posttoday

พรีเวดดิ้งโชว์แข่งแหวก แชร์โซเชียลแล้วดัง

20 พฤษภาคม 2560

ในโลกเสมือนที่แรงตอบรับวัดผ่านดัชนีการไลค์หรือบอกว่าชอบใจ รวมถึงวัดความนิยมผ่านเรตติ้งการแชร์ผ่านเครือประชาสังคมออนไลน์

โดย...ทีม@Weekly

 ในโลกเสมือนที่แรงตอบรับวัดผ่านดัชนีการไลค์หรือบอกว่าชอบใจ รวมถึงวัดความนิยมผ่านเรตติ้งการแชร์ผ่านเครือประชาสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ตอนนี้กลายเป็นกระแสหลักไปในทุกวงการ

 ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งที่ยูนีคหรือมีความพิเศษแตกต่างไม่มีใครเหมือน สามารถพบเห็นและเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ โซเชียลฯ ภายในชั่ววันข้ามคืน ต่างได้รับเสียงชื่นชมถึงแนวความคิดหรือไอเดียที่คาดเดาหรือนึกไม่ถึง ในรอบปีที่ผ่านมาภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของสาวอีสานและหนุ่มนักธุรกิจชาวเดนมาร์ก โกโก้ กับคริสเตียน ซึ่งถ่ายกันที่บ้านละเอาะ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้สร้างชื่อให้กับนรากร โฟโตกราฟฟี ให้โดดเด่นเฉิดฉายในวงการช่างภาพแต่งงานมากยิ่งขึ้น

 หรือภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสไตล์สตรี๊ท สตรีท ของ "เกลือ เป็นต่อ" ซึ่งที่โจษจันร่ำลือในแง่บวกของความคิดแปลกแหวกออกไป แต่ไม่แพงและดูดี รวมทั้งภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของหนุ่มมาดเข้มเจ้าของปั๊มเอสโซ่หลายสาขา ในคอนเซ็ปต์ MY BF is a Gas station owner : Na & Auu ที่เนรมิตปั๊มน้ำมันธรรมดาให้กลายเป็นฉากถ่ายภาพแต่งงานที่แสนประทับใจ

 ไม่นับภาพถ่ายพรีเวดดิ้งเจ้าบ่าวเจ้าของแบรนด์บ้านมะขาม ผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะขามหวานในคอนเซ็ปต์ Dating with My boss : Ten & Ying ที่บ่าวสาวพาทัวร์โรงงานชมขั้นตอนการผลิต

 นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ ซึ่งเลือกโลเกชั่นได้แปลกตา ไม่ว่าถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่หมู่บ้านคีรีวง ไร่ชาลุงเดช เขาใหญ่ วิ่งเล่นกันในทุ่งๆ ในป่าๆ เห็นความสลับซับซ้อนของทิวเขา ทุ่งหญ้าไล่ระดับ หรือภาพถ่ายพรีเวดดิ้งในฝันธีมเทพนิยาย แบบ Fairy Tale ฯลฯ

 โคล คอร์ ครูผู้สอนที่ นิคอน สกูล ปัจจุบันประจำอยู่ที่สิงคโปร์ โคลเป็นช่างภาพเวดดิ้งชื่อดังผู้คอยพยายามผลักดันขอบเขตการสร้างสรรค์ภาพถ่ายเวดดิ้งให้หลุดพ้นจากกรอบเดิมๆ อยู่เสมอ จวบจนถึงวันนี้ เขาได้รับรางวัลมาแล้วถึง 96 รายการ จากเวทีต่างๆ เช่น Fearless Photographers ISPWP AsiaWPA และ WPPI เป็นต้น เขาให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ของนิคอนว่า

พรีเวดดิ้งโชว์แข่งแหวก แชร์โซเชียลแล้วดัง

 “การถ่ายภาพเวดดิ้งนั้น ผมชอบตรงที่มันเป็นแนวภาพที่มีความหลากหลาย เปิดโอกาสให้ผมใช้ความคิดสร้างสรรค์ทดลองสไตล์แบบต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ถ้าเป็นงานภาพพรีเวดดิ้ง ผมสามารถที่จะผลักดันกรอบจำกัดเดิมๆ ของภาพถ่าย แล้วเติมลูกเล่นสร้างสรรค์ของตัวเองลงไปเพื่อให้ได้ช็อตภาพที่ดูไม่เหมือนใครและน่าสนใจได้ด้วย ส่วนในวันพิธีจริง ผมจึงทำหน้าที่เก็บภาพช่วงเวลาที่ชื่นมื่นเปี่ยมความหมายให้ได้อย่างที่เป็นจริง”

