posttoday

นางร้ายป้ายแดง

01 ธันวาคม 2553

คงไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้คนหมั่นไส้ได้ “แร้งส์” เท่ากับ 3 นางร้ายนี้ไปได้ “กุ๊บกิ๊บสุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” นางร้ายแร้งแรงแต่แบ๊ว “แป้งอรจิรา แหลมวิไล” นางร้ายยั่วอารมณ์ และ “ตองภัครมัย โปตระนันทน์” นางร้ายเซ็กซี่แต่ชีเครียดไปหน่อย เรียกว่าจากการมาสวมบทบาทนางร้ายเดี๋ยวนี้เดินไปไหนมาไหนต้องคอยระวังเปลือกทุเรียนไว้ให้ดีๆ เพราะทั้ง 3 นางต่างตีบทแตกกระจุย ทว่าสมัยนี้คนดูแยกแยะออกจากเกลียดเข้ากระดูกดำจากในจอพอป๊ะกันนอกจอก็ทั้งรักและชื่นชมในฝีมือการแสดงและหน้าตานิสัยที่น่ารัก งานนี้จึงรอดหวุดหวิดจากเปลือกทุเรียนมาได้ดอกไม้และเสียงกรี๊ดงามๆ ไป

คงไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้คนหมั่นไส้ได้ “แร้งส์” เท่ากับ 3 นางร้ายนี้ไปได้ “กุ๊บกิ๊บสุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” นางร้ายแร้งแรงแต่แบ๊ว “แป้งอรจิรา แหลมวิไล” นางร้ายยั่วอารมณ์ และ “ตองภัครมัย โปตระนันทน์” นางร้ายเซ็กซี่แต่ชีเครียดไปหน่อย เรียกว่าจากการมาสวมบทบาทนางร้ายเดี๋ยวนี้เดินไปไหนมาไหนต้องคอยระวังเปลือกทุเรียนไว้ให้ดีๆ เพราะทั้ง 3 นางต่างตีบทแตกกระจุย ทว่าสมัยนี้คนดูแยกแยะออกจากเกลียดเข้ากระดูกดำจากในจอพอป๊ะกันนอกจอก็ทั้งรักและชื่นชมในฝีมือการแสดงและหน้าตานิสัยที่น่ารัก งานนี้จึงรอดหวุดหวิดจากเปลือกทุเรียนมาได้ดอกไม้และเสียงกรี๊ดงามๆ ไป

โดย... เสน่ห์จันทร์

 

นางร้ายป้ายแดง

คงไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้คนหมั่นไส้ได้ “แร้งส์” เท่ากับ 3 นางร้ายนี้ไปได้ “กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” นางร้ายแร้งแรงแต่แบ๊ว “แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล” นางร้ายยั่วอารมณ์ และ “ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์” นางร้ายเซ็กซี่แต่ชีเครียดไปหน่อย เรียกว่าจากการมาสวมบทบาทนางร้ายเดี๋ยวนี้เดินไปไหนมาไหนต้องคอยระวังเปลือกทุเรียนไว้ให้ดีๆ เพราะทั้ง 3 นางต่างตีบทแตกกระจุย ทว่าสมัยนี้คนดูแยกแยะออกจากเกลียดเข้ากระดูกดำจากในจอพอป๊ะกันนอกจอก็ทั้งรักและชื่นชมในฝีมือการแสดงและหน้าตานิสัยที่น่ารัก งานนี้จึงรอดหวุดหวิดจากเปลือกทุเรียนมาได้ดอกไม้และเสียงกรี๊ดงามๆ ไป

“กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย” ถ้าไม่เริ่มที่คนนี้เป็นคนแรกได้ตกกระแสแน่ เพราะติดอันดับนางร้ายมาวินเลยเชียว จากการสวมบท มิ้ลค์สาวทรงโต จากเรื่อง “ดวงใจอัคนี” ที่ทำให้วลี ไฟขา ไฟขา จากเสียงแหลมปรี๊ด พร้อมลีลาการแสดงที่ทุ่มสุดตัวเล่นไม่กลัวเสียภาพลักษณ์ทำให้เธอชนะใจคนดูซะอยู่หมัด กลายเป็นนางร้ายทั้งน่ารักน่าชังและสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดูซะงั้น กุ๊บกิ๊บจัดเป็นนักแสดงน้องใหม่ที่เปิดซิงด้วยบทนางร้ายจากเรื่อง “เงารักลวงใจ” แต่ฝีมือไม่ใหม่เพราะเรื่องแรงก็แจ้งเกิด ผู้ชมต่างพูดเป็นสียงเดียวกันว่า เธอแสดงได้ร้ายและแรงงส์ได้ใจซะจริงๆ ทั้งสีหน้า แววตา ความโกหก เธอแสดงได้เกินร้อย

