ไมร่า...เหยื่ออารมณ์โลกไซเบอร์

เปิดใจ "ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย" แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์กับความรู้สึกหลังเจอสารพัดคอมเมนต์บนโลกไซเบอร์ 

โดย... สมชาย บุญเหลือ / ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

กลายเป็นหัวข้อให้โจทย์ขานกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า ไม่มีความเหมาะสมจะคว้าตำแหน่งแชมเปียน “Thailand Got Talent 2011 พรสวรรค์บันดาลชีวิต” ทันทีที่ประกาศผลรายชื่อผู้ชนะออกไป ชื่อของ น้อง ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย สาวน้อยลูกครึ่งไทยอเมริกัน วัย 13 ปี ก็ถูกตั้งคำถามอื้ออึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ยิ่งในโลกออนไลน์สื่อไร้พรมแดนด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง มีคนเข้าไปคอมเมนต์ไม่เห็นด้วยกับการประกาศผลในครั้งนี้มากมายเหลือเกิน หลายข้อความเลยเถิดถึงขั้นด่าว่า เหมือนกับโกรธเคืองกันมาอย่างนั้นแหละ มีตัวอย่างคอมเมนต์ทางโลกออนไลน์ที่ไม่เห็นด้วยมาให้อ่านพอหอมปากหอมคอ อาทิ

ได้ที่ 1 มาได้ไงก็ไม่รู้ มันยุติธรรมดีอยู่เหรอ

ใช่ๆๆๆ ความสามารถก็ทั่วๆ ไป แค่มีเงินจ้างโหวต

 

ไมร่า

ตัดสินด้วยการโหวต มันก็ขัดความรู้สึกคนดูอย่างนี้ล่ะครับ แต่อยากให้ตั้งสตินิดหนึ่งว่า น้องคนนี้เค้าไม่ผิดนะครับ เค้าไม่รู้อะไรด้วย ถ้าจะโทษต้องโทษผู้จัดทั้งหมดนะครับ

ความสามารถของคนขึ้นอยู่กับเงินอุปถัมภ์เท่านั้นครับเมืองไทย อย่าใช้วิธีโหวตเลย เพราะมันไม่ยุติธรรม ถ้าจะหาเงินให้ไปหาที่อื่นโน่น

ถ้าร้องเพลงไทย แล้วเสียงเพราะจะไม่ว่าเลย แต่นี้เพลงอะไรก็ไม่รู้ คิดว่าคนไทยส่วนมากไม่น่าจะฟังเพลงประเภทนี้นะ ชนะได้ไง

เอ่อ ประกวดความรวยหรอคับ...ถ้ารายการนี้มีอีกอย่าเสียเวลาไปสมัครนะครับ ถ้าตังค์ไม่มากพอ หรือถ้าไม่รวยจิง... เพราะความสามารถดีเเค่ไหนถ้าไม่มีตังค์โหวตก้อจบ...

จ้างโหวต แน่เลยว่ะ

บ้านก้อน่าจะมีเงินนะ จะเอาไปทำไมอีก ทำไมคนที่เค้ามีความสามารถจริงๆ ไม่ให้เค้าอ่ะ

น้องเค้าร้องดี แต่ไม่เหมาะสมกับ 10 ล้านหรอก อายุ 13 ปี ไปดูต่างประเทศสิ เด็กกว่านี้ยังร้องโอเปราได้ดีกว่านี้อีก

รายการนี้มาดูคอมเมนต์บ้างนะว่าคนเค้าด่าหรือชมมากกว่ากัน ไม่คุ้มกับ 10 ล้านเลย มันใช้เส้นชัดๆ เอาเถอะ ประเทศชาติเจริญเหมือนเดิม

หน้ากรรมการเหมือนไม่พอใจ ที่เธอได้...ก็น่ะ คนน่าจะได้กว่าก็มี ติดแค่เค้าไม่มีตังค์โหวตตัวเอง...ไม่รวยจิง ไปแข่งก็เท่านั้น

ความสามารถจริงหรือ แน่ใจว่าคนทั้งประเทศโหวตให้

น่าสงสารน้องเค้านะครับ น้องเค้าไม่ผิดนะ แต่ว่าความสามารถไม่ถึงจริงๆ ครับ คิดบวกสิปป์ควรได้ครับ พวกผู้สนับสนุนนะครับ วางตัวผู้ชนะมาแล้วเพราะคิดว่าน้องเค้าสามารถทำการตลาดได้มากที่สุดในอนาคต การประกวด ของต่างประเทศจะมีการนำผลคะแนนมาให้ผู้ชมได้รับรู้ด้วย แต่ของไทยไม่มี น่าคิดนะครับ ง่ายๆ มันคือเหตุผลของการตลาด

อย่างไรก็ตาม ข้อความตัดพ้อต่อว่าเหล่านี้ เป็นเพียงส่วนน้อยนิดที่หยิบยกมาให้อ่านว่าผู้คนเขาคิดอย่างไรกับแชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเรนต์คนแรกของเมืองไทยบ้าง แต่ในทางกลับกันผู้คนในโลกออนไลน์ที่ให้กำลังใจน้องไมร่าก็มีจำนวนมากไม่แพ้กัน เพียงแต่สังคมไทยจะหยิบยกสิ่งที่เป็นภาพลบมาพูดถึงกันมากกว่า

จะว่าไปแล้วน้องไมร่าก็มีความสามารถเกินเด็กอายุ 13 ปี ร้องเพลงได้ดีขนาดนี้ก็ต้องยกย่องชมเชย ชมเชยทั้งตัวน้องไมร่า ชมเชยทั้งครอบครับที่ให้การสนับสนุน จนยืนมาถึงจุดนี้ได้ แต่เมื่อน้องไมร่าเป็นคนของสังคมไปแล้วก็ต้องทำใจต่อคำวิพากษ์วิจารณ์

