posttoday

มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า (เลือก) งานสร้างความสุข

16 มิถุนายน 2559

ยังติดทำเนียบนางเอกแถวหน้าของช่อง 3 แม้ว่าช่องจะเฟ้นหานักแสดงเลือดใหม่

โดย...นกขุนทอง ภาพ... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

ยังติดทำเนียบนางเอกแถวหน้าของช่อง 3 แม้ว่าช่องจะเฟ้นหานักแสดงเลือดใหม่ และเหล่านักปั้นทั้งหลายต่างแข่งขันดุส่งเด็กในสังกัดเข้ามาช่วงชิงพื้นที่หน้าจอ แต่ก็ยังไม่สามารถลบชื่อ มาร์กี้-ราศรี
บาเล็นซิเอก้า ออกจากนางเอกขายดี เพราะมีแฟนคลับเหนียวแน่นแทบทุกเรื่องที่ออกอากาศก็ได้รับความนิยม อีกทั้งยังมีคำชมจากในกองถ่ายถึงเรื่องระเบียบวินัย และฝีไม้ลายมือการแสดงที่แพรวพราวขึ้น นับว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของนักแสดงที่ยากจะถูกใครแซงได้ง่ายๆ

งาน-ชีวิต ความสุขที่ลงตัว

ตอนนี้มาร์กี้มีผลงานละครเรื่องบ่วงรักซาตาน ที่จ่อคิวออกอากาศ และกำลังถ่ายทำละครเรื่อง อาคม อีกทั้งมีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก มหาลัยเที่ยงคืนมีกำหนดฉาย 28 ก.ค.

“ก่อนหน้านี้มีหนังติดต่อมาหลายเรื่อง แต่ด้วยจังหวะเวลาไม่ลงตัว ติดถ่ายละครตลอด 7 วัน 2 เรื่อง ไม่เกี่ยวกับเลือกบท เพราะในทุกบทที่เสนอมาให้ กี้คิดว่าทุกคนตั้งใจทำงานกันอยู่แล้ว กว่าที่เขาจะทำละครทำหนังเรื่องหนึ่ง ผ่านกระบวนการมากมาย มีผู้ใหญ่ดูก่อนหน้าเรามาแล้วก่อนจะอนุมัติ เมื่อเขาเลือกเราเขาก็น่าจะกรองกันมาแล้ว ถ้าเวลาเราได้ ส่วนมากรับเล่นทุกบทที่เสนอมา เพราะทุกโอกาสถือเป็นโอกาสที่ดี อย่างเรื่องหนังมาในจังหวะที่กี้กำลังจะปิดกล้องละคร ติดต่อมาก็คุยกันถึงแนวหนัง เขาบอกเป็นผีตลก พอกำลังจะกลัวสุดขีดก็พลิกมาตลก ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ กี้ยังไม่เคยเล่นแนวนี้ ตอนถ่ายทำก็ไม่คิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้ พอมาตัดต่อใส่ซาวด์ดูแล้วขนลุกมาก”

สำหรับประสบการณ์การแสดงศาสตร์ใหม่มาร์กี้เล่าว่า มีเสน่ห์น่าสนใจเพราะใช้อารมณ์ในการสื่อสาร เล่นน้อยแต่ต้องให้คนดูรับสารชัดเจน ซึ่งการมาจากนักแสดงละครก็เผลอเล่นใหญ่ไปบ้างต้องมีการปรับเปลี่ยนกันพอสมควร

“ใช้เวลายากกว่าจะปรับให้ลงตัว การเล่นให้พอดียากมาก เดี๋ยวเล่นเบาไปเยอะไป แล้วยากขึ้นไปอีกตรงที่ 3 วันถ่ายหนัง อีก 3 วันไปถ่ายละคร แอ็กติ้งหนังเป็นละคร แอ็กติ้งละครเป็นหนัง ใช้เวลาปรับนิดหนึ่ง โชคดีที่บทของกี้จะสวยๆ โก๊ะๆ (หัวเราะ) ไม่ต้องฮามากเพราะในส่วนของตลกจะเป็นพี่นักแสดงคนอื่น ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นอีก”

มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า (เลือก) งานสร้างความสุข

 

ตั้งแต่เป็นนักแสดงมาร์กี้เล่นละครมาหลายบทบาท หลายแนวเรื่อง ทว่าละครพีเรียดเป็นสิ่งเดียวที่มาร์กี้ขอปัด “คิดว่าเราไม่น่าจะเล่นได้ ณ ที่นี้คือ มันยากสำหรับเราไม่เกี่ยวกับหน้า เพราะแมท (ภีรนีย์ คงไทย) ยังเล่นได้ แต่เรารู้สึกไม่เก่งเรื่องภาษา ภาษาปกติสำหรับกี้ก็ว่ายากแล้ว บางทีมีคำแปลกๆ ที่ในชีวิตประจำวันเราไม่เคยใช้กี้ก็ว่าโหดเแล้ว ถ้าเป็นภาษาย้อนยุคเราต้องตายแน่ๆ เลย เคยมีติดต่อมาให้เล่นละครพีเรียด แต่ไม่กล้าลอง เรากลัว เราเครียด เราไม่สบายใจ กลัวทำออกมาไม่ดี ถ้าเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง เริ่มต้นจากความมั่นใจสำคัญนะ ถ้าเราไม่มีความมั่นใจ กล้าๆ กลัวๆ ทำออกมาไม่เต็ม 100%”

