตลาดของหุ้นลงต่ำกว่าเดิมค่อนข้างมาก แรงดึงดูดในการเข้าไปเก็งกำไร ก็จะเพิ่มมากขึ้น

วกกลับมาสู่การประเมินแนวโน้มราคาหุ้นกลุ่ม ICT ล่าสุด โดยเฉพาะ หุ้นที่มีการประมูลมือถือ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า หลังการประมูล 4G แล้ว MODEL ในการทำธุรกิจ ของหุ้นกลุ่มนี้จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กรณีย้อนดูอดีตก็จะพบว่า ในยุคเริ่มต้นที่มีการจ่ายให้ภาครัฐเป็นระบบสัมปทานเราจะเห็นการพิจารณาอุตสาหกรรมนี้ก็คือ การเพิ่มการใช้มือถือต่อ จำนวนประชากร เช่น ในประเทศอื่น 3 ต่อ 1 ประเทศไทย 10 ต่อ 1 ก็จะมีการขยายตัวได้อีกภายในกี่ปี จำนวนเครื่องจะเป็นเท่าไร ,ต่อมาได้กลายเป็นจำนวนการใช้งานต่อหน่วย

แต่ในยุคหน้า ประเมินว่า รูปแบบการสื่อสารจะเป็นรูปแบบโดยสินเชิง INTERNET จะถูกเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากกว่านี้ ลองย้อนมองพิจาณาคล้ายๆ กับโทรศัพท์มีสาย กับ โทรศัพท์มือถือ ที่บทบาทโทรศํพท์สายจะถูกลดบทบาท และก็ไม่แปลกอะไรถ้าการส่งข้อมูลตามสาย บอรดแบนส์ จะเปลี่ยนจากระบบสายเป็นไร้สาย เช่นกัน 4G ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของมิติดังกล่าว เพราะฉะนั้นต่อไป MODEL ในการทำธุรกิจก็จะมีการเปลี่ยนแปลง นี้คือ เหตุผลที่ผมคิดว่า การประเมินราคาหุ้นโดยใช้ MODEL เดิมจะไม่สามารถทำได้ ยกเว้นในช่วงเริ่มต้นอาจจะยังคงใกล้เคียงแต่ต่อไปในระยะหลังจากนี้ 1-2 ปี โฉมหน้าของการทำธุรกิจ จะเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

เมื่อ MODEL ธุรกิจเปลี่ยนการประเมินราคาของหุ้นก็ต้องเปลี่ยนแปลงด้วย ซึ่งคาดว่า ในระยะกลาง-ยาวกรณีเศรษฐกิจเป็นปกติ หุ้นกลุ่มนี้จะเติบโตสูงมาก ในระยะเกิน 1-2 ปีข้างหน้า ส่วนระยะสั้น แม้หลายท่านจะกังวลว่า ราคาหุ้นอาจจะตกแรงจากราคาที่มีการประมูลสูงกว่าปกติ แต่ในส่วนตัวมองว่า จุดต่ำสุดผ่านไปแล้วระยะสั้น ใครที่หวังว่า ราคาลงเหมือนวันจันทร์ที่ผ่านมาไม่น่าเกิดขึ้น ระยะสั้น ความสำคัญจะอยู่ที่จะขึ้นต่อเลยหรือจะแกว่งตัว เท่านั้นเอง ?