posttoday

ปีเตอร์ ชาน กับหนังฮีโร่สร้างชาติ

28 มกราคม 2553

จับเข่าคุยกับผู้กำกับระดับโลกแดนมังกร "ปีเตอร์ ชาน" ในงานเปิดตัวหนังฟอร์มยักษ์ Bodyfuards and Assassins

จับเข่าคุยกับผู้กำกับระดับโลกแดนมังกร "ปีเตอร์ ชาน" ในงานเปิดตัวหนังฟอร์มยักษ์ Bodyfuards and Assassins

โดย...อัคร เกียรติอาจิณ

ลมหนาวพัดระส่ำทำเอาเราสั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย อุณหภูมิราว 2 องศา ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ ช่างเป็นอะไรที่เราไม่คุ้นสักเท่าไหร่ แถมด้วยฝนตกปรอยๆ นับเป็นเซอร์ไพรส์ในการมาเยือนครั้งนี้อย่างมาก

ทันทีที่พาตัวเองออกจากรถได้ เราก็รีบจ้ำอ้าวเข้าสู่โรงแรมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังจีนฟอร์มยักษ์ Bodyguards and Assassins ไออุ่นของฮีตเตอร์ช่วยให้เรารู้สึกดีกับเซี่ยงไฮ้ขึ้นมาหน่อยว่า มันก็ไม่เลวร้ายไปเสียหมด

คลื่นสื่อมวลชนตี๋หมวยที่แห่แหนมามืดฟ้ามัวดิน สร้างสีสันแปลกตาให้วันอันหนาวเหน็บ ระหว่างรอการปรากฏตัวให้สัมภาษณ์พิเศษของทีมนักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ เราอาศัยจังหวะนั้นเดินเตร่สำรวจบรรยากาศงานโดยรอบ

อืม...ต้องบอกว่า นี่คือหนังหมายมั่นปั้นมือแห่งปีที่ชาวจีน ภาคภูมิใจ ลำพังแค่น้ำจิ้มก็อลังการบานตะไท โปสเตอร์ขนาดใหญ่ถูกโชว์หราไว้บนเวที เหล่านักแสดงชื่อดัง "ดอนนี เยน" "เซียะถิงฟง" "เหลียงเจียฮุย" "ฟานปิงปิง" รวมถึงน้องใหม่ของวงการเดอะสตาร์เมืองจีน "หลีหยูชุน" และหนุ่มหล่อกระชากใจ "หวังปั๋วเจี๋ย" (ขาดไปก็แต่ หลี่หมิง เยิ่นต๊ะหัว เจินจื่อเหว่ย ที่ติดภารกิจด่วน) ต่างพาเหรดมาให้กระทบไหล่ตัวเป็นๆ

ที่ขาดไม่ได้ "เท็ดดี้ เฉิน" (ผลงานเก่าๆ ของเขาส่วนมากจะเป็นหนังแอ็กชัน เช่น Purple Storm, Downtown Torpedoes, Twenty Something) กับ "ปีเตอร์ ชาน" ซึ่งคนหลังเขายังยอมสละเวลาก่อนขึ้นเครื่องกลับฮ่องกงมานั่งให้สัมภาษณ์นอกรอบกับเราต่อในฐานะโปรดิวเซอร์

Bodyguards and Assassins ใช้เซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก ร่วมทุนสร้างระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง ด้วยงบประมาณสูงลิ่วเกือบ 800 ล้านบาท

ปีเตอร์ ชาน กับหนังฮีโร่สร้างชาติ

 "ที่เลือกเซี่ยงไฮ้ก็เพราะติดเรื่องอากาศ ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่ใช่ศูนย์กลางด้านหนังเมื่อเทียบกับปักกิ่ง แต่ตอนที่เราเปิดกล้องเดือนม.ค. ปักกิ่งหิมะตก เราเลยเปลี่ยนมาเป็นเซี่ยงไฮ้แทน หิมะไม่ตกก็จริง กว่าจะถ่ายเสร็จเดือนก.ค. เซี่ยงไฮ้ร้อนมาก เราต้องทำงานกันท่ามกลางอากาศร้อนๆ ดาราต้องใส่เสื้อกันหนาวเพื่อให้สมจริง คิดดูสิว่ามันเหนื่อยและหนักแค่ไหน" ปีเตอร์ ชาน เปรยให้ฟัง

จุดขายของหนังเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นโรงถ่ายที่สร้างขึ้นเฉพาะในเซี่ยงไฮ้กับนักแสดงระดับท็อปทั้งฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน ยังรวมถึงพล็อตที่หยิบยกเอาชีวิตนักต่อสู้ทางการเมืองของจีนยุคใหม่ "ซุนยัดเซ็น" มาขมวดปมใหม่ให้น่าสนใจ โดยสร้างตัวละครฮีโร่ (ขอทาน คนลากรถ พ่อค้า นักร้อง ฯลฯ ) ร่วมผนึกกำลังสนับสนุนการปฏิวัติลับๆ เพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชิง

"จีนค่อนข้างจะเป็นตลาดที่ใหญ่ สิ่งที่ผมต้องโฟกัสคือ ทำยังไงจะเอาคนดูอยู่ ซึ่งมันยากนะ ไม่เหมือนตอนที่ผมทำหนังฮ่องกง ที่นั่นตลาดเล็กและชัดเจน อย่างการเลือกดาราก็ต้องผสมกัน ทั้งฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มคนดูในแต่ละที่ทั่วถึง ถ้าทำได้อนาคตผมว่าน่าสนใจมากตรงที่มันจะกลายเป็น ฮอลลีวูดของเอเชียสบายๆ เลยล่ะ"

ท่ามกลางพิษเศรษฐกิจโหมกระหน่ำ อุตสาหกรรมหนังก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย คนที่คลุกคลีตีโมงและผ่านร้อนหนาวมานานมีผลงานขึ้นหิ้ง Comrades : Almost a Love (เถียนมีมี่ 3,650 วัน...รักเธอคนเดียว) 3 Extremes (อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต 2) Perhaps Love (อยากร้องบอกโลกว่ารัก) The Warlords (3 อหังการ เจ้าสุริยา) มองว่าในเอเชียอาจเป็นเรื่องยากหากจะให้ความฟู่ฟ่ากลับสู่ภาวะปกติ คงต้องรอเวลาอีกนิด แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่ตลาดจีนมีขนาดใหญ่ ก็เพียงพอสำหรับการพลิกฟื้นโฉมหน้าโลกเซลลูลอยด์ได้เช่นกัน

"ตัวเลขที่ขยับขึ้นในแต่ละปีนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่าจีนยังจะแข็งแกร่งและเติบโตต่อไป ถึงแม้เศรษฐกิจไม่ดีก็เถอะ เพราะดูจาก รายได้ที่หนังแต่ละเรื่องทำไว้ เพิ่มเป็นทวีคูณเรื่อยๆ ตรงนี้ทำให้อุตสาหกรรมหนังในเอเชียก็ต้องค่อยๆ กระเตื้องตาม"

จากตัวละครในประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงสู่ตัวละครเอกในหนัง มันไม่ใช่ของง่ายนักที่จะย่อยให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ แต่ฐานะโปรดิวเซอร์ ปีเตอร์ ชาน ก็พร้อมพาทุกคนข้ามพ้นไปได้โดยไร้ข้อกังวล ไม่ว่าจะประเด็นละเอียดอ่อน แบ่งสีแบ่งข้าง ชื่นชอบ หรือเกลียดชัง กระทั่งเรื่องหมิ่นเหม่ต่อแวดวงการเมืองและบุคคลสำคัญ

