posttoday

ตลาดหุ้นเดือนสุดท้ายของปี

01 ธันวาคม 2558

โดย จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส

โดย จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส

ความหวังที่ SET Index จะทะลุ 1,400 จุดก่อนสิ้นปีนี้มีน้อยลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มสื่อสารซึ่งต้องจับตาการประมูลคลื่น 900 MHz หากการแข่งขันไม่รุนแรงเหมือนการประมูลเมื่อ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มนี้น่าจะปรับตัวขึ้นได้เร็วและหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวมได้เพราะราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมากแล้ว

แต่หุ้นกลุ่มใหญ่อื่นๆ ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่อย่างชัดเจน เช่นกลุ่มธนาคารที่สินเชื่อยังไม่ขยับ กลุ่มพลังงานในเดือนนี้ยังถูกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการประชุม OPEC ที่คาดว่าไม่ลดกำลังการผลิต

ส่วนเศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือน ต.ค. มีแรงหนุนสำคัญคือการใช้จ่ายของภาครัฐ แต่ในส่วนของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนยังไม่เห็นสัญญาณที่ดีเท่าที่ควร แม้เราจะมองเศรษฐกิจไทยในปีหน้าและตลาดหุ้นไทยสดใสกว่าปีนี้ แต่การซื้อหุ้นควรทยอยเมื่อปรับลง

ความกังวลกับการประมูล 4G สะท้อนในพื้นฐานของ ADVANC แล้ว

ค่าใบอนุญาต 2 ใบของคลื่น 1800 MHz ที่ถูกประมูลไปรวม 80,778 ล้านบาท สูงกว่าราคาตั้งต้นถึง 150-158% สร้างความกังวลกับตลาดว่าจะเป็นการสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการมากจนไม่สามารถสามารถจ่ายเงินปันผลได้ แต่เรามองว่าราคา 40,986 ล้านบาทที่ ADVANC ประมูลได้ และถึงแม้จะประมูลคลื่น 900MHz ได้ในราคาใกล้เคียงกับ ก็ยังคุ้มกับค่า Regulatory Cost และค่าเสื่อมราคาของระบบ 2G ที่จะหายไป รวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตแม้ค่าบริการ 4G จะถูกกว่า 3G ก็ตาม (ปริมาณการใช้งานชดเชยได้กับราคาที่ลดลง)

เราตั้งสมมติฐานว่า ADVANC ประมูลทั้งคลื่น 1800MHz และ 900MHz ในราคาใกล้เคียงกัน คาดว่ากำไรในปี 2016 ยังขยายตัวได้ 9.7% Y-Y และยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้ 14 บาท/หุ้น (สูงกว่าปี 2015 ที่เราคาดว่าจะจ่าย 13 บาท/หุ้น) ที่ราคาหุ้นปัจจุบัน 206 บาทคิดเป็น Yield 7% และต่ำกว่าราคาเป้าหมายปีหน้าที่เราปรับผลกระทบแล้วเป็น 270 บาท

ส่วนราคาเป้าหมายของ INTUCH ปีหน้าเป็น 97 บาทและคาด Dividend yield % เรายังคงแนะนำซื้อเป็นหุ้น Top picks ในกลุ่มทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม Timing ในการซื้อควรจับตาดูการประมูลคลื่น 900MHz ในวันที่ 15 ธ.ค. ยิ่งการแข่งขันรุนแรงจะยิ่งกดดันราคาหุ้น แต่จะเป็นจังหวะซื้อลงทุนอีกครั้ง

เศรษฐกิจเดือน ต.ค. ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป 

เศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค. ยังคงฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาครัฐ (16% ของ GDP) ที่ใช้จ่ายเต็มที่ ส่วนการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังมีต่อเนื่องเฉพาะสินค้าที่จำเป็น แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่มากพอที่จะจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่มีราคาสูง เช่น บ้านและรถได้ อย่างไรก็ตาม

สิ่งที่เราอยากเห็นคือการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในเดือน ต.ค. ยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราการใช้กำลังการผลิตของหลายๆ อุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับต่ำมาระยะใหญ่ ล่าสุดยังอยู่ที่ 60.4% สะท้อนถึงความต้องการสินค้าที่ยังมีไม่มากนัก กำลังการผลิตที่ยังเหลือน่าจะทำให้การขยายลงทุนของภาคเอกชนยังไม่ฟื้นเร็วนัก

เราคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปีหน้า และยังเชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2016 จะมีการลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

โครงการลงทุนต่างๆ เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

นอกเหนือจากการที่ภาครัฐผลักดันโครงการลงทุนขนาดเล็กมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านบาทให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณภายใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้แล้ว การประมูล 4G ทั้ง 2 คลื่นจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ อย่างน้อยน่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจใน 4Q15 ได้ 0.2-0.3% ของ GDP

ขณะที่เม็ดเงินส่วนใหญ่ของการลงทุน 4G และรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-แก่งคอยที่ STEC ชนะประมูล จะอยู่ในปี 2016 เป็นต้นไป และในปี 2016 ยังมีโครงการที่คาดหวังได้คือการประมูลก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.17 หมื่นล้านบาท รถไฟรางคู่ 10 เส้นมูลค่ารวม 1 แสนล้านบาท รถไฟฟ้า 3 สี (ส้ม ชมพู เหลือง) มูลค่ารวม 1.4 แสนล้านบาท เป็นต้น น่าจะได้เห็นตั้งแต่กลางปี 2016 เป็นต้นไป

กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเพิ่งผ่านการ Sell on fact หลังการประมูลโครงการรถไฟทางคู่เส้นทางฉะเชิงเทรา-แก่งคอยเสร็จสิ้นไป ปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าเข้ามาสะสมใหม่ อย่างน้อยเก็งกำไรการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ เส้นจิระ-ขอนแก่น (วงเงิน 2.36 หมื่นล้านบาท) ในวันที่ 8 ธ.ค. โดยมีผู้ผ่านคุณสมบัติ 4 รายคือ ITD, CK, STEC, UNIQ แต่สำหรับการลงุทนระยะยาว เราชอบ CK (ราคาเป้าหมายปี 2016 ที่ 36 บาท) มากสุดจากการกระจายรายได้ที่ไม่ได้พึ่งพาเฉพาะงานก่อสร้าง