posttoday

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

28 ตุลาคม 2564

"ติช่า กันติชา" เปิดใจเรื่องลับ พร้อมเผยปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

โลดแล่นในวงการบันเทิงไทยมาได้สักพักใหญ่ๆ สำหรับนักแสดงเเละนางเเบบสุดแซ่บ “ติช่า-กันติชา ชุมมะ” จากสาวน้อยสุดมั่นที่เดินทางมาประเทศไทยด้วยความเด็ดเดี่ยวเพื่อคว้าตำแหน่งผู้ชนะ The Face Thailand Season 2 และเธอก็ทำได้สำเร็จ

และด้วยบุคลิกที่เป็นคนชัดเจน สาวมั่นสุดเซ็กซี่ แต่น้อยคนที่จะทราบว่าชีวิตของเธอนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องผ่านอุปสรรคมาอย่างมากมาย และเรื่องที่ค้างคาใจระหว่างพ่อเลี้ยง พร้อมล้วงลึกเรื่อง เซ็กซ์ (Sex Education) ทั้งหมดนี้ “ติช่า” เปิดแบบหมดเปลือกผ่านรายการ Woody FM

เรารู้จักกันมาตั้งแต่ The Face ในตอนนี้ไม่ใช่แค่เป็นติช่าวันนั้นที่สวยมีเสน่ห์ มีความเฟียส แต่วันนี้เป็นได้ทุกอย่าง คุณมาไกลมาก คิดไหมว่าหลังจากที่ชนะ The Face หลังจากนี้อีก 7-8 ปีฉันจะเป็นอย่างนี้ในวงการ ?

ติช่า : มีค่ะ มีภาพชัดพอสมควร มีวิชั่นค่อนข้างเยอะเลยกับตัวเอง

ภาพในวันนั้นที่อยากจะเป็นอยากให้เกิดขึ้นคืออะไร ?

ติช่า : มานั่งกับพี่วู้ดดี้แบบนี้เลยค่ะ วันที่ช่าได้คุยครั้งแรกกับพี่วู้ดดี้ ช่ามั่นใจว่าจะต้องมีครั้งหน้าอย่างแน่นอน

เป็นคนที่ทำอะไรจะต้องมองให้ไกลถูกไหมครับ ?

ติช่า : ใช่ค่ะ ตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ เรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ ไม่รู้มาจากไหนอยากจะเป็น Something Somebody ตั้งแต่เด็กแล้ว เราดูรายการในทีวีก็คิดว่าสักวันฉันจะเป็นแบบนี้ ตอนดูอะไรที่เราชอบแล้วก็รู้สึกว่าอยากไปถึงตรงนั้นบ้าง 

จุดซ่อนเร้นไหนของผู้ชายที่เห็นแล้วใจสั่นทันที ? ผู้ชายประเทศไหนที่คิดว่าอร่อยที่สุด ? ประเทศแรกที่จะพุ่งไปทันทีหลังจากโควิดหยุดระบาด ?

ติช่า : ซิกแพค / (หัวเราะ) บราซิล / สวีเดน

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต ติช่า คือ ?

ติช่า : ความรัก

เวลานอนไม่หลับคุณคิดถึง ?

ติช่า :  Sex 

แล้วมันจะช่วยนอนหลับยังไง ?

ติช่า :  ยิ่งนอนไม่หลับเลยทีนี้ เพราะติช่ามีความชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว แล้วหนูก็ช่วยตัวเอง

บ่อยไหม? เรื่องนี้คุณคุยกับแฟนไหม?

ติช่า : ทุกวัน / คุยค่ะ เป็นเรื่องที่ต้องคุย คือตอนแรกๆ เราไม่อยากบอกนะเพราะมันส่วนตัวมากๆ แต่พอเราโตขึ้นรู้สึกว่าเข้าใจตัวเอง เราคุยได้

จริงๆ แล้วคุณกำลังทำรายการเกี่ยวกับเซ็กซ์ Sex Education ด้วย และคุณก็เปิดเผยมากเกี่ยวกับเรื่องของเซ็กซ์ ตั้งแต่พูดเรื่องนี้มาเราได้ฟีคแบคหลากหลายถูกไหม สิ่งที่คุณต้องการให้คนดูหรือแฟนๆ ได้คืออะไรจากเรื่องนี้ ?

