"สุนารี” เผยเคล็ดลับมัดใจสามีเด็ก แม้อายุห่างกัน 21 ปี ไม่ใช่ปัญหา

50 กะรัตก็แซ่บ! "สุนารี” เผยเคล็ดลับรักต่างวัย แม้อายุห่างกันถึง 21 ปี

เป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "สุนารี ราชสีมา” ที่แม้จะอายุล่วงเลยมาถึงเลข 5 แต่เธอก้ยังคงมีความเป๊ะ มัดใจสามีฝรั่งสุดหล่อชาวเนเธอร์แลนด์ อย่าง “วาวเตอร์” ที่ทั้งคู่นั้นหวานจนใครๆ ต่างก็อิจฉา ซึ่งอีกทั้งทั้งคู่นั้นมีอายุห่างกันถึง 21 ปี แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แถมมีความสุขมากขึ้นทุกๆ วัน ล่าสุดสาว “สุนารี” ได้ออกมาเปิดใจและเคล็ดลับวิธีมัดใจสามีหนุ่มผ่านรายการ คุยแซ่บ Show

รู้สึกยังไงกับคำว่า 50 กะรัต?

สุนารี : ก็ดีค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะมีอายุถึง 50 ปี (หัวเราะ) เพราะเราก็ทำงานเยอะ ตรากตรำเยอะ แล้วยังสุขภาพไม่ค่อยดีด้วย

ตอนนี้เรื่องงานกับเรื่องความรักกำลังไปด้วยกันได้อย่างดี คิดยังไงบ้างกับเรื่องนี้?

สุนารี : คิดว่ามันเป็นความเข้าใจมากกว่า เพราะชีวิตพี่ผ่านอะไรมาเยอะ ผ่านการลองผิดลองถูกมาก็เยอะ สำหรับเรื่องความรักเราเคยคาดหวังเหมือนผู้หญิงทุกๆ คนแหละ อยากมีครอบครัวสมบูรณ์นู่นนี่นั่น แต่ในเมื่อมันผิดพลาด เริ่มต้นแล้วยังผิดพลาดซ้ำอีก เราต้องมานั่งบอกตัวเอง ไม่โฟกัสไปที่เขา ไม่คาดหวังว่าเราอยากให้คนที่มารักเราเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ เรามามองที่ตัวเองนะ ว่ามันมีปัญหาที่เราเองหรือเปล่า สุดท้ายกับวาวเตอร์เนี่ย พี่จึงอยู่แบบทำวันนี้ให้มีความสุขที่สุด และไม่โฟกัสอะไรเลย

ก่อนหน้าที่จะมีความรักครั้งนี้ ผิดหวังมาแล้วกี่ครั้ง?

สุนารี : หลังจากคุณพ่อของลูกชาย แล้วพี่ก็คบแฟนอีก 2 คนนะ อันนี้พูดแบบไม่อายเลย แล้วเหมือนไปกันได้สักระยะหนึ่งประมาณ 5-6 ปีแล้วก็จบ

เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งจะใช้ชีวิตกับฝรั่ง?

สุนารี : ไม่เคยคิดค่ะ แต่จริงๆ ชีวิตพี่ตั้งแต่เข้าวงการแล้ว เวลาไปร้องเพลงที่ไหนก็แปลกเหมือนกันจะมีแต่ฝรั่งมาดู แล้วเข้ามาจีบ

ในเรื่องการใช้ชีวิตคู่ คนไทยกับฝรั่งต่างกันไหม?

สุนารี : จริงๆ พี่ว่าไม่ว่าจะคนประเทศไหนก็ต้องมีทั้งดีและไม่ดีนะ มันคงไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์และสมบูรณ์แบบไปทั้งหมดหรอก แต่เหมือนกับว่าฝรั่งเขาจะมีความที่เปิดมากกว่า เหมือนอย่างพี่ อายุมากกว่าและมีลูกติดอีก ถ้าเริ่มต้นกับคนไทยมันไม่ง่ายเลยนะ แต่ฝรั่งเขาไม่มายด์ เขาคิดแค่ว่าเขารักหรือเขาชอบ คือถ้าเขาแฮปปี้ที่จะอยู่ เขาก็อยู่ แล้วครอบครัวเขาไม่วุ่นวาย จะนับว่าเราเป็นสะใภ้คนหนึ่งในครอบครัวของเขา

แรกๆ ต้องปรับตัวเข้าวัฒนธรรมของเขายากไหม?