"ผมเชื่อนะ ทัศนคติคนจีนกับดร.ซุนยัดเซ็น ค่อนข้างจะเป็นบวก คนจีนไม่ว่าจะอยู่แผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง หรือไต้หวัน ต่างก็นับถือท่าน ซึ่งคนจีนจะเรียกท่านว่า 'กั๋วฟู่' หรือ 'พ่อของชาติ' ฉะนั้นเรื่องราวของดร.ซุนยัดเซ็น เหมาะกับคนจีน หนังจะไปสร้างความแตกแยกระหว่างคนจีนด้วยกันไหม ผมว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร"

เมื่อเปลี่ยนบทบาทจากผู้กำกับมาเป็นโปรดิวเซอร์ ปีเตอร์ ชาน ต้องทำงานหนักมากขึ้น ความท้าทายจึงไม่ใช่แค่การทำให้หนังเสร็จสมบูรณ์ แต่เขายังต้องเจอกับบททดสอบหินไม่ว่างเว้น หรือแม้แต่การจับนักแสดงดังมาประชันฝีมือ ก็ถือเป็นเรื่องยากสำหรับเขา

"เรื่องนี้ยากมากๆ คือการหาดาราดังมาเล่นแบบฟูลทีม ปกติดาราดังไม่ค่อยยอมมาเล่นให้หรอกครับ เพราะเขากลัวว่าจะได้บทรอง เดี๋ยวคนนี้ได้บทเด่นกว่าคนนั้น เดี๋ยวคนนั้นได้เล่นเยอะกว่าคนนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ แต่ละคนไม่อยากเป็นตัวประกอบไง ผมโชคดีครับที่ทุกคนโอเค ยิ่งได้ดูหนังแล้วทุกคนแฮปปี้ ที่ไม่โดนผมหลอกมาเล่น (หัวเราะ) กันทุกคน"

ความคาดหวังที่มีต่อหนังเรื่องนี้ ปีเตอร์ ชาน พูดอย่างไม่ อ้อมค้อมว่าฝันไกลถึงฮอลลีวูด ในแง่บันเทิงจากตะวันออกที่ ชาวตะวันตกน่าจะหลงใหล โดยเฉพาะกลิ่นอายเอเชียน เอ็กโซติก ที่คละเคล้าด้วยอารมณ์พีเรียด ดรามา ผสานไว้ซึ่งฉากแอ็กชันมันระห่ำ โดยไม่ลืมรากเหง้าของคนจีนที่มีเสน่ห์ชวนตรึงใจสไตล์ฮีโร่สร้างชาติ

"เวลาฝรั่งดูหนังเอเชียส่วนใหญ่จะเป็นพวกชอบวัฒนธรรมเก่า ชอบให้คนบินไปบินมา ไม่ใช่พวกชอบคนเดินดินธรรมดาๆ หรือประเภทดูคาแรกเตอร์ตัวละคร หรือมีไดอะล็อกเยอะๆ ก็ไม่ชอบ อย่างสุริโยทัยก็ขายไม่ได้ในต่างประเทศ แต่ผมกลับมองว่านั่นคือความสำเร็จของสุริโยทัยนะครับ ที่สามารถมีคาแรกเตอร์ตัวเองชัดเจน

สำหรับเรื่องนี้ผมว่าใครก็ดูเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องคนจีน คนไทย คนอเมริกัน หรือชาติไหนๆ ก็สามารถเข้าใจในสารที่หนังบอก ยิ่งเป็นคนจีนด้วยแล้ว ผมว่ามันคือหนังที่คนจีนต้องดู เพราะมันครบทุกอย่างเลยนะ และถ้าจะให้หนังดูขลังมากขึ้น จริงๆ ควรออกฉายในเดือนต.ค. ปี 2011 เพราะมันจะเป็นวันครบรอบ 100 ปี ที่แมนจูล่มสลายพอดี"

จบจากหนัง ปีเตอร์ ชาน ยังมีแพลนจะนำกลับมารีเมกใน เวอร์ชันซีรีส์ทางโทรทัศน์ 40 ตอน ส่วนโปรเจกต์ถัดไปเขาแง้ม เป็นนัยๆ ว่า อีกไม่นานเกินคงได้ชมกันเต็มตา