posttoday

ซื้อLTFระวัง! เจ็บ-จุก

25 มิถุนายน 2556

โดย...ทีมข่าวกองทุนรวม

โดย...ทีมข่าวกองทุนรวม

พอหุ้นร่วงไหลเละเป็นโจ๊ก ใครๆ ก็แนะนำว่า นี่ล่ะเป็นจังหวะดีให้ซื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) โดยไม่ต้องรอไปทุ่มซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี และนักลงทุนจำนวนมากก็โดดเข้าไปลงทุนตามคำแนะนำ เห็นได้จาก|ยอดซื้อกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งสองแบบ (รวมทั้งกองทุนหุ้นปกติด้วย) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แทบทุกแห่งวิ่งทะลุเป้า ไม่ต่างจากช่วงปลายปี

ได้เห็นแบบนี้ก็ปลื้มใจแทน บลจ. ที่ปีนี้น่าจะไม่ต้องเหนื่อยโหมกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี แต่สำหรับนักลงทุนต้องระวัง อย่าซื้อเพลิน เพราะถ้าซื้อโดยไม่ได้วางแผนให้ดีอาจจะ เจ็บ! และ จุก! ได้ในภายหลัง

อย่างแรก คือ ต้องไม่ซื้อเกินสิทธิลดหย่อนภาษีที่ได้รับ

จริงๆ แล้ว เราจะซื้อเกินสิทธิลดหย่อนก็ได้ ไม่มีใครห้าม (และเคยมีคนซื้อเกินสิทธิมาบ่นให้ฟังว่า “คนขาย” ได้แต่คะยั้นคะยอให้ซื้อ โดยไม่ได้ตรวจสอบเรื่องรายได้ให้ดีเสียก่อน) แต่สุดท้ายแล้วก็จะนำไปใช้ลดหย่อนได้ตามสิทธิที่ได้รับ คือ สูงสุดไม่เกิน 15% ของรายได้รวม หรือ ไม่เกิน 5 แสนบาท

แต่ที่จะทำให้ เจ็บ! คือ ส่วนที่ซื้อเกิน นอกจากจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ทางภาษีแล้ว เมื่อถือไปจนครบกำหนด 5 ปีปฏิทินแล้วได้กำไรจากการขายก็จะต้องนำกำไรที่ได้ไปคำนวณเป็นเงินได้ในปีที่ขายด้วย

อย่างที่สอง คือ ซื้อแล้วอย่าเปลี่ยนใจ

หลังจากทุ่มเงินซื้อ LTF หรือ RMF ไปแล้ว ยังไม่ทันข้ามปี ยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่เกิดเปลี่ยนใจอยากจะขายกองทุนเพื่อนำเงินไปใช้อย่างอื่น อันนี้ก็อาจจะทำให้ จุก!

นั่นเพราะการขายกองทุนจะใช้หลักการ FIFO (First In First Out) คือ เข้ามาก่อนก็ต้องออกไปก่อน เพราะฉะนั้นถ้ามีการขายออกไปจะถือเป็นการขายก้อนแรกก่อนเสมอ ทำให้เป็นการขายที่ผิดเงื่อนไขและจะต้องนำเงินที่ได้จากการลดหย่อนไปคืนสรรพากร พร้อมกับเสียเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน นับจากวันที่ 1 เม.ย. ของปีที่ได้รับเงินคืน

นอกจากนี้ การขาย LTF ก่อนจะครบกำหนด 5 ปีปฏิทิน จะต้องเสียทั้งค่าธรรมเนียมขายหน่วยลงทุนและค่าปรับ ซึ่งรวมๆ แล้วอาจจะสูง 3-4% เลยก็ได้

จงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย จึงแนะนำให้นักลงทุนซื้อกองทุนหุ้นธรรมดาเก็บไว้ก่อน แล้วเมื่อใกล้ๆ ปลายปีจึงโยกเงินมาซื้อ LTF หรือ RMF เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีก็ยังไม่สาย

อย่างไรก็ตาม จงรัก บอกว่า การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจากกองทุนหุ้นธรรมดามาเป็น LTF หรือ RMF อาจจะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มากนักสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนระหว่างปี