posttoday

‘แบม คืนจอ!’ กับแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ครีมบำรุงผิว

19 ตุลาคม 2553

ห่างหายงานโฆษณาไป 8 ปี เพราะหันไปทำงานการเมือง และแต่งงาน แต่หลังคลอดบุตรและหยุดพัก และหายหน้าไปจากหน้าจอ 2 ปีเต็ม วันนี้ แบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ เนื้อหอมมีโฆษณาหลายชิ้นรุมจีบไปร่วมงาน แต่ล่าสุดจณิสตาตัดสินใจกลับมารับงานเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้ “พอนด์ โกลด์ เรเดียนซ์” โดยใช้เวลาตัดสินใจนานนับปี 

ห่างหายงานโฆษณาไป 8 ปี เพราะหันไปทำงานการเมือง และแต่งงาน แต่หลังคลอดบุตรและหยุดพัก และหายหน้าไปจากหน้าจอ 2 ปีเต็ม วันนี้ แบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ เนื้อหอมมีโฆษณาหลายชิ้นรุมจีบไปร่วมงาน แต่ล่าสุดจณิสตาตัดสินใจกลับมารับงานเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้ “พอนด์ โกลด์ เรเดียนซ์” โดยใช้เวลาตัดสินใจนานนับปี 

โดย....วราภรณ์

 

‘แบม คืนจอ!’ กับแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ครีมบำรุงผิว

ห่างหายงานโฆษณาไป 8 ปี เพราะหันไปทำงานการเมือง และแต่งงาน แต่หลังคลอดบุตรและหยุดพัก และหายหน้าไปจากหน้าจอ 2 ปีเต็ม วันนี้ แบม-จณิสตา จรูญสมิทธิ์ เนื้อหอมมีโฆษณาหลายชิ้นรุมจีบไปร่วมงาน แต่ล่าสุดจณิสตาตัดสินใจกลับมารับงานเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้ “พอนด์ โกลด์ เรเดียนซ์” โดยใช้เวลาตัดสินใจนานนับปี

“ด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ทำให้แบมไม่สามารถเล่นการเมืองได้ เพราะเราเป็นอดีตโฆษกพรรค รองเลขาธิการพรรคชาติไทย และรองโฆษกรัฐบาล ก็โดนเต็มๆ ต้องหยุดพักนาน 5 ปี นี่ก็เหลืออีก 3 ปี จริงๆ ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจรับงานบันเทิงซะทีเดียว แต่แบมดูว่างานที่เข้ามาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ตอนเป็นวัยรุ่นครีมบำรุงผิวกระปุกแรกที่ใช้ คือ พอนด์ จึงขอลองใช้ครีมของเขาก่อน พอลองใช้แล้วก็ดี ครีมก็มีภาพลักษณ์ที่ดี และก็เหมาะกับวัยใกล้ถึงหลัก 4 ของเรา (หัวเราะสดใส) ก็เลยตัดสินใจรับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์” จณิสตา ให้สัมภาษณ์เอกซ์คลูซีฟกับโพสต์ทูเดย์

จณิสตา สวยโดดเด่นตั้งแต่วัยรุ่น กระทั่งแต่งงานและมีลูก 1 แล้ว แต่ยังคงความงามไว้ได้ แบมว่าไม่เคยทำศัลยกรรม! แต่ไม่ปฏิเสธว่าเคยพึ่งเทคโนโลยีบางตัว ที่คงความงามอยู่ได้เพราะมีเคล็ดลับ ซึ่งยอมรับว่าเป็นผู้หญิงก็ต้องกลัวไม่สวย กลัวผิวหย่อนคล้อยเป็นธรรมดา

“ทุกคนก็ต้องรักสวยรักงาม อยู่ที่ว่าเราเริ่มดูแลเร็วหรือช้า ถ้าเริ่มตั้งแต่วัยรุ่นและดูแลอย่างถูกวิธีก็ช่วยได้” แบม อายุย่าง 38 ปีแล้ว เริ่มดูแลผิวพรรณตั้งแต่วัยรุ่น โดยเน้นจากภายในสู่ภายนอก สภาพจิตใจต้องพยายามอย่าเครียด ที่สำคัญคือเธอเชื่อเรื่อง “ยู อาร์ วอต ยู อีต”

