posttoday

"เจมส์ เรืองศักดิ์" รำลึกถึงแฟนคลับ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกด้วยกันเมื่อ 20 ปีก่อน

03 พฤศจิกายน 2561

ผ่านมาเกือบ 20 ปี..ไม่เคยลืม "เจมส์ เรืองศักดิ์" รำลึกถึงแฟนคลับผู้รอดชีวิต จากเครื่องบินตกด้วยกัน

ผ่านมาเกือบ 20 ปี..ไม่เคยลืม "เจมส์ เรืองศักดิ์" รำลึกถึงแฟนคลับผู้รอดชีวิต จากเครื่องบินตกด้วยกัน

เป็นเหตุการณ์สุดสลดเมื่อ 20 ปีก่อน เมื่อเครื่องบินแอร์บัสตก เที่ยวบิน TG จ.สุราษฎร์ธานี 261 เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกระแทกพื้นระหว่างลงจอดเนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 101 คน และ บาดเจ็บ 45 คน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ก็คืออดีตนักร้องชื่อดัง "เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” และแม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว เจ้าตัวก็ยังคงระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นอยู่เสมอ โดยล่าสุดนี้เจ้าตัวได้เล่าถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในครั้งนั้น ที่ทำให้ได้เจอกับแฟนคลับรุ่นเด็กที่โดยสารมาในเที่ยวบินเดียวกัน และรอดชีวิตเหมือนกัน แต่เด็กคนดังกล่าวกำลังป่วยเป็นมะเร็ง

โดยล่าสุดหนุ่ม “เจมส์" ได้โพสต์ภาพเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ขณะอยู่ในโรงพยาบาลเคียงข้างแฟนคลับ พร้อมข้อความบรรยายยาวว่า

"20 ปีที่แล้ว หลังเหตุการณ์เครื่องบินตก มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ น้องอาร์ม” เด็กน้อยชาวสุราษฏร์ ที่โชคดีเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในเที่ยวบินนั้นกับผม... ครอบครัวของน้องเล่าว่า น้องอาร์มเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย...วันเกิดเหตุเครื่องตกเป็นวันที่ครอบครัวตั้งใจจะพาน้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อให้น้องได้จากไปอย่างสงบที่บ้านเกิดของตัวเอง...แต่โชคชะตาก็พลิกผัน...เมื่อน้องอาร์มกลับรอดอย่างปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น.. ผมจำได้ว่าหลังเป็นข่าวได้สักพัก...สื่อก็ได้พูดถึงเด็กคนหนึ่งที่เขาอยากเจอพี่เจมส์เรืองศักดิ์มาก...ผมได้เจอน้องครั้งแรกที่ รพ. เด็กในตอนนั้น...น้องยังเหมือนเด็กปกติ ยังเล่น ยังพูดคุยหัวเราะกับผมได้..น้องชอบเพลงชับ ชับ ชับ วันนั้นเรายังร้องเพลงนี้กันลั่น รพ. ผมนำตุ๊กตาหมีใส่เสื้อสีฟ้า...ตัวโปรดของผมไปมอบให้น้องเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องอาร์มที่ รพ. ด้วย... แต่หลังจากนั้นไม่นาน..ผมทราบข่าวว่ารัฐบาลเยอรมันรับน้องไปรักษาที่โน่นเป็นกรณีพิเศษ...ที่สถาบันมะเร็งที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เพราะข่าวน้องเป็นมะเร็งและรอดจากเครื่องบินตกโด่งดังไปทั่วโลก"

"และเเล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้รับการติดต่อจากทางรัฐบาลเยอรมัน.ประสานผ่านรัฐบาลไทยว่า น้องอาร์มกำลังตกอยู่ในอาการโคม่าขั้นสุดท้าย...และน้องก็พูดแต่อยากพบ พี่เจมส์ เรืองศักดิ์ จนคุณหมอสงสัยว่าผมคือใคร... ...หมอมีความหวังว่าอาจเกิดปาฏิหาริย์หากผมได้มาพบน้อง...เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่สถาบันมะเร็งแห่งนี้...เมื่อครั้งที่เด็กน้อยชาวเยอรมันป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย..และเขาอยากพบ นักมายากล เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์...และเดวิดก็ไปพบ ทำให้เด็กคนนั้นอาการกลับมาดีขึ้น... เมื่อทราบเรื่องผมจึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล...ที่จะบินหลาย ช.ม.ไปพบน้องที่เยอรมัน (ทั้งๆที่ผมเองก็ยังอยู่ในช่วงหวาดผวา กับการขึ้นเครื่องบินอย่างหนัก เพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านมาไม่นานนัก) ในภาพที่เห็นคือวินาทีที่ผมได้พบน้องที่นั่น...น้องขยับตัวไม่ได้แล้ว ชีพจรเกือบหยุดเเล้ว..ร่างกายแทบไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น..ตอบสนองแทบไม่ได้..แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ...เมื่อผมร้องเพลงชับชับชับ และลุกขึ้นเต้น ให้น้องดู... ชีพจรน้องกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง... เหมือนน้องดีใจที่ผมมาจริงๆ วันนั้นเป็นการร้องเพลง ชับชับชับ ครั้งแรก...ที่ผมเต้นและร้องอย่างสนุกสนานเพื่อหวังให้มีปาฏิหาริย์กับน้อง... ท่ามกลาง น้ำตาของทุกคนในห้องพยาบาลวันนั้นรวมทั้งตัวผม ... จากนั้นไม่นานน้องก็สิ้นลมหายใจจากพวกเราไปอย่างสงบ.... ถ้าวันนี้อาร์มยังอยู่ เขาคงมีอายุราวๆ 20 ปลายๆ ผ่านมา 20ปีแล้วแต่ผมยังไม่เคยลืมภาพเหตุการณ์ในวันนั้นเลย"