ในบทของมิ้ลค์กุ๊บกิ๊บก็เล่นไม่ห่วงภาพลักษณ์และถือเป็นการเปลืองตัวที่สุด แต่ก็คุ้มกับผลตอบรับ “ก่อนเล่นก็มีการคุยกับผู้กำกับป้าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) ว่าจะเล่นออกมายังไง เพราะในเรื่องต้องเซ็กซี่ อกโต ผู้กำกับก็บอกว่าให้เล่นแบบการ์ตูน คือจะเซ็กซี่ยังไงก็ได้แต่ต้องไม่ดูอนาจารและต้องผ่านเซ็นเซอร์ กุ๊บกิ๊บก็เลยแสดงแบบเจ้าหญิงเรโกะ คือให้ความตลกติ๊งต๊องกลบความเซ็กซี่ ความแรงของมิ้ลค์ คือเจ้าหญิงเรโกะเขาจะทำอะไรเว่อร์ๆ แบบดีใจเสียใจก็สุดๆ จะไม่มีความพอดี จะเยอะตลอด”

ใครๆ ก็รู้ว่ากุ๊บกิ๊บ คือแฟนของนักแสดงหนุ่มเนื้อหอม “มาริโอ้ เมาเร่อ” และรู้จักเธอผ่านข่าวคราวต่างๆ จากคนสนิทในวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็น พลอย เฌอมาลย์ เอ ศุภชัย แต่ตอนนั้นกุ๊บกิ๊บก็เป็นแค่ตัวแถมของข่าวยังไม่มีผลงานใดๆ ในวงการบันเทิง แฟนมาริโอ้ จึงเสมือนนามสกุลของกุ๊บกิ๊บ แต่วันนี้เธอดีใจที่สลัดมันออกได้ (แต่ไม่ได้เลิกกันนะฮ้าสาวๆ ไม่ต้องดีใจ)

“ขอกรี๊ดได้ไหมคะ คือดีใจมากคะที่มีคนชอบการแสดงของเรา ตอนนี้ไปไหนมีแต่คนเรียกคุณมิ้ลค์นมโต ไฟขาไม่มาด้วยเหรอ คือคนชอบที่เราแสดงไม่มีคนเกลียดนะ คนรู้จักกุ๊บกิ๊บจากเรื่องนี้เยอะมาก หนูคิดเสมอว่าตัวเองไม่สวย คิดว่าไม่มีใครให้เล่นละครหรอก แต่พอเรามีโอกาสแล้วเราทำได้ดีใจมาก

ตอนนี้ยิ่งดีใจที่คนรู้จักกุ๊บกิ๊บจากผลงาน คือเมื่อก่อนไปไหนคนก็จะมองเราแล้วบอกกันว่า นี่ไงกุ๊บกิ๊บแฟนมาริโอ้ แต่ไม่เคยเห็นผลงานของเราเลย ดีใจที่เราไม่ได้เกาะมาริโอ้เป็นข่าวไปวันๆ แต่ตอนนี้คนได้เห็นผลงานของเราแล้ว และรู้จักตัวตนเราจริงๆ จากงานที่เราไปออกหรือจากบทสัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆ ไม่กลัวคนติดภาพว่าเราเป็นนางร้าย คือถ้ารู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าไม่ได้แรงเลย”

 

นางร้ายป้ายแดง

ต่อด้วยนางร้ายที่เรียกเปลือกทุเรียนแรงที่สุดใน พ.ศ.นี้ “แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล” นอกจากจะยั่วอารมณ์ของผู้ชายในเรื่องได้สำเร็จทุกคนแล้ว ยังสามารถยั่วอารมณ์โกรธเกลียดของผู้ชมนอกจอได้สำเร็จอีกด้วย เพราะบทของทองไพรำ ในละครเรื่อง “มาลัยสามชาย” ที่มีมารยาหลายร้อยเล่มเกวียน ไหนจะปากจะตาที่ยั่วยวนออเซาะตบตาคนเพื่อหวังผลประโยชน์ โอ๊ย!! ช่างร้ายยั่วอารมณ์ อยากปาเปลือกทุเรียนเสียจริง แต่โชคยังดีที่มีดีกรีนางเอกจากหลายๆ เรื่องคอยช่วยไว้อยู่ เพราะถ้าเป็นนางร้ายมาตั้งแต่แรกเหมือนกุ๊บกิ๊บเป็นได้โดนไปแล้ว