“แบมเชื่อเรื่องการดื่มน้ำเยอะ ของกินหลีกเลี่ยงแป้งและของมัน ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เรื่องการออกกำลังกายก็สำคัญ สำหรับภายในพยายามทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด ถ้าเครียดฮอร์โมนที่ทำให้แก่จะถูกหลั่งออกมา ยิ่งผิวหนังหลายชั้น เรื่องการบำรุงขาดไม่ได้เลย ต้องเริ่มและทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

แบมทาครีมบำรุงตลอดทั้งเดย์ครีม ไนต์ครีม ครีมรอบดวงตา เริ่มทาตั้งแต่วัยรุ่น ยิ่งช่วงตั้งครรภ์รู้ว่าผิวจะยืดหยุ่น มีการเตรียมตัวดูแลผิว ไม่กินแป้งเพื่อให้น้ำหนักมาอยู่ที่ตัวเรา ตอนท้องน้ำหนักแบมขึ้นน้อยมาก คุณหมอแนะนำว่าให้รับประทานสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ ถ้ากินของไม่ดีมันจะอยู่ที่ตัวแม่ หรือกินของไม่มีประโยชน์น้ำหนักจะอยู่ที่ตัวลูก ทำให้คลอดแล้วน้องน้ำหนักเยอะก็ไม่ดี แบมจึงรับประทานแต่ผัก โปรตีน ปลาแซลมอน และไข่ รับประทานทุกมื้อ

พอลูกสาวอายุ 6 เดือนแล้ว จากน้ำหนักที่ขึ้นไป 14 กิโลกรัมตอนตั้งครรภ์ น้ำหนักบางส่วนยังอยู่ที่ตัวคุณแม่เพียง 3 กิโลกรัมเท่านั้น

โลกทุกวันนี้มีวิวัฒนาการทำให้ผู้หญิงสวยขึ้น จณิสตา เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา และเป็นเรื่องส่วนบุคคล

“แบมไม่ปฏิเสธว่าไม่เคยลอง มีคนเชิญก็ไป แต่จริงๆ แล้วไม่ค่อยสนใจด้านเทคโนโลยีด้านความงามนัก เพราะกลัวเน้นบำรุงผิวและออกกำลังกายมากกว่า ไม่อยากปิดตัวเอง แต่ถ้าจะทำก็ต้องพิจารณาและศึกษาก่อน ถ้าอีก 20 ปีข้างหน้า ผิวหนังเราจะหย่อนคล้อยก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามสภาพ ผู้หญิงอายุ 70 ปียังงามได้”

การเลือกรับประทานก็สำคัญ “แบมก็รับประทานเค้กนะ แต่ไม่มาก เพราะมีสามีที่ห่วงสุขภาพมาก (เสียงสูง) คอยกำกับ”

กับบทบาทคุณแม่ เธอทุ่มเวลาส่วนใหญ่ให้กับลูกสาว แม้พรรคจะโดนยุบไปแล้ว แต่แบมยังอยู่บ้านหลังเดิมในชื่อใหม่ และตั้งใจทำงานอยู่เบื้องหลังการเมืองเช่นเดิม อีก 3 ปี เธอจะสามารถกลับมาทำงานการเมืองได้อีกครั้ง แต่จะบทบาทไหนต้องดูความเหมาะสม นอกจากนี้เธอยังมีธุรกิจเรียลเอสเตตที่ต้องดูแล

“แบมจะพัฒนาลูกไปตามวัย จะจัดตารางสอนเลยว่า ลูกตื่นประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วนอนอีก พี่เลี้ยงจะต้องเล่นอะไรกับลูก เช่น ฝึกประสาทตากับมือ พัฒนากล้ามเนื้อมือและนิ้วของลูก แบมจะยิ้มกับลูก ลูกก็จะเป็นเด็กยิ้มง่าย ยิ้มเก่ง”