 นั่นคือความคิดเห็นของช่างภาพพรีเวดดิ้งระดับโลกที่มีต่อการถ่ายภาพแนวนี้ สำหรับเทรนด์การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งที่มีการคิดอย่างลึกล้ำเกินจะจินตนาการ ซึ่งกำลังฮิตในหมู่คู่บ่าวสาวไทย

 ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวสาวได้เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยพลังอำนาจของโซเชียลมีเดีย หลายคู่ต้องวางแผนกับทีมช่างภาพในการถ่ายอย่างระดมสมองเพื่อให้มีความต่างแปลกแหวกพิเศษออกไปอย่างดูดี เมื่อเสร็จแล้วก็มาวัดความสำเร็จกันในโลกโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม หรือเว็บบล็อกต่างๆ หากมียอดไลค์เป็นหลักแสนหลักล้าน ยอดแชร์ก็จะมากเป็นเงาตามตัวไปด้วย เป็นความภูมิใจให้คู่บ่าวสาวและยกระดับของทีมช่างภาพแลพสตูดิโอที่มีงานงอกงานเข้าอย่างรับมือไม่ทันในชั่วข้ามคืน

อุตสาหกรรมแต่งงาน

 หากย้อนหลังกลับไปดูพัฒนาการการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้เข้ามาในประเทศไทยเพียง 20 ปีเศษ แต่ก็ได้รับความนิยมจนหนึ่งในพิธีกรรมสำคัญของการแต่งงานที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้วในปัจจุบัน คู่แต่งงาน 98% จะต้องถ่ายพรีเวดดิ้ง

 การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเพื่อบันทึกความทรงจำที่แสนประทับใจของคู่รัก ในการจะเริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่ เป็นรูปแบบการถ่ายภาพที่เกิดขึ้นและเป็นที่นิยมมาก่อนในจีนและไต้หวัน โดยในยุคแรกนั้นที่ธรรมเนียมนิยมนี้เข้ามาในเมืองไทย ตัน ภาสกรนที เป็นผู้บุกเบิก โดยนำรูปแบบของสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานเข้ามาเปิดในย่านทองหล่อ จนได้รับความนิยมจึงมีธุรกิจนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย

 ต่อมาก็แปรเปลี่ยนเทรนด์การถ่ายภาพเอาต์ดอร์ ฉากหลังที่เป็นบรรยากาศสวยงามของธรรมชาติไม่เหมือนใคร รวมถึงความนิยมการถ่ายพรีเวดดิ้งในต่างประเทศ ซึ่งมีแพ็กเกจโอเวอร์ซี (Oversea) ของกลุ่มคู่บ่าวสาวที่มีทุนทรัพย์และต้องการโดดเด่น

พรีเวดดิ้งโชว์แข่งแหวก แชร์โซเชียลแล้วดัง

 ในระยะที่มีการถ่ายพรีเวดดิ้งใหม่ๆ ค่าใช้จ่ายจะมากกว่าปัจจุบันถึง 3 เท่า และจะมีเฉพาะคนในสังคมชั้นกลางถึงสูงเท่านั้นที่มีโอกาสถ่าย แต่ปัจจุบันใครๆ ก็สามารถมีภาพพรีเวดดิ้งสุดประทับใจได้ การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในปัจจุบันมี 3 แบบ คือ เวดดิ้งสตูดิโอ ฟรีแลนซ์ และต่างประเทศ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งสามแบบนี้จะแตกต่างกันไป แล้วแต่ความพึงพอใจ

