posttoday

สร้างหลักประกัน(ให้)ชีวิต....ก่อนคิดลงทุน

23 กุมภาพันธ์ 2558

โดย...บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต

โดย...บุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต

ในฉบับที่แล้วผมทิ้งท้ายไว้ว่า ก่อนที่จะลงทุนเพื่อให้ถึงเป้าหมาย...ท่านควรมี 2 สิ่งตุนไว้ คือ เงินสำรองฉุกเฉิน และ ประกันชีวิต… เพราะเราควรสร้างความมั่นคงและมีความพร้อมก่อนที่จะเริ่มต้นลงสนามความเสี่ยงที่เรียกว่าการลงทุน อีกทั้งการลงทุนเป็นเรื่องระยะยาวไม่ควรมาขาดช่วงหรือสะดุดจากสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงได้ยาก

“เงินสำรองฉุกเฉิน” ...เป็นเงินที่ไม่ว่าจะลงทุนหรือไม่ลงทุน ทุกคนก็ควรมีเก็บไว้ โดยอาจเก็บไว้ประมาณ 3 เท่าของเงินเดือนก็ได้ครับ ... บางคนเก็บไว้ให้เพียงพอกับการใช้จ่ายถึง 6 เดือนก็ย่อมได้ ซึ่งจะเก็บเท่าไหร่อันนี้ก็ตามแต่ที่ท่านพึงพอใจครับ  แต่ท่านลองจินตนาการถึงวันที่ท่านประสบปัญหา ต้องออกจากงานกะทันหัน แล้วล้วงกระเป๋าพบว่าไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย ท่านจะรู้สึกอย่างไร?

...แน่ล่ะครับ ท่านคงไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนั้น เพราะฉะนั้นมีไว้เถอะครับ ...เงินสำรองฉุกเฉินสำคัญกว่าที่คิดมาก โดยสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ครับ อีกทั้งการเจ็บป่วยเล็กๆน้อย ที่ไม่ต้องถึงกับนอนโรงพยาบาล เราก็อาจนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้เหมือนกัน อย่างเช่น ไข้หวัดธรรมดา หรือ อาหารเป็นพิษ

ส่วนการทำ “ประกันชีวิต” ...ผมมองในแง่ของความอุ่นใจ มั่นใจและมั่นคงของชีวิต โดยเน้นที่ คุ้มครองสุขภาพ คุ้มครองอุบัติเหตุ ไม่ใช่เพื่อการออมหรือการลงทุนเป็นหลัก

เมื่อไม่นานมานี้ พนักงานที่บริษัทผมเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง 1 คืน เสียค่ารักษาพยาบาลไป 20,000 กว่าบาท เนื่องจากตอนแรกคิดว่าไม่สบายธรรมดาแต่ไม่หายสักทีจนถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ แพทย์เลยต้องตรวจวินิจฉัยหลายครั้งกว่าจะเจอว่าเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ไหน ในกรณีนี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะใครๆ ก็มีโอกาสเป็นไข้หวัดได้ แต่เราไม่ค่อยนึกถึงว่าแค่การเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาจะต้องเสียเงินถึงหลักหมื่นหากต้องนอนโรงพยาบาล

ถ้าท่านได้เคยติดตามค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนหลาย ๆ แห่ง ก็จะพบว่า ปัจจุบันมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด ค่าห้องต่อคืนก็ต้องมีอย่างน้อยหลักพันบาท ยังไม่รวมค่ารักษาของแพทย์ พยาบาล ค่ายา และค่าตรวจวินิจฉัยอีกหลายๆ อย่าง ยิ่งในกรณีที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็อาจเป็นหลักแสนหลักล้านได้

ท่านผู้อ่านอาจจะขัดแย้งผมอยู่ในใจว่า ไม่จริงหรอก แข็งแรงดี ออกกำลังกายเป็นประจำ เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก ประเด็นนี้ผมไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ นะครับ อยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านสุขภาพแข็งแรง และปราศจากเรื่องร้ายๆ ใดทั้งปวง แต่ทุกท่านก็คงทราบดีว่าในชีวิตจริง บางทีไม่เป็นเช่นนั้นทุกเวลา ... จริงไหมครับ

สำหรับผมการที่เรามีประกันชีวิตที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งสุขภาพและอุบัติเหตุ ก่อนที่เราจะเริ่มต้นเดินเข้าสู่เส้นทางลงทุน จะทำให้การลงทุนของเรามีรากฐานที่ดี .. ไม่ใช่ว่าพอเจ็บป่วย หรือเจอปัญหาด้านการเงิน ก็ต้องขายหลักทรัพย์ที่ลงทุนไว้มาใช้ก่อน  บางทีการไปอยู่หน้าเคานเตอร์ธนาคาร แล้วเจอพนักงานพูดหว่านล้อมให้ทำประกันชีวิต ทำให้เราระแวงจนสร้างกำแพงมาเพื่อปฏิเสธท่าเดียว เรื่องเล็ก ๆ นี้ อาจทำให้เราเสียโอกาสการสร้างความมั่นคง มั่นใจ และอุ่นใจ ให้กับชีวิตนะครับ

เมื่อเราเตรียมพร้อมให้กับชีวิตแล้ว ในสัปดาห์หน้าเรามาดูกันว่า .. ถ้าจะเริ่มต้นลงทุน เราควรรู้อะไรบ้าง แล้วเริ่มต้นที่ลงทุนอะไรดี มาหาคำตอบไปด้วยกัน รับรองว่าเป้าหมายที่วางไว้ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ

สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ [email protected]