ธงไชย แมคอินไตย์ ไม่เคยธรรมดา

โดย  จุฑามาศ นิจประพันธ์ ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน

ยกให้เป็นซุป’ตาร์ค้างฟ้าวงการบันเทิงไทย สำหรับ “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” แม้จะไม่มีผลงานเพลงออกมาถี่ แต่เขาไม่เคยหาย

การปรากฏตัวในแต่ละครั้งก็ไม่เคยธรรมดา ไม่หลุดกระแส เรียกว่าไม่เคยต้องใช้คำว่านักร้องรุ่นเก่า นักร้องหลงยุค เพราะไม่ว่าตอนนี้ใครจะดัง แฟชั่นไหนจะมา เพลงแนวไหนฮอตฮิตพี่เบิร์ดสามารถเข้าไปร่วมวงได้อย่างสบายๆ และสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง และทุกคนพร้อมใจร่วมขันลงแรง ถ้าไม่ใช่ชื่อ เบิร์ด ธงไชย ก็ยากที่จะเกิดการรวมตัวทำงานแบบนี้

เบิร์ด มินิ มาราธอน รวม 8 ศิลปินแห่งยุค

เมื่อซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล เบิร์ด ผนึกกำลัง 8 ศิลปินไอคอนขวัญใจคนยุค 4.0 ทั้ง บูม บูม แคช ลาบานูน ยัวร์บอย ทีเจ เกทสึโนวา แสตมป์ โพลีแคท อะตอม และ บิ๊กแอส ทำเพลงในอัลบั้ม “เบิร์ด มินิ มาราธอน” ความสนุกและความท้าทายของคนทำงานก็บังเกิด

เบิร์ด ให้นิยามคำว่า มาราธอน “มันไม่ใช่แค่การวิ่ง มันคือการคิด การมีชีวิต ความเข้าใจทุกอย่าง เพื่อให้ชีวิตเดินไปได้ไม่ว่าจะมีอะไรก็ตาม ฉะนั้นพี่เบิร์ดมีจุดเริ่มต้นอยู่ทุกวันแต่พี่เบิร์ดไม่เคยมองเห็นจุดสิ้นสุด

ในเพซของการวิ่งมาราธอน แน่นอนว่ามันต้องมีหลากหลายความรู้สึก เริ่มจากความตื่นเต้น ความมั่นใจตัวเอง ความช็อก โดดเดี่ยว สิ้นหวัง การเลือกว่าจะไปต่อหรือไม่ไปต่อ การยืนยันว่าจะไปต่อและปิดท้ายด้วยความปีติ นี่คือเพซที่นักวิ่งต้องเจอ จึงนำตรงนี้มาเป็นโจทย์ให้ทั้ง 8 ศิลปินได้ทำเพลงที่เป็นสไตล์ของตนเอง

อัลบั้มมินิ มาราธอน คือ การเดินทางของพี่เบิร์ดที่มีน้องมาร่วมเดินทางด้วย ให้น้องๆ มองเข้ามาว่าระหว่างทางที่พี่เบิร์ดเดินมานั้นพี่เบิร์ดเดินมาอย่างไรและเจออะไรมาบ้าง มันเป็นมุมมองของน้องๆ ทั้ง 8 คนที่มองมา”

พูนศักดิ์ จตุระบุล หรือ อ๊อฟ บิ๊กแอส เอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์อัลบั้มเผยว่า “วันแรกที่พี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) เรียกประชุม มีประเด็นตั้งขึ้นมาอันหนึ่ง คือ มาราธอน แมน เพราะพี่เบิร์ดผ่านการเดินทางมามากมาย

สเตจต่างๆ ที่นักวิ่งมาราธอนต้องเจอมี 8 ขั้นตอน ผมเลยถามพี่เล็กว่า จำเป็นต้องมี 10 เพลงมั้ย พี่เล็กบอกไม่จำเป็น ถ้างั้นมี 8 เพลงได้มั้ย แต่ละเพลงพูดถึงแต่ละหนึ่งเซ็กชั่นที่มันเกิดขึ้นของช่วงการวิ่งตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสิ้นสุด เพราะแต่ละจุดที่นักวิ่งมาราธอนต้องเจอ ผมรู้สึกว่ามันทำออกมาเป็นเพลงได้หมดเลย

พอผมกลับมาทำการบ้าน ผมติดสลักอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ ความเป็นพี่เบิร์ด แล้วต้องหาคนมาแจมด้วย ผมก็ได้คำตอบกับตัวเองว่า ลืมพี่เบิร์ดไปเลยดีกว่า ยิ่งใครไม่น่าเข้ากับพี่เบิร์ดที่สุด ผมจะเลือกคนนั้นมา

