posttoday

ยธ.แถลงผลชันสูตรแตงโมรอบ2 พบ22บาดแผลที่ขา

31 มีนาคม 2565

ยธ.แถลงผลชันสูตรรอบ2 ศพ "แตงโม" พบ 22บาดแผลที่ขา ส่วน11ประเด็นข้อสงสัยไม่ต่างนิติเวชตำรวจ ด้านทนายเดชาชี้อาจแจ้งข้อหาเพิ่ม

เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 65 ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม (ยธ.) พร้อม พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์,ผศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความในฐานะตัวแทนครอบครัวผู้ตาย ร่วมแถลงผลการผ่าร่างดาราสาว แตงโม ภัทรนิดา พัชรวีระพงษ์ ครั้งที่ 2 ภายหลังครอบครัวผู้ตายต้องการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อให้คลายข้อสงสัย11ประเด็น

ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง 11 ข้อ ที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ทำผ่านทนายความมา ครบทั้งหมด แต่มีบางประเด็นเกี่ยวกับการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 ที่ไม่สามารถตอบคำถามได้ บางเรื่องเป็นความรับผิดชอบของตำรวจ บางเรื่องเป็นเรื่องที่นิติวิทยาศาสตร์ ผ่าพิสูจน์รอบแรกไปแล้ว ก็ได้ให้กรรมการในรอบ 2 ฟังขั้นตอนต่างๆ ว่าถูกต้องครบถ้วนเรียบร้อย ซึ่งครั้งนี้ มีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ สำหรับข้อเรียกร้องได้แก่

1.ศีรษะ จากการผ่าพิสูจน์รอบแรกกับรอบสอง ไม่พบบาดแผลใด

2.สภาพใบหน้าของศพเปบี่ยนจากครั้งแรกที่พบศพ อาจเกิดการเปลี่บนแปลงหลังการตาย ศพอาจเน่าเปื่อย

3.ลำคอมีภาพว่าสวมสร้อยแต่สร้อยคอยังคงหย่อน พอเวลาผ่านไปร่างกายก็บวมจนเป็นที่สังเกต ไม่พบว่ามีการรัดคอ 4 รอยไหม้ 5แผลที่ขาผลการตรวจสอบแตกต่างจากครั้งแรก พบบาดแผล 22 บาดแผล

5.เล็บมือ พบว่ามีการตัดไปตรวจครั้งแรกและตัดซ้้ำครั้งเพื่อตรวจสอบว่ามีการต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายหรือไม่

6.แผ่นหลัง ไม่พบบาดแผล

7.หลอดลม

8.อวัยวะเพศ ได้นำสารคัดหลั่งไปตรวจแล้ว

9.เสื้อผ้าที่สวมใส่วันเสียชีวิต ในการตรวจรอบสอง ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ คือไม่ได้ตรวจบอดี้สูท

10.โครงสร้างกระดูกทั้งหมดไม่พบการแตกหัก เช่นฟัน ยังครบถ้วนสมบูรณ์ เนื่องจากใช้ระบบซีทีสแกนตรวจสอบ

"ส่วนรายละเอียดอื่นเป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ อย่างไรก็ตาม สภาพศพรอบแรกยังไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน รอบสองฉีดแล้ว ทำให้บางอย่างตรวจได้ บางอย่างอาจไม่ยืนยันได้ ทำให้เกิดความแตกต่าง 4-5 ประเด็น"เลขาฯรมว.ยธ กล่าว

เลขาฯรมว.ยธ กล่าวว่า เรื่องบาดแผลหากจะทราบว่าเกิดจากสิ่งใดไม่อยู่ในหน้าที่ที่สถาบันฯ จะเข้าไปทำ เราถือเป็นจิ๊กซอว์ที่เอาไปต่อภาพ แต่ภาพที่ถูกสงสัยว่าบาดแผลมีการฉีกขาดของกระดูกหรือไม่ เราตรวจแล้วก็ไม่พบ แต่สามารถบอกได้ว่าแผลเกิดก่อนหรือหลัง ซึ่งมีในรายงานชี้แจงไปแล้ว ศพรอบแรกในการนำขึ้นมานั้นตัวแตงโมขาว แต่เมื่อนำไปแช่ฟอร์มาลีนก็ทำให้ร่องรอยชัดขึ้น ดังนั้นแผลฉีกขาดก็ไม่ใช่แผลฉีกขาดเลย ผลวันนี้แคบลงมามากแล้ว