 การถ่ายพรีเวดดิ้งของคู่บ่าวเฉลี่ย 8 หมื่นบาท (โดยการคำนวณของธีรศักดิ์) หากเปรียบเทียบในแต่ละปีมีคู่แต่งงานเฉลี่ย 3 แสนคู่ จะมีคู่แต่งงานทั้งหมด 2.94 แสนคู่ ที่ถ่ายภาพก่อนแต่งงาน และใช้เงินไปราวคู่ละ 8 หมื่นบาท นั่นเท่ากับมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจถ่ายภาพพรีเวดดิ้งถึง 2 หมื่นกว่าล้านบาท/ปี

 ส่วนอุตสาหกรรมหรือตลาดแต่งงานในเมืองไทย สรัญ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมเอส 31 เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันของโรงแรมที่เจาะตลาดแต่งงานปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โรงแรมต่างๆ จัดโปรโมชั่นออกมาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเน้นตอบโจทย์จัดการทุกอย่างให้ครบภายในงบประมาณที่ลูกค้ากำหนด โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเงินเพิ่มไปตามหาบริการใดเลย ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภค เนื่องจากทำให้มีโอกาสหาซื้อแพ็กเกจแต่งงานในโรงแรมได้คุ้มค่าเงินมากขึ้น

 สำหรับสาเหตุที่ทำให้โรงแรมเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดแต่งงานมากขึ้น น่าจะมาจากเป็นกลุ่มบริการใช้ห้องจัดเลี้ยงที่ได้ผลตอบแทนมากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ เช่น การจัดสัมมนา หรือจัดงานปาร์ตี้ เพราะลูกค้าที่ใช้บริการจะใช้ในช่วงสั้นๆ แค่ 4-5 ชั่วโมง ไม่เหมือนกับการประชุมบางรายการที่ใช้ห้องยาว 10-12 ชั่วโมง ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการผิดพลาดจากการให้บริการในงานก็น้อยกว่า

 นอกจากนี้ รายละเอียดที่โรงแรมต้องดูแลไม่มากเท่ากับการจัดประชุม เพราะการจัดประชุมต้องให้ความสำคัญตอบสนองความต้องการลูกค้าที่มาประชุม ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกันไป ขณะที่ตลาดงานแต่งงาน ความต้องการหลักๆ อยู่ที่คู่บ่าวสาว ที่สำคัญตลาดแต่งงานยังเป็นตลาดที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล จึงเจาะตลาดจัดงานได้ทั้งปี

 ทั้งนี้ เอส 31 ตั้งเป้าหมายว่า ปีนี้จะดึงคู่แต่งงานมาจัดงานได้ 200 คู่ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มี 180 คู่ โดยล่าสุดเพิ่งทำห้องจัดเลี้ยงแต่งงานชั้น 5 ใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์การจัดงานแต่งงานขนาดใหญ่ที่ต้องการจัดงานโดยมีแนวคิดสะท้อนความเป็นตัวเองมากขึ้น โดยได้ปรับเฉดสีของพื้นที่จัดงานใหม่โดยใช้สีที่สดใสและมีเงามากขึ้น จากเดิมที่เป็นสีโทนน้ำตาลเข้ม นอกจากนี้ยังลงทุนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มเรื่องเทคโนโลยีเข้าไปเพื่อให้ตอบโจทย์คู่แต่งงานที่ต้องการนำเสนอพรีเซนเทชั่นงานแต่งงานบนจอขนาดใหญ่

 “กระแสการจัดงานแต่งงาน ลูกค้าจะต้องการจัดภายใต้แนวคิดที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเองชัดเจนขึ้น ไม่ใช่แนวคิดทั่วๆ ไปที่คู่ไหนๆ ก็มักจัดซ้ำกัน” สรัญ กล่าวย้ำ

 โดยปลายเดือนนี้โรงแรมจะงานเวดดิ้ง แฟร์ 2017 วันที่ 27-28 พ.ค.นี้ โดยจะเน้นนำเสนอพื้นที่ห้องจัดเลี้ยงชั้น 5 ที่ปรับปรุงใหม่ นอกจากนี้ภายในงานยังมีบูธแฟชั่นโชว์ ผู้ให้คำปรึกษาด้านการวางแผนจัดงานแต่งงาน มีการจำลองบรรยากาศจริง และการให้บริการแบบครบวงจรจบในที่เดียวด้วย

 ส่วน ประธานพร พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม แอ็ท สยาม ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมสยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายสยาม แอ็ท สยาม กรุงเทพฯ เพิ่มรายได้จัดงานแต่งงาน 150% หรือจากเดิมที่มีแค่ไตรมาสละ 1 คู่ ปีนี้ก็คาดหวังจะเพิ่มเป็นไตรมาสละ 5 คู่ โดยกลยุทธ์ที่ใช้คือดึงดีไซเนอร์ไทยชื่อดัง ทั้งเอก ทองประเสริฐ และขวัญข้าว เศวตวิมล มาออกแบบการจัดงานแต่งงานให้กลุ่มคู่บ่าวสาวที่ใช้จ่ายขั้นต่ำ 5 แสนบาท/งาน

พรีเวดดิ้งโชว์แข่งแหวก แชร์โซเชียลแล้วดัง

ประสบการณ์ของช่างภาพพรีเวดดิ้ง

 ทรงวุฒิ พัฒนศิลาพร แห่งเบิร์ดอายวิว เวดดิ้ง สตูดิโอ (BirdEyeView Wedding Studio) ช่างภาพแนวบุคคลที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ได้รับรางวัลด้านการถ่ายภาพมาแล้วทั้งในระดับประเทศและระดับเอเชีย บอกว่า ภาพรวมจริงๆ ของการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทั่วๆ ไปก็ยังอยู่ตามสตูดิโอ การถ่ายพรีเวดดิ้ง เอาต์ดอร์ เทรนด์ ก็กำลังย้อนกลับไปนิยมถ่ายกันในสตูดิโอด้วยซ้ำไป

 “จากที่เคยหารีสอร์ทสวยๆ มาถ่ายกัน ตอนนี้ก็เป็นแบบสตรีทแฟนธอม เป็นงานคอนเซ็ปต์ผ่านความคิดและไอเดียสร้างสรรค์มากขึ้น ยุคนี้มาแข่งกันเรื่องไอเดีย ช่างภาพแต่ละคนก็มีความท้าทายในการที่จะคิดคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ซ้ำกับคนอื่น ซึ่งก็ทำยากมาก”

 การโพสต์ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งลงโซเชียลมีเดีย ถือเป็นการไปกระจายข่าวปากต่อปากให้กับสตูดิโอหรือช่างภาพอีกทอดหนึ่ง หากโพสต์แล้วโดนคนไลค์และแชร์เยอะจะทำให้ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง ทรงวุฒิ ยอมรับตรงจุดนี้ว่า จริง!

 “อย่างธีมงานวัดของผมปล่อยสาธารณะทางโซเชียล มีคนชอบเข้ามาไลค์มาแชร์กันเยอะถึง 2 แสน ซึ่งทั้งหมดเป็นการทำงานระหว่างตัวบ่าวสาว ช่างภาพ และทีมงาน เขาคิดมาและเราตอบสนองงานเขาได้ในระดับที่ดีที่สุด พอเผยแพร่ออกไปสู่ภายนอกโดนใจ มีการแชร์เกิดขึ้นมันก็จะทำให้มีงานมากขึ้น”

 ปัจจุบันถ้าเราจุดกระแสในโซเชียลติด ก็จะสร้างชื่อเสียงในระยะเวลาหนึ่ง มีลูกค้าเข้ามามากมาย ทรงวุฒิ เล่าประสบการณ์ว่าแต่สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือความสม่ำเสมอของงานด้วย ต้องมีมาตรฐานที่แน่นอน

 “เพราะลูกค้าแต่ละรายไม่เหมือนกัน บางรายมาดีหมดทั้งคอนเซ็ปต์ ไอเดีย แต่บางรายก็มาแบบไม่มีอะไรเลย โปร่งๆ ซึ่งเราต้องช่วยคิดการนำเสนอ ตรงนี้สำคัญกว่าต้องรักษามาตรฐานให้ได้มากกว่าความหวือหวาชั่วครั้งชั่วคราว และทำผลงานแนวคอนเซ็ปต์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย”               

 การแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในตลาดถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ทำให้เกิดสงครามราคา ทรงวุฒิ ฉายภาพให้เห็นถึงอดีตย้อนหลังกลับไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ร้านหรือสตูดิโอพรีเวดดิ้งเกือบทั้งหมดอยู่ได้ด้วยการขายไฟล์ภาพ ต่อมาก็เข้าสู่ยุคกลุ่มช่างภาพอิสระหรือกลุ่มฟรีแลนซ์เข้ามาเล่นในตลาดนี้ รับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งและไม่ได้ขายไฟล์ภาพ เลยส่งผลต่อสตูดิโอในเรื่องของราคา พอเข้าสู่อีกยุคหนึ่งช่างภาพฟรีแลนซ์พรีเวดดิ้งมีเยอะมาก หาได้ไม่ยากมีแต่คนที่ทำอาชีพช่างภาพ มีเพจต่างๆ ในโซเชียลมีเดียมากกมาย

 “ทำให้ร้านรับถ่ายพรีเวดดิ้งหรือสตูดิโอที่รับงานปิดไปเยอะมาก ได้รับผลกระทบมากที่สุด ลูกค้าหรือคู่บ่าวสาวก็จะออกมาหาร้านหรือสตูดิโอที่ไม่ขายไฟล์ภาพ หรือหาช่างภาพฟรีแลนซ์มาถ่าย พอกลุ่มนี้ขยายตัวขึ้น ร้านและสตูดิโอต่างๆ ก็ปรับตัวไม่ขายไฟล์ภาพ และทำแบบครบครบวงจรงานแต่งงาน ส่วนใครใช้ช่างภาพฟรีแลนซ์ก็ต้องไปเช่าชุดตามร้านต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดสงครามราคาในจุดนี้ แต่ก็เป็นปัจจัยระดับหนึ่ง”

 ทรงวุฒิบอกเคล็ดลับของการอยู่ในวงการได้ยาวนาน อย่างเขาอยู่มา 10 กว่าปีแล้ว

 “ในวงการช่างภาพหรือสตูดิโอพรีเวดดิ้ง ถ้ามีมาตรฐานที่ดี มีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างยาวนานและต่อเนื่อง มีการพูดกันปากต่อปากว่าถ้าจ้างเจ้านี้แล้วไม่ผิดหวัง เรื่องราคาจะไม่มีผลมากเท่าไหร่เพราะลูกค้ามีความเชื่อมั่นมากกว่า พอเป็นงานศิลปะพอเราจะกำหนดราคาออกมาตายตัวในแต่ละรายมันก็ยาก แต่ถ้าผลงานโอเคลูกค้ายอมรับอย่างกว้างขวาง เรื่องราคาจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการจ้างงาน

 “โอเค ตอนนี้ช่างภาพพรีเวดดิ้งอยากมีงานเยอะและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีการสร้างคอนเซ็ปต์การที่ถ่ายภาพที่แหวกและชัดเจนจนสร้างกระแสในโซเชียลได้ สามารถทำให้ดังภายในชั่วข้ามคืนหรือภายในคอนเซ็ปต์หนึ่ง ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ช่างภาพมืออาชีพควรมีก็คือตัวงานที่ดี และปัจจัยสำคัญก็คือการบริการ หน้างานเราดูแลลูกค้าอย่างไร มีความรับผิดชอบต่องานขนาดไหน ตรงนี้จะเป็นเรื่องที่ลูกค้านำไปเล่าหรือบอกต่อทำให้ได้งานเข้ามาเรื่อยๆ ผลงานของลูกค้าใหม่ต้องทำให้ดี ส่วนลูกค้าเก่าที่แนะนำกันมาเป็นคอนเนกชั่นก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งได้ถ่ายกันทั้งตระกูล”

 เขาบอกว่า ถ้ามุ่งแต่จะปังอย่างเดียวก็ไม่ได้ เนื้องานที่ต้องโชว์และเนื้องานข้างในต้องดีไปพร้อมกัน

 “ช่างภาพแต่ละคนมีฝีมืออยู่แล้ว แต่มันอาจจะรอจังหวะและโอกาส ช่างภาพเยอะแต่โรงแรมห้าดาวน้อย คอนเนกชั่นสำคัญมากในการขึ้นไปอยู่แถวหน้าของช่างภาพและสตูดิโอพรีเวดดิ้ง เพราะในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา วงการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้มาถึงจุดหนึ่งที่