“บทเรื่องนี้ถือว่าแรงที่สุดในชีวิตการเล่นละครของแป้ง แล้วก็ยากมากๆ ด้วย ทำให้เราต้องทำการบ้านหนักมาก โชคดีที่เรื่องนี้ได้พี่ปุ๊ย ผอูน เป็นผู้กำกับ ซึ่งในมุมผู้หญิงเขาก็จะอธิบายได้ชัดเจนว่า แป้งจะต้องเล่นออกมาประมาณไหนถึงจะพอดีไม่มากไปน้อยไป แล้วฉากเลิฟซีนเรื่องนี้ก็เยอะมากแล้วก็แรงกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่แป้งจะเป็นฝ่ายรุกก่อนด้วยนะ แถมยังต้องเล่นออกมาให้ดูว่าเราช่ำชอง เจนจัดในเรื่องบนเตียง ต้องเล่นยั่วยวนเซ็กซี่ด้วย”

ส่วนผลตอบรับนั้นเล่นดีจนคนเกลียดจริง แต่ในฐานะนักแสดงถือว่าสอบผ่าน “ผลตอบรับเรื่องนี้ดีมากค่ะ ไปไหนมาไหนจะมีคนเข้ามาทัก มาเรียกทองไพรำ แล้วก็จะบอกว่าร้ายจังนะ ดูแล้วหมั่นไส้มากๆ บางคนบอกว่าเกลียดเลยล่ะ ได้เจอฟีดแบ็กแบบนี้แล้วแป้งหายเหนื่อยเลยค่ะ แล้วก็โล่งอกด้วยถือว่าเราทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ เข้าถึงบทบาทของตัวละครได้ เราเล่นออกมาแล้วคนดูเชื่อว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จทางการแสดงไปอีกขั้นหนึ่ง”

นางร้ายป้ายแดงคนล่าสุด “ตอง-ภัครมัย โปตระนันทน์” ห่างหายจากงานแสดงไปนาน เมื่อหวนคืนมาอีกครั้งก็รับบทเป็นนางร้ายเต็มตัวเรื่องแรกในละคร “365 วันแห่งรัก” ตองต้องพลิกคาแรกเตอร์เป็นหญิงเปรี้ยว ร้ายลึก เจ้าแผนการ มีมาด แสดงสีหน้าสีตาเยอะ เป็นนางร้ายที่เอาแต่ใจ

“พี่แอ้ว ผู้กำกับ (อำไพพร จิตต์ไม่งง) คอยสอนคอยให้กำลังใจ เทรนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเทกกี่ครั้งก็จะค่อยๆ บอก คอยแนะนำว่าให้เพิ่มหรือลดอย่างไร ปรับสีหน้า ท่าทาง การชายตา การพูดเชือดเฉือน อะไรต่างๆ ตองก็จะคอยถามว่านี่มากไปน้อยไปไหม พอละครออกไปก็มีผลตอบรับกลับมาเยอะมาก ก็มีทั้งบอกเล่นดี เปลี่ยนไปจากเดิม แต่บางคนก็บอกยังไม่ร้ายพอ บางคนก็บอกว่าเรื่องนี้หุ่นสวยเซ็กซี่ แต่งตัวแล้วสวยดี ก็มีหลายๆ คำชมค่ะ เจอแม่ค้าก็บอกว่าเล่นเก่งนะ บทแย่งสามีชาวบ้านนี่ ร้ายนะ ร้ายได้ใจนะ ตองแสดงเรื่องนี้ยอมรับเลยว่าได้ประสบการณ์ทางการแสดงเพิ่มมากขึ้น ตองไม่ห่วงเลยว่าคนดูแล้วจะเกลียด เพราะถ้าอิน แสดงว่าตองเล่นได้ดี ก็จะดีใจมากค่ะ”

 

นางร้ายป้ายแดง