ติช่า : อยากลดสิ่งที่คนตราหน้ากันที่สำคัญที่สุด ถ้าเกิดคนอยากรู้จริงเขาไปเสิร์ชดูก็รู้เหมือนกันไม่จำเป็นต้องมาดูรายการนี้ แต่สิ่งที่เราอยากให้พูดเรื่อยๆ ในเรื่อง Stigma ที่เราจะสามารถลดมันได้แค่ไหน อย่างการมอง LGBTQ การรู้ผิดชอบชั่วดี การข่มขื่น การคุกคามทางเพศ อันนี้ควรหรือไม่ควร  รู้สึกว่าเราต้องพูดเรื่องนี้กันให้มากขึ้น

บางทีการที่เราไม่คิดเหมือนวัฒนธรรม คือส่วนทางเราก็เป็นตัวประหลาดในหลายๆ ครั้งคุณก้าวผ่านจุดนี้มาได้ยังไง ?

ติช่า : เหมือนกับตอนแรกหลายคนจะมองตัวเองว่าสิ่งที่คุณมาตราหน้าฉัน นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น แต่ถ้าเกิดในใจเรารู้ว่ามันไม่ใช่ เราก็ต้องรู้อยู่ในใจค่ะ นั่นคือพาสของการเป็นผู้ใหญ่ที่รู้ตัวเองซึ่งมันไม่ต้องไปนั่งอธิบายให้คนทั้งโลกรู้ แต่เมื่อก่อนต้องแก้ต่างทันทีอธิบายตัวเอง

 

คุณคิดว่าคนส่วนใหญ่มองเรื่อง SEX ยังไง ?

ติช่า : สนใจแน่นอน มันเป็นเรื่องที่คนสนใจ แต่มีหลายคนที่รู้สึกไม่สบายใจ มันเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เขาเลยคิดว่ามาแชร์อะไรที่เป็นส่วนตัวขนาดนี้ ช่ารู้สึกว่าการช่วยตัวเองเป็นสิ่งที่เราได้จับตัวเอง ฉันสบายใจสบายตัวให้ความสุขกับตัวเอง พอเราจับตัวเองแทนที่เราจะรู้สึกอาย เพราะมันเริ่มจากตอนที่เราเด็กๆ เวลาเราช่วยตัวเองแล้วผู้ใหญ่ก็บอกว่าหยุดทำนะ ทำอย่างนี้ไม่ได้เราเลยรู้สึกว่าเป็นความน่าอายรู้สึกผิด เลยต้องแอบทำ ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงผิด พอโตขึ้นมาเรื่อยๆถึงรู้ว่า อ๋อ! มันเป็นยังงี้นี่เอง พอเรารู้แล้วความอายทั้งหมดมันไม่ได้หายไปแต่เรารู้สึกเข้าใจ มีความรู้สึกว่าทำไมฉันถึงชอบมันทั้งๆ ที่มันผิด ชอบเหลือเกิน ฉันอยู่กับตัวเองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย หายเครียด แต่ทำไมฉันต้องมารู้สึกผิดทีหลังด้วย มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวเองด้วย หนูว่าเซ็กส์เป็นการปลดปล่อยตัวเอง เรามีความสุขกัน เรามีช่วงเวลาที่ลึกซึ้งกัน

บางคนไม่กล้าบอกแฟนว่า "ช่วยตัวเอง" เพราะว่ามันอาจจะเกิดปัญหาในครอบครัว บางคนรู้สึกว่าแฟนไม่รัก

ติช่า : เข้าใจเลยว่าทำไมบางคนรู้สึกไม่โอเค เพราะแทนที่คุณจะเอาเวลานั้นมาใช้กับฉัน ทำไมไม่มาแชร์ประสบการณ์นี้กับฉัน ทำไมต้องไปทำคนเดียว ทำไมเซ็กส์ของเราไม่ดีพอเหรอ แล้วโทษตัวเอง ต้องหยุดคิดแบบนี้ เพราะตัวช่าเองมีบางอย่างที่ช่าชอบมากแล้วติด ช่าต้องคุยให้เคลียร์ให้เขาเข้าใจ ซึ่งตอนแรกพอคุยกับแฟนเขาก็จะบอกว่าแล้วเซ็กส์มันไม่พอเหรอ หรือยังไง เราก็ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่ฉันทำส่วนตัวมันไม่ได้ผิดอะไรที่เธอเลย เราต้องอธิบายให้ชัดเจน ไม่ใช่ฉันไม่ชอบเธอแต่มันแค่เป็นโมเม้นต์ที่ฉันแค่ชอบตัวเองแบบนี้

แฟนคุณเป็นคนชาติไหน ทำไมต้องเป็นบราซิล ?