เริ่มโทรไปหานักร้องทีละคน โทรไปครั้งแรกทุกคนก็มีอึ้ง ทุกคนติดคำว่าพี่เบิร์ด จนผมรีบบอกว่า ทำเพลงแบบตัวเองไปเลย ไม่ต้องคิดถึงพี่เบิร์ด พอเพลงออกมาเท่านั้นรู้เลยทุกคนตั้งใจมาก ทุกคนดีใจที่ได้ใช้สไตล์ของตัวเองมาแต่งเพลงให้พี่เบิร์ด”

“ได้โจทย์เป็นเพซแรกของการวิ่งมาราธอน พี่อ๊อฟบอกว่าต้องเป็นเพลงที่ตื่นเต้น เพราะเพิ่งออกจากจุดเริ่มต้น ได้รับบรีฟว่าเราจะเป็นเพลงเร็วเพลงเดียวในอัลบั้ม ก็มีความกดดัน แต่พอได้คุยกับพี่เบิร์ด เขาให้เราได้เป็นตัวเองเต็มที่แล้วเดี๋ยวพี่เบิร์ดจะเข้ามาหาเราเอง ทีแรกก็ไม่รู้ว่าเราควรจะแต่งเพลงแบบไหน เพลงเราเป็นอีดีเอ็ม ไม่เคยฟังพี่เบิร์ดร้องแบบนี้ แต่พอแต่งออกมาเสร็จ ได้ฟังพี่เบิร์ดร้องเพลงที่เราแต่ง น้ำตาจะไหล”

ลาบานูน : ผู้ต้องหา

“พี่อ๊อฟบอกว่าเป็นเรื่องมั่นใจในตัวเอง เราก็คิดว่าจะแต่งอย่างไรดี ก็ลองดูละกัน ผมรู้สึกว่าในเมื่อพี่เบิร์ดมั่นใจขนาดนี้ อายุ 60 แล้วก็ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ผมเลยคิดว่า สุดท้ายต่อให้อายุขนาดไหน ทุกคนก็ต้องตามหาความรัก ก็เลยตั้งชื่อเพลงว่า ผู้ต้องหา”

ยัวร์บอย ทีเจ : Okay

“รู้สึกช็อกครับผม ไม่คิดว่าเราจะได้รับโอกาสนั้น อยู่ๆ พี่อ๊อฟก็โทรมาว่า ทีเจสนใจแต่งเพลงให้พี่เบิร์ดไหม  ผมก็คิด ฮ้ะ พี่เบิร์ดเลยเหรอ คือผมยังไม่มีโอกาสได้ทำงานกับศิลปินที่ตัวใหญ่ขนาดนั้นเลยรู้สึกตกใจ แล้วผมมารู้ว่าเขาจับสลากกันตอนสุดท้าย แล้วก็เหลือโจทย์ยากสุดให้ผม (หัวเราะ)”

เกทสึโนวา : ชีวิตเดี่ยว

“มันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อยากขอบคุณจริงๆ ที่ให้วงเกทสึโนวาได้มาร่วมงานกับพี่เบิร์ด มาถึงตอนนี้ยังไม่อยากจะคิดเลยว่ามันเป็นไปได้ ขนาดวันถ่ายเอ็มวีก็ดมยาเหมือนกัน เพราะจังหวะต้องประจันหน้ากัน ตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วครับ มีความตื้นตัน ทำงานกับพี่เบิร์ดไม่เครียด เพียงแต่ว่าเรากลายเป็นเด็กไปเลย เหมือนครั้งแรกที่จับไมค์เพราะเพลงพี่เบิร์ด”

แสตมป์ : พริบตา

“ในเพลงผมร้องไปสองสามคำเองคือ ผมเกร็งเพราะว่าต้องร้องกับพี่เบิร์ดเลยนะ ผมก็เลยสร้างท่อนที่แยกออกไปเลย ให้คนเขาไม่ต้องเปรียบเทียบกัน (ในห้องอัด อ๊อฟถามแสตมป์ว่า อยากร้องแค่นั้นจริงๆ เหรอ) ถ้าผมรู้ว่าโปรเจกต์มันจะใหญ่ขนาดนี้ ผมร้องเยอะกว่านี้แน่นอน

ได้โจทย์จากพี่อ๊อฟแต่งเพลงแนวสิ้นหวัง ซึ่งมันดูเข้าทางนักแต่งเพลงทุกคนมากเลยนะ ไอ้การสิ้นหวังนี่มันต้องโดน แต่ผมคิดว่าไม่อยากจะให้พี่เบิร์ดมาร้องเพลงฟูมฟาย ไม่อยากจะมาฟังพี่เบิร์ดแบบฉันไม่ไหวแล้วนะ เพราะโตมาเขาก็ร้องเธอผู้ไม่แพ้ให้เราฟัง เป็นเพลงให้กำลังใจ ผมก็ไม่อยากที่จะให้คนเสียภาพนั้นไป อยากให้เขาเป็นคนที่ยังมีความหวังอยู่เสมอ แม้กระทั่งในเวลาที่เขาสิ้นหวัง