12 ปีในการทำงานแสดงมาร์กี้ได้เรียนรู้อะไรมามาก ผ่านงานละครถ่ายทำ 2-3 เรื่องต่อปี จนถึงจุดหนึ่งที่ต้องพักร่างกายบ้าง แม้จะมีงานรองรับให้เล่นหลายเรื่องก็ตาม แต่เธอเลือกที่จะทำงานเพียง 1 เรื่อง เพื่อจะได้แบ่งปันเวลาที่เหลือไปใช้ชีวิตด้านอื่นๆ บ้าง

“ถ่ายละครต่อเรื่องใช้เวลา 6-7 เดือน เหนื่อยนะคะแต่เราก็ชินไปเอง กี้ว่าทุกงานเหนื่อยเหมือนกัน ถ้าทำงานไม่เหนื่อยแปลว่าไม่ได้ตั้งใจทำจริงๆ ใช้เวลาถ่ายเช้าถึงดึก 2 เรื่อง ก็ 7 วัน ถ้า 1 เรื่องก็ 4 วัน ที่ผ่านมากี้รับละคร 2 เรื่องมาตลอด ตื่นเช้านอนดึกบ่อยๆ ก็มีบ้างที่คิดว่าเมื่อไหร่จะถึงวันสิ้นสุด มันจะมีช่วงเวลาที่เราจะไม่ไหวแล้ว อยากหายไปสัก 2 วัน แต่สุดท้ายก็ไปไม่ได้ ต้องไหว ต้องมีความรับผิดชอบเพราะเราเบี้ยวคนเดียวเขาเดือดร้อนกันทั้งกอง มีที่อยากแอดมิตโรงพยาบาล แต่ถึงไม่สบายจริงๆ ก็ตื่นไปโรงพยาบาล 1 ชม. ให้หมอฉีดยา แล้วก็ไปถ่ายละครต่อ ไม่ใช่ว่ากี้มีความรับผิดชอบเหนือคนอื่น มันมีทุกคนแหละที่ฉันไม่อยากทำแล้ว หากแต่ละคนก็มีความกล้า ความกลัวไม่เท่ากัน สำหรับกี้ปอดแหกไม่กล้าพอ แล้วบางทีความกลัว ความปอดแหกก็ดีเหมือนกัน

กี้เพิ่งมาคุยกับผู้ใหญ่ขอเล่นละครครั้งละ 1 เรื่อง เพราะร่างพัง จิตใจระบมเหลือเกิน วันอื่นๆ จะได้ทำอย่างอื่นบ้าง พอกำลังจะได้พัก มีหนังมหาลัยเที่ยงคืนติดต่อมาเลย แต่ไม่รับก็เสียดาย อดทนอีกนิดเพราะถ่ายทำคาบเกี่ยวไม่กี่เดือนเอง ตอนนี้กี้ก็ดูแลตัวเองไม่รับงานหนักจนเกินไป กี้ชอบถ่ายแบบ เดินแบบ ทำอะไรที่เป็นอย่างอื่นบ้าง ต้องมีเวลาให้ตรงนี้ เราได้มีเวลาไปเที่ยวบ้าง ดูแลตัวเองออกกำลังกาย เข้าสปาดูแลผิวพรรณ ผ่อนคลายสมองจิตใจพร้อมสำหรับไปทำงาน 4 วัน”

มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า (เลือก) งานสร้างความสุข

 

อนาคตที่ออกแบบได้

อีกสิ่งหนึ่งที่มาร์กี้รักจะทำคือ การออกแบบเครื่องประดับ ภายใต้แบรนด์ @imbrand ขายในอินสตาแกรม จุดเริ่มต้นมาจากอยากได้เครื่องประดับสวยดูดีวัสดุคุณภาพแต่ราคาย่อมเยาใส่ไปออกงานอีเวนต์ตามต่างจังหวัดและใช้ในชีวิตประจำวัน ทำมาได้ 2 ปีแล้ว มีลูกค้าอุดหนุนอย่างน่าชื่นใจ หากแต่เธอไม่คิดขยับขยายให้ใหญ่กว่านี้ เพราะต้องการควบคุมคุณภาพ และที่สำคัญมาร์กี้อยากทำเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสุข ออกแบบเวลาว่างยามพักกอง ไม่ต้องมานั่งเครียดผลิตงานออกสู่ตลาดที่โตขึ้น

ขณะที่อีกหนึ่งความสุขที่สร้างงาน คือ การท่องเที่ยว เพราะทำให้เธอได้ผลิตรายการออกอากาศทางยูทูบ ชื่อรายการ ป๊อกกี้ on the run ร่วมกับ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หวานใจของมาร์กี้นั่นเอง เรียกว่าควงคู่หรือไปกับเดอะแก๊งกินเที่ยวที่ไหนก็เก็บมาฝาก

“เป็นรายการแนวท่องเที่ยว ถือกล้อง ถ่ายกันเอง เหมือนเรารีวิวให้ดูก็มีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ร้านโปรดของเรา หรือบางที่คนรู้จักแล้วแต่ก็ยังมีบางมุมที่อาจไม่รู้  ทุกครั้งที่เราเดินทางก็ไปกินไปเที่ยวกันอยู่แล้ว เราถ่ายรายการด้วยก็เป็นประโยชน์ขึ้นมาหน่อย ทำมา 5 เดือนแล้ว ก็เริ่มมีรายได้มาจากโฆษณา ไอเดียเริ่มมาจากพี่ป๊อกไปถ่ายเอ็มวี รันอะเวย์ แล้วคนชอบ รอบที่สองเอากล้องไปถ่ายด้วย ทำตัดต่อลงยูทูบ คนชอบเยอะอีก คราวนี้ยาวเลย เราถ่ายกันเอง เป็นไลฟ์สไตล์จริงๆ มีความสดไม่มีสคริปต์”

ที่ผ่านมาค่อนข้างทำงานหนัก ตอนนี้มาร์กี้จึงวางแผนการทำงานควบคู่ไปกับการออกไปใช้ชีวิตนอกกองถ่าย ไม่กลัวว่าจะมีนักแสดงคนอื่นแซงหน้า หรือแม้แต่จะตัดราคาเพื่อให้ได้งานมากกว่า

มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า (เลือก) งานสร้างความสุข

 

“เป็นไปตามเศรษฐกิจ อีเวนต์น้อยลง ค่าตัวก็แข่งขันกันลง กี้ไม่อยากเรียกว่าตัดราคา มันเป็นดีมานด์ซัพพลาย พอเวลาดีมานด์ไม่ตรงซัพพลาย ราคาก็ต้องลง มันก็ต้องมีแถม ก็เอาตามที่เราสบายใจ ถ้าคนอื่นลดมา แล้วเราต้องลดน้อยกว่านี้เราไม่ไหวมันดูน่าเกลียดก็ไม่รับ ของกี้ดูความเหมาะสมจากที่เขาใช้งานเราเยอะไหม เราลดหย่อนได้เราก็ช่วย ถ้าสโคปงานมาเต็มก็เปลี่ยนเป็นแถมให้ไหมแต่ราคาเท่าเดิม เพราะถ้าเราลดก็ไปตัดหน้ารุ่นน้องที่เขาราคาเท่านั้น เศรษฐกิจมีขึ้นมาลงตอนดีก็วิ่งกันหลายงานจนไม่ไหว ต้องแบ่งๆ งานให้เพื่อนๆ เหมือนกัน”

ต่อให้รับงานละครเพียง 1 เรื่อง ออกงานอีเวนต์บ้างไม่ชุกเหมือนเมื่อก่อน และแม้จะมีนักแสดงเกิดใหม่ มาร์กี้ก็บอกว่า ไม่มีผลกระทบเพราะวางแผนไว้ดีแล้ว

“ทุกอย่างมีขึ้นก็มีลง ถ้าเรารู้จักเก็บเงิน มีเงินสำรอง เราก็ไม่สะทกสะท้าน การออกอีเวนต์ก็เพื่อให้แฟนคลับได้เจอเราบ้าง ทำงานตรงนี้ต้องวางแผนให้ดี ถ้าเราจะไม่ได้ทำนานต้องมีอย่างอื่นรับรอง หรือต้องเก็บเงินไว้เยอะๆ เยอะขนาดหารต่อวันอยู่ได้จนตาย

ถ้า 5-10 ปี กี้หยุดทำงาน แต่ไม่มีลูกนะ อยู่คนเดียว เงินที่มีใช้จนตาย เคยลองเอาเงินที่มีหารต่อวัน เราใช้วันหนึ่งไม่เกินสองพันสามพัน บ้านผ่อนหมดแล้ว รถ 5 ปีเปลี่ยนในราคาเท่านี้ การรักษาพยาบาลก็ทำประกัน สะสมโดยซื้อกองทุนบ้าง เราสามารถมองอนาคตได้ แล้วรู้ว่าอนาคตจะทำอะไรไม่ทำอะไร เราชอบอะไร เราสามารถบอกได้ กำหนดเส้นทางตัวเองได้ แต่ถ้ามีอีกคนเข้ามา เราไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าเขาจะทำอะไร เราไม่สามารถบอกได้ ดังนั้นเราพึ่งตัวเองไว้ก่อน ถ้าคนที่เข้ามาไม่เวิร์ก อย่างน้อยสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ ที่เรามีแผนของเราเอาไว้มันจะดูแลเราได้ แต่ถ้าคนที่สองมาอยู่กับเรา มาดูแลเราได้ ถือว่าโชคดี เป็นโบนัสไป”