ติช่า : สวิตเซอร์แลนด์ ค่ะ (หัวเราะ) อย่างแรกเลยนะคะ ติช่าเคยเดทแฟนเป็นคนบราซิลมาก่อน แล้วตอนนั้นเป็นช่วงที่เราปาร์ตี้เจอผู้ชายบราซิลเยอะมาก หลายๆ อย่างที่เขาทำศิลปะการใช้ชีวิตของเขามันร้อนแรง ช่าไม่เคยเห็นประเทศไหนที่มองตาแล้วเหมือนกับจะกลืนกินกันตลอดเวลาเลยอ่ะ มีแพชชั่นเยอะมาก เขาดูเอนจอยชีวิตมากๆ

ตลอดการเติบโตของ ติช่า เคยเจออะไรมาบ้าง ?

ติช่า : ตอนเด็กๆ เจอความลำบาก เหมือนกับว่าครอบครัวแยกทางกันก็เจอกับความยากจน ติช่าเกิดที่นครศรีธรรมราช แล้วก็ไปอยู่ที่ภูเก็ตสักแป๊บนึงซึ่งจำอะไรแทบไม่ได้เลย ซึ่งก็จำแต่สิ่งแย่ๆ ในหลายๆ ครั้ง โดนทำร้ายโดยผู้ปกครอง  แล้วครอบครัวก็แตกแยกกันจึงย้ายไปอยู่ที่สกลนคร

คุณผ่านมันมาได้ยังไง?

ติช่า : ช่าไม่ได้มีตัวเลือกไหนนอกจากใช้ชีวิตต่อ คือช่าไม่รู้หรอกว่าช่าเข้มแข็งเท่าไหร่แต่มันเป็นทางรอดเดียว ไม่งั้น You Cannot

แล้วคุณก็ไปอยู่ที่สกลนคร ?

ติช่า : พอครอบครัวแยกกันก็ไปอยู่กับยาย ตอนนั้นคือจนสุดๆ ขนาดที่ไม่สามารถซื้อรองเท้านักเรียนใส่ได้ ต้องเดินเท้าเปล่า ได้ค่าขนม 3 บาทต่อวัน แต่ช่าเหลือเก็บ 2 บาททุกวัน ภูมิใจในตัวเองมาก เพราะติช่าฝึกควบคุมตัวเองตั้งแต่เด็ก ซึ่งเงินที่เก็บไม่ได้จะไปซื้อของขวัญหรือของเล่น แต่เก็บไว้โทรหาแม่ จำได้ว่าแม่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วเราก็โทรไปหาเขา  ตอนนั้น 1 นาทีมันราคา 50-60 บาท แล้วช่าอยากคุยกับแม่ 3 นาทีต้องเก็บเท่าไรล่ะ จึงต้องหักห้ามใจถ้ากินเยอะก็จะได้คุยกับแม่น้อยลง ช่าจึงเก็บเงินออมไว้เป็นกระปุกเลยค่ะ

ได้ข่าวว่ามีคนขโมยเงินด้วย ?

ติช่า : ใช่ เราพาเพื่อนมาเล่นที่บ้าน เขาก็เลยขโมยกระปุกเงินไปที่เราเก็บวันละ 2 บาท ซึ่งได้เป็นหลายร้อยมากเลย ตอนนั้นเสียใจร้องไห้เลยค่ะ ทุกความอดทนที่ฉันอดข้าวมา มันมีหลายครั้งที่มองดูเด็กคนอื่นกินขนมแล้วต้องหันหน้าหนี เพื่อที่เราจะเอาเงินไปทำสิ่งที่สำคัญกว่า ทุกอย่างที่อดทนใช้เวลานานมากมันหายไปเลย

อยู่กับยายนานไหม ในตอนนั้นหนูน้อยติช่าคิดอะไรเกี่ยวกับครอบครัว?

ติช่า : 3 ปีค่ะ จำได้แค่ว่าสักวันจะมีวันที่ดีขึ้น จะอยู่ในจินตนาการวาดภาพในอนาคต

ตอนที่ไปอยู่สวีเดนชีวิตดีขึ้นไหม ?

ติช่า : ช่ารู้สึกว่า โอมายก๊อดนี่คือโมเม้นต์ของฉัน เป็นคนใหม่ ชีวิตใหม่ ฉันจะเป็นได้ทุกอย่าง ฉันมีโอกาสเท่าโลกเลย จากแต่ก่อนมันอยู่แค่ตรงนั้น แล้วช่าเป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก อยากจะเรียนเก่งที่สุด อยากจะทำอันนี้เก่งที่สุด เพื่อวันหนึ่งจะได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีพลัง มีกำลังที่จะดูแลตัวเองได้

เราก็เป็นเด็กหัวดำอยู่คนเดียวในสวีเดนจะเป็นที่ยอมรับได้ยังไง ถ้าเกิดเป็นส่วนน้อยแล้วต้องเก่งนะ เราก็เลยรู้สึกว่าฉันต้องเรียนเก่ง อยากจะพรูฟตัวเองมาก เพราะตอนที่ทะเลาะกับพ่อเลี้ยง ซึ่งเขาเป็นคนดีนะ แต่มันมีโมเม้นต์ที่เราทะเลาะกัน พอทะเลาะกันก็จะไล่ออกจากบ้าน เราเสียใจมากเพราะไม่มีที่จะไปก็ต้องง้ออยู่ดี ซึ่งมีโมเม้นต์เดียวคือต้องเก่ง ก็เลยตั้งใจเรียนมาก ตั้งใจเรียนมากไม่พอต้องรวยด้วย มันเลยมีแรงผลักดันตรงนั้น อาจจะฟังดูผิดๆ นะ แต่ตอนนั้นมันเป็นอะไรที่เป็นแรงกระตุ้นช่าทุกวันเลย ถ้าช่าตื่นมาแล้วไม่สามารถมองตัวเองสำเร็จได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือวันที่ได้ The Face โอมายก๊อด! ได้เงินรางวัล 1 ล้านบาทมันเยอะมากนะ เพราะช่าถังแตกมาก่อนหน้านั้น ฉันได้อันดับหนึ่งนะ

แล้ววันที่พ่อมาเยี่ยมที่เมืองไทย ตอนนั้นมาที่ภูเก็ต ช่าให้เขาไปอยู่วิลล่าที่มองเห็นทะเล เขาจะเป็นคนที่ชอบล่องเรือมาก ทำให้เขาก็เอ็นจอยมาก ช่ารู้สึกพราว สักครั้งหนึ่งแต่ก่อนเราจะเป็นฝ่ายโดนด่าเยอะไง แล้วเขาก็เห็น เขาก็บอกว่าวิวสวยเนอะ แต่ช่ารู้เขาภูมิใจ ตอนก่อนที่เขาจะกลับไปสนามบินเราก็ให้ค่ารถเขา แต่เราไม่ได้คิดอะไรนะ แล้วเขาก็น้ำตาไหลจะร้องไห้ บอกว่าไม่ต้องให้ฉัน แล้วพอเขาจะร้อง ช่าก็เลยจำได้ว่าทำไมเขาถึงร้อง แล้วช่าเองก็อยากร้องไห้เหมือนกัน เพราะช่าไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าขอบคุณ ด้วยความที่เราทะเลาะกันตอนนั้น ด้วยความที่เราวัยรุ่น ความใจร้อนชอบเถียงมากๆ เวลาที่เราด่ากัน เขาก็จะบอกว่าเธอไม่รู้สึกขอบคุณฉันเลยในชีวิตที่ฉันให้เธอ เรารู้สึกโดนกดดันว่าต้องขอบคุณเขาตลอดเวลา พอเราได้ยินเขาขอบคุณบ้าง ซึ่งมันไม่ใช่เงินที่เยอะเลยพันกว่าบาทเอง เขาบอกว่าขอบคุณติช่า ซึ่งช่าไม่เคยได้ยินจากปากป๊ะป๋า มันเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ก่อนช่าจะเป็นคนที่ขอเขา เป็นโมเม้นต์ที่เขาเองก็ช็อกเรากอดกัน หลังจากนั้นพอเขากลับไป ช่าไปนั่งร้องไห้เป็นชั่วโมงเลย

โอ้มายก๊อด! มันเป็นโมเม้นต์ที่ช่ารอเหรอ ทุกอย่างที่ทำมาในชีวิตที่พยายามจะประสบความสำเร็จ เพื่อช่วงเวลานี้แหล่ะ ที่เรารู้สึกเท่าเทียมกัน เราเป็นผู้ใหญ่ 2 คนมองตากัน อยากเป็นที่ยอมรับที่ทำงานหนัก ไต่เต้ามาเรื่อยๆ ไปทำโน่นนี่ก็เพื่อสิ่งนี้ ให้เขาบอกว่าขอบคุณติช่า มันใช้เวลาขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นคำๆ นี้ที่เราต้องการ ฉันแค่อยากได้บางอย่าง อยากจะประสบความสำเร็จ แต่พอวันนั้นมา อ๋อ! นี่น่ะเหรอรางวัลของฉัน หลังจากนั้นเราดีกัน รู้สึกว่ามันปลดล็อกอะไรสักอย่าง รู้สึกว่าเรา Positive กันมากขึ้น

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง

ล้วงลึกเรื่องลับ "ติช่า กันติชา" และปมในใจระหว่างเธอกับพ่อเลี้ยง