แต่สำหรับหัวอกคนเป็นแม่ “อัมพร มอลลอย” เมื่อลูกถูกตำหนิหนักหนาสาหัสเพียงนี้ ก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา “เสียใจมาก วันแรกที่เห็นข่าวนอนไม่หลับเลย อยากบอกว่าน้องไม่ได้เพิ่งมาร้องเพลงวันนี้ น้องร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ น้องมีคลิปในยูทูบ มีคนดูเกือบ 3 ล้านคน

โดยที่น้องเป็นแค่เด็กธรรมดา แต่มีคนทั่วโลกเข้ามาดูแล้วบอกน้องเก่งมาก มีคนส่งข้อความเข้ามา ซีเอ็นบีซีส่งเข้ามาให้เอาน้องไปออดิชัน ซิงกิงคอนเทสต์ ที่อเมริกา มีคนให้น้องไปอยู่บ้านเขา เขาจะส่งน้องไปอเมริกาก็อตทาเลนต์ แต่เราไม่ไป...

พอมีรายการนี้ปุ๊บ น้องมาเลย เพราะเราดูรายการประกวดต่างประเทศมาตลอด แล้วไมร่าอยากมาที่สุด เราก็เดินมาสมัครกันเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงทุกวันนี้ของน้อง แม่นั่งดูทุกวันดูแล้วก็ภูมิใจ มีคนเข้ามารักน้องและมาเชียร์น้อง หลายปีแล้ว และพอมาถึงวันนี้ทำไมทำอย่างนี้ น้องทำอะไรผิดหรือ...” คุณแม่ปล่อยคำถามไปกับสังคม

สำหรับไมร่าแล้ว ดูจะเสียใจไม่น้อยกว่าคุณแม่ เธอถูกตั้งข้อสังเกตเยอะมาก ยอมเปิดใจกับ “โพสต์ทูเดย์” "ก็เสียใจนะ ที่คนมองว่าหนูไม่เหมาะสม แต่ก็หวังว่าทุกคนเขาจะให้โอกาสหนู ให้หนูแสดงสิ่งที่หนูรักต่อไป ก็ขอโอกาสด้วย ส่วนกระแสในอินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้เปิดดูค่ะ พ่อแม่ไม่ให้ดู กลัวทำให้เราเสียใจแล้วท้อไปกว่านี้"

พอถามแหย่ว่า คุณพ่อคุณแม่ทุ่มเงินหรือไปเกณฑ์ใครมาโหวตให้ตามที่เป็นข่าวหรือเปล่า ไมร่ารีบปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่เลยค่ะ ไม่มีแน่นอนค่ะ พ่อแม่เขาก็แค่นั่งโหวตกันเอง เหมือนพ่อแม่คนอื่นโหวตให้ลูกนั่นแหละค่ะ”

สำหรับความรู้สึกแรกหลังได้รับการโหวตให้ชนะการประกวด เธอยอมรับรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก แต่ยังไม่ชิน จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และรู้สึกว่าชีวิตได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนไม่รู้จัก ก็เริ่มมารู้จัก หลังจากชนะการประกวดแล้วก็มีอะไรเข้ามาในชีวิตเยอะ คนรอบข้างก็ดีใจ เพื่อนก็ดีใจ เข้ามาประกวดครั้งแรกไม่ได้หวังจะชนะเลิศได้ที่ 1 เพราะเห็นว่ามีคนเก่งเข้าประกวดมากหลายคน แต่วันนี้เธอก็ทำได้

สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามาประกวดครั้งนี้ไม่มีใครแนะนำ น้องไมร่าบอกว่า ในยูทูบมีคลิปที่ร้องเพลงอยู่แล้ว และมีคนเข้ามาดูมาคอมเมนต์ 3 ล้านคน เห็นว่าน่าจะไปประกวดอเมริกาก็อตทาเรนต์กับบริเทนก็อตทาเรนต์ แต่ไม่มีโอกาสได้ไป พอมีไทยแลนด์ก็อตทาเรนต์ก็เลยอยากมาลองประกวดดู ประกอบกับชื่นชอบการร้องเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เลยอยากลองดู

ไมร่า บอกว่า การร้องเพลงอยู่ในสายเลือด แต่ค้นพบจริงๆ ว่ามีพรสวรรค์ในการร้องเพลงก็ตอน 8 ขวบ เพราะเริ่มชอบร้องเพลง เลยหัดร้องเพลงเองเรื่อยมา ชอบดูหนัง ชอบดูบรอดเวย์ พอมีเวิร์กช็อปดิสนีย์ออนไอซ์โชว์ก็อยากร้องเพลงให้มาก เลยส่งเสียงเข้าไปทดสอบ ทางดิสนีย์ออนไอซ์ก็เรียกไปและสอนร้องเพลง และให้แสดง

ถึงแม้วันนี้เธอจะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและทั่วโลกแล้ว แต่สาวน้อยหน้าใสคนนี้ก็มีความตั้งใจสูงสุดคือ อยากพากย์และอยากร้องเพลงให้กับดิสนีย์ออนไอซ์ การแสดงขวัญใจเด็กๆ และคนทั่วโลก

หลังจากนี้เธอได้วางโปรแกรมชีวิตไว้คือ จะตั้งใจเรียนเป็นอันดับแรก และหวังไว้สักวันหนึ่งจะได้เป็นนักร้องอาชีพ และได้เป็นศิลปินอย่างเต็มตัว... ก็ขอเอาใจช่วยให้ตามฝันจนเจอ และผ่านบททดสอบแรกก่อนสู่อาชีพศิลปิน !!!