posttoday

ภรรยา "ชลธี ธารทอง" แถลงเปิดใจหลังถูกฟ้องหย่า เผยยอมให้อภัยได้ทุกเรื่อง

19 พฤษภาคม 2562

ภรรยาแถลงเปิดใจหลังถูกศิลปินแห่งชาติ "ชลธี ธารทอง" ฟ้องหย่า ย้ำทุกอย่างยังไม่สาย ยอมให้อภัยทุกเรื่อง แม้จะถูกทำให้เสียใจมากก็ตาม

ภรรยาแถลงเปิดใจหลังถูกศิลปินแห่งชาติ "ชลธี ธารทอง" ฟ้องหย่า ย้ำทุกอย่างยังไม่สาย ยอมให้อภัยทุกเรื่อง แม้จะถูกทำให้เสียใจมากก็ตาม

จากกรณี สมนึก ทองมา หรือที่รู้จักกันในนาม ชลธี ธารทอง อายุ 83 ปี ศิลปินแห่งชาติได้ฟ้องหย่า ศศิวิมล หรือครูปุ้ม ทองมา อายุ 51 ปี ภรรยาที่อยู่กินกันมาเกือบ 30 ปี จากนั้นเตรียมที่จะแต่งงานใหม่กับหญิงสาวอายุ 29 ปีนั้น

ล่าสุดครูปุ้ม ได้แถลงเปิดใจต่อสื่อมวลชน ที่บ้านพักใน ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยระบุว่า ครูชลธี เป็นคนดีมาก คอยดูแลเอาใจใส่ทุกเรื่อง ไม่เคยบกพร่องเลยตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ตนก็คอยดูแลเอาใจใส่ ครูชลธี ในทุกๆ เรื่อง ไม่ขาดตกบกพร่องเช่นกัน ซึ่ง ครูชลธี อยู่บ้านหลังนี้อย่างสุขสบาย

ครูปุ้ม ยังปฏิเสธเรื่องที่ ครูชลธี ออกมาให้สัมภาษณ์ รวมทั้งในสำนวนการฟ้องหย่า ว่า เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีมีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้าย ครูชลธี จนได้รับบาดเจ็บ เรื่องหึงหวง และด่าบุพการี ซึ่งทุกเรื่องไม่เป็นความจริง และขอให้อีกฝ่ายหยุดพูดหยุดใส่ร้ายตนได้แล้ว พร้อมกันนี้กำลังทำเรื่องขอเอกสารหลักฐานจากโรงพยาบาลที่รักษาเพื่อนำมาประกอบหลักฐาน ส่วนประเด็นอื่นๆ ขอไม่พูดถึง เนื่องจากทางทนายความส่วนตัวให้พูดเพียงเรื่องเร่งด่วนที่ต้องออกมาชี้แจงเท่านั้น

ครูปุ้มกล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ยื้อ หรือไม่อยากหย่า ตนหมดรัก ครูชลธี ในฐานะคนรัก แต่รักในฐานะคนที่เป็นบุคคลสำคัญของประเทศชาติ ซึ่งตนไม่เคยคิดทำลาย ครูชลธี แต่อย่างใด เมื่อกลายเป็นประเด็นข่าวขึ้นมา อีกทั้งอีกฝ่ายมีการกล่าวหาใส่ร้ายโดยการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊ก ทุกคนรอบข้างได้ดูได้ฟังต่างรับไม่ได้ และรู้สึกสงสารตนที่ถูกกระทำมาตลอด ที่ผ่านมายอมรับว่า รัก ครูชลธี มากเท่าชีวิต

ส่วนเรื่องบ้านหลังนี้ ครูชลธี ได้พูดเอาไว้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2560 ว่า “พ่อจะยกให้ปุ้ม พ่อจะทำพินัยกรรม เพราะปุ้มเหนื่อยมากับพ่อ” ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากรู้เรื่องของผู้หญิงคนดังกล่าว แต่หากสุดท้าย ครูชลธี ถูกทอดทิ้ง แล้วกลับมาหาตน ตนก็พร้อมที่จะรับดูแล นี่คือการพูดจากใจ เพราะทิ้งไม่ได้ เนื่องจาก ครูชลธี เป็นคนที่เคยรักและเป็นคนที่ให้โอกาสตนมาโดยตลอด ต้องยอมรับว่า ครูชลธี ให้ตนทุกอย่างไม่ว่าบ้าน รถยนต์ สร้อย แหวน เงินทอง แต่คงไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เหมือนแก้วที่มันร้าว เมื่อมันแตก มันก็คงจะไม่เหมือนเดิม ส่วนทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เป็นของตน หากในอนาคตข้างหน้าตนเป็นอะไรไป ก็จะยกให้ลูกครูชลธีทั้งสองคน รวมทั้งหลานด้วย

หลังจากที่เกิดเป็นประเด็นในโลกโซเชียลขึ้นมา ตนรู้สึกสงสาร ครูชลธี ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียหาย ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลา 80 ปีที่ผ่านมา ครูชลธี ไม่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักขนาดนี้ ซึ่งตนเป็นห่วง ครูชลธี อย่างมาก ครูชลธี คือปูชนียบุคคลของชาติ เป็นศิลปินแห่งชาติ ซึ่งตนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ครูชลธี ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ทั้งนี้ ครูชลธี เป็นคนเก่ง เก่งในเรื่องของผลงาน แต่เมื่อวานที่ ครูชลธี ออกมาแถลงข่าว ตนมองว่า เป็นความพลาดของ ครูชลธี

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนคิดเสมอว่า ครูชลธี รักตนมาก และก็ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับตน จึงอยากฝากถึง ครูชลธี ว่า ทุกอย่างมันยังไม่สาย ซึ่งตนยอมให้อภัยทุกเรื่อง ถึง ครูชลธี จะทำให้ตนเสียใจมากก็ตาม