ขณะที่ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวว่า การผ่าพิสูจน์รอบ 2 ถือเป็นประโยชน์ แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพศพที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งข้อมูลจะถือเป็นความลับ และได้มอบผลชันสูตรให้ทนายเดชาแล้ว เหตุที่ผลตรวจล่าช้าเพราะต้องรอผลทางห้องปฎิบัติการ15วัน ส่วนการขอผ่าพิสูจน์ครั้งที่3กฎหมายไม่ห้าม แต่หากจะตรวจซ้ำเพิ่มเติมอีกครั้งคือ ทำแล้วต้องเป็นประโยชน์

ด้าน ผศ.นพ.วรวีร์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบครั้งแรกถือว่ามีมาตรฐานที่ถือว่าทำให้ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ในรอบสองเพียงเป็นการย้ำว่าข้อสงสัยในข้อแรกนั้นใช่หรือไม่ใช่ สำหรับบาดแผลที่ขา ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดอย่างไร โดยตำรวจจะไปจำลองการเกิดบาดแผลกับวัตถุต่างๆ อาจจะเป็นใบพัดเรือ เพื่อเปรียบเทียบกับบาดแผล ส่วนการตรวจสอบเรื่องแอลกอฮอล์นั้น ปกติแล้ว หากตายร่างกายจะไม่ขับ เพราะแอลกอฮอล์จะถูกขับจากลมหายใจ ดังนั้นการตรวจสอบจากศพจะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

สำหรับยูเรียถือเป็นองค์ประกอบในปัสสาวะ หากมีน้ำปัสสาวะในแผ่นอนามัยก็จะตรวจเจอ แต่ตรวจไม่พบ และแผ่นดังกล่าวแช่น้ำ ยูเรียจึงอาจจะถูกชะล้างไป

ด้าน นายเดชา กล่าวว่า ตนจะนำผลชันสูตรของนิติวิทยาศาสตร์ไปหารือกับตำรวจว่าจะเป็นประโยชน์ในการแจ้งข้อหาใครเพิ่มหรือไม่ว่า การกระทำเกิดจากเจตนาหรือความประมาท และผลชันสูตรแตกต่างจากการตรวจสอบครั้งแรกหรือไม่ จากข้อมูลเบื้องต้นยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญส สำหรับบาดแผล 22 จุดจะต้องปรึกษากับแพทย์ด้านออโธปิดิกส์อีกครั้ง

"การตรวจของนิติเวช รพ.ตำรวจ ถือว่ามีมาตรฐานสากล ทุกอย่างเรียบร้อย แต่เรื่องบาดแผลอาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ ถือว่ามีประโยชน์ อาจแจ้งข้อหาเพิ่มได้แต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะสภาพศพถือเป็นพยาน ต้องไปดูว่ามีร่องรอยการทำร้ายหรือไม่ หากมีก็ต้องเทียบกับพยานแวดล้อม จีพีเอส เพื่อประกอบการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเจตนาฆ่า ลำพังบาดแผลยังไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากเจตนาหรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าคงไม่มีการผ่าพิสูจน์ซ้ำรอยที่ 3 ตั้งแต่ตนเป็นทนายความมามีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่คดีนี้คงพอแล้ว"นายเดชา กล่าว

นายเดชา กล่าวอีกว่า คาดว่าเร็วๆตำรวจจะแจ้งข้อหาคนบนเรือที่ไม่ใช่โรเบิร์ตกับปอ เพิ่มเติมในข้อหาทำลายพยานหลักฐาน หมิ่นประมาท และแจ้งความเท็จ ส่วนตัวยังเป็นทนายในคดีนี้ต่อไม่กังวลว่าจะถูกปลดเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่100 %