เพลงพริบตา พูดถึงคนที่ขอพรต่อดวงดาว ผมคิดภาพว่าคนที่เขาขอพรจากดวงดาว ในชีวิตมันต้องทำอะไรไม่ได้แล้ว ถึงต้องไปพึ่งดวงดาว ก็เป็นความสิ้นหวังที่มากๆ แต่ว่าภาพที่พี่เบิร์ดขอพรอธิษฐาน มันเป็นภาพที่พี่เบิร์ดยังรู้สึกว่าเป็นพี่เบิร์ดอยู่ เขายังมีความหวังเสมอ แม้ว่าดาวทุกดวงจะดับไป แต่พี่เบิร์ดก็ยังมีตาเป็นประกายที่จะรอ”

โพลีแคท : กำแพง

“ตอนแต่งเสร็จ พี่เขาบอกว่าเป็นเพซที่สำคัญที่สุด ให้พูดถึงเรื่องนี้ให้ชัดที่สุด ก็ดีครับ มาบอกตอนแต่งเสร็จแล้ว ไม่งั้นจะกดดันไปกว่านี้ (หัวเราะ)

เพลงนี้พูดถึงตอนบิ๊กมาราธอนแล้วเราจะหยุด หยุดก็คือ สบายไปเลย หรือจะวิ่งต่ออีกนิดหนึ่ง แข็งใจอีกนิดหนึ่งก็จะเข้าเส้นชัยแล้ว เป็นเพซที่วัดใจ ก็เลยแต่งเรื่องเกี่ยวกับเราควรจะหยุดหรือควรจะวิ่งตามหาต่อ เกี่ยวกับความไม่แน่ใจ ก็เอาเรื่องของภาษาในยุคเก่านำมาใช้ด้วย”

อะตอม : กว่าจักรวาล

“ของผมคือ เพซของการยืนยัน ตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็จะไปให้ถึง กว่าจักรวาล ของผมอาจจะต่างจากคนอื่นตรงมันเป็นเพลงที่ผมเขียนเก็บไว้อยู่แล้ว และก็เป็นเพลงที่ค่อนข้างจะพูดถึงความรักในแง่บวก เราก็มองเหมือนพี่แสตมป์ว่าถ้าเป็นพี่เบิร์ด เราก็อยากให้เป็นเพลงบวก เป็นเพลงที่สดใสให้กำลังใจคน”

บิ๊กแอส : สิ้นสุดคือจุดเริ่มต้น

“ช่วงนั้นผมกำลังจะเลือกว่าจะเป็นนักดนตรีเต็มตัวหรือจะทำอาชีพเดิมคือ พนักงานไปรษณีย์ และการเลือกเป็นนักดนตรีในสมัยนั้นมันไม่เหมือนสมัยนี้ มันมืดมนไปหมด ตอนนั้นเพลงเธอผู้ไม่แพ้ก็ดังขึ้นมา ในเอ็มวีก็ใส่ชุดเหมือนเราเลยทำงานตามบริษัท พระเอกคนนั้นคือพี่เบิร์ด ภาพนั้นยังติดตา ภาพผู้ชายผมกระเซิง กระดาษปลิวว่อน ภาพสุดท้ายคือ เขาลุกขึ้นมาสู้ต่อ

ก็เลยคิดว่าถ้าจะเขียนเพลงให้พี่เบิร์ดสักเพลง อยากจะส่งต่อแรงบันดาลใจถึงคนรุ่นหลังๆ ที่กำลังเจอเหตุการณ์เหมือนผมในวันนั้น ได้ฟังเพลงนี้ เผื่อพอจะช่วยเขาได้บ้าง เหมือนที่เพลงเธอผู้ไม่แพ้เคยช่วยผมไว้ ก็เลยแต่งเป็นเพลงนี้ขึ้นมา” (หมู มือกีตาร์วงกล่าว)

8 บทเพลง จากปลายปากกาโดยศิลปินรุ่นน้อง ที่ถ่ายทอดการเดินทางมายาวนานของศิลปินรุ่นพี่ ได้สร้างผลงานเพลงที่หลากสีสันผ่านเสียงร้องของเบิร์ดกับแนวดนตรีที่หลากแนว นับเป็นการปรากฏตัวอีกครั้งของ เบิร์ด ธงไชย เธอผู้ไม่แพ้และยังหยัดยืนสง่าทุกกาลเวลา