สุนารี : จริงๆ ไม่ได้มีอะไรเยอะนะ พี่ก็กลืนๆ กับเขาไป ของเรามากกว่าที่มีรายละเอียดเยอะมากๆ ด้วยความที่เป็นวัฒนธรรมไทย แต่เราก็ค่อยๆ บอกเขา

เห็นว่าตอนนี้ทำงาน 7 วันเลยจริงไหม?

สุนารี : ใช่ค่ะ ทำงาน 7 วันเลย พี่เป็นคอมเม้นท์เตเตอร์ทั้งหมด 4 รายการ แล้วมีงานโชว์คอนเสิร์ตทั่วไปด้วย มีหนัง มีละคร มันแน่นเลยค่ะ</p

แล้วแบ่งเวลายังไง เป็นอุปสรรคไหม?

สุนารี : คือตั้งแต่เขาเข้ามาแล้ว เขารู้แล้วว่าพี่ทำงานแบบนี้ เขาจะรู้ว่าชีวิตเราไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอยู่แบบเฉยๆ เขาก็ปรับ เข้าใจแล้วก็เรียนรู้ ไม่มีปัญหาค่ะ

จุดเริ่มต้นกับฝรั่งคนนี้ เริ่มขึ้นได้ยังไง?

สุนารี : เริ่มต้นจากความเป็นเพื่อนก่อนค่ะ เราไปเที่ยวไปกินข้าวกัน พาไปเจอลูกๆ อะไรอย่างนี้ แล้วเขาก็กลับเนเธอร์แลนด์ไปประมาณเดือนครึ่ง เราคิดว่าเขากลับไปก็คงไม่มีการติดต่ออะไรแล้ว แต่ปรากฏว่าเขายังติดต่อเราอยู่ตลอด แต่ตอนนั้นพี่ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้คิดว่าเขาจะเป็นแฟนหรืออะไร ก็คุยกันไปสักพัก

“อยู่ๆ วันหนึ่งเขาก็เปิดมาเลย ถามเราว่า เธอมีแฟนหรือเปล่า พี่ชะงักนิดนึงเลยนะว่าทำไมเขาถึงถาม พี่ก็ตอบไปว่า ไม่มี ฉันอยู่กับลูก แล้วเขาถามต่อเลยว่าถ้าอย่างนั้นหลังจากนี้ฉันขอเป็นแฟนเธอได้ไหม พี่ก็ย้อนกลับไปเลยคำแรกว่า เธอไม่แคร์เหรอฉันอายุมากกว่าเธอ 21 ปีนะ เขาบอกไม่มายด์ รู้สึกแฮปปี้และมีความสุข พี่ก็โอเค ลองดูก็ได้”ความรู้สึกในใจลึกๆ ชอบเขาอยู่แล้วใช่ไหม?

สุนารี : คิดแค่ว่าเขาเป็นเด็กฝรั่งคนหนึ่ง คือช่วงเวลาตลอด 3 วันที่เรารู้จักกันตอนที่เขาอยู่เมืองไทย เราให้เขากินมะขาม เขาก็พูดว่ารสชาติแบบนี้ถ้าแม่ของเขาได้ทานต้องชอบมากแน่ๆ เรามีความรู้สึกว่า เขาห่วงแม่เหมือนเรานะ ทำอะไรจะนึกถึงพ่อแม่เขาตลอด เราเลยรู้สึกว่าเด็กคนนี้มันรักพ่อรักแม่เหมือนเราว่ะ ก็รู้สึกดีค่ะ

เวลามีแฟนอายุน้อยแบบนี้ คิดว่าคนจะมองไหมว่าแฟนคือลูกเรา?

สุนารี : ก็มีนะ เหมือนครั้งหนึ่งเราไปงานที่โคราช พอเสร็จแล้วก็ไปนั่งกินข้าวกัน แล้วมีนักร้องในร้านอาหาร ทักวาวเตอร์ว่า วันนี้เธอมากับแม่เธอเหรอ เขาก็เคืองนะ แต่พี่รู้สึกขำมากกว่านะ เพราะเขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิด คือภาพมันฟ้อง ใครเขาจะไปรู้ล่ะว่าคนที่มีความต่างขนาดนั้นจะมาเป็นแฟนกัน

จุดไหนที่คิดว่าจะต้องมาใช้ชีวิตคู่กัน?

สุนารี : คือเราคบกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทุกอย่างมันก็ไปด้วยกันได้ด้วยความราบรื่น แล้วเราก็มั่นใจซึ่งกันและกันแล้ว เราเลยอยากจะทำอะไรที่มันมั่นคงและถูกต้องตามกฎหมายคิดยังไงกับคำว่ากินเด็กแล้วเป็นอมตะ สวยอยู่ยงคงกระพัน?

สุนารี : พี่ว่ามันอยู่ที่ความสุขที่มีให้กันมากกว่านะ เหมือนความรักถ้าเรายังมีให้กันอย่างสม่ำเสมอมันก็มีความสุข ร่างกายจะมีการหลั่งสาร แล้วมันจะทำให้ทุกอย่างดูดีมีความสุขออกมาจากแววตาของเรา แต่ถ้าเกิดอยู่ๆ ไปแล้วมันมีปัญหา มันสังเกตได้นะว่ามันจะหม่นหมองลง แต่สำหรับความรักครั้งนี้พี่ก็ไม่ได้คาดหวังนะว่าจะอยู่ได้ถึง 4 ปี 5 ปีอะไรนะ ตอนแรกไม่ได้คิดจะแต่งด้วยซ้ำไป แต่ไปๆ มาๆ สิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังมันกลับดีขึ้นเรื่อยๆ มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ

มีปัญหาเรื่องเซ็กส์ไหม กับช่องว่างระหว่างวัย?

สุนารี : อันนี้ต้องบอกตรงๆ เลยนะคะว่าช่วงแรกไม่มีนะ ช่วงพี่ 49 เริ่มเข้าสู่วัยทอง ความต้องการของเรามันก็เริ่มลดลง พี่เริ่มกลัว แล้วเก็บความรู้สึกตรงนี้ไว้ค่อนข้างนาน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจคุยกับเขาดีกว่า เขาบอกว่า เธอไม่ต้องคิดมากนะ เดี๋ยวเราจะไปหาหมอกันว่ามันจะมีฮอร์โมนหรือยาเสริมที่จะช่วยได้ไหม เธอไม่ต้องกังวลนะ เราก็กลัว เพราะว่าเขายังเด็ก เขาอาจจะมีความต้องการมากๆ อะไรแบบนี้

ถ้าเกิดเขา “ขอนอกบ้าน” บ้าง แบบนี้จะว่ายังไง?

สุนารี : ถ้าเกิดมีแบบนั้นจริงๆ ก็ไปเลยนะ ขอนอกบ้านแล้วก็ออกจากบ้านไปเลย ถ้าเป็นแบบนี้คือมักมากแล้วแหละ แต่ก็ภาวนาให้เขาเจอคนดีๆ นะ

เคยคิดเรื่องจะมีลูกกับแฟนคนนี้ไหม?

สุนารี : คิดนะช่วงแรกๆ ที่คบกัน พี่ปล่อยเลยนะ แต่ว่ามันไม่มีเอง แต่ด้วยวัยของพี่ด้วยแหละ ก็มีการปรึกษาหมอเหมือนกัน คุณหมอเขาแนะนำให้เราต้องหยุดทุกอย่าง เพื่อที่จะรีเซ็ตร่างกายตัวเองเป็นปีเลยค่ะ แต่ด้วยงาน ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง พี่หยุดไม่ได้จริงๆ คือถ้าเราหยุดมันมีผลกระทบเป็นวงกว้างกับหลายๆ ชีวิตค่ะ งานตอนนี้มันก็ลงตัวอยู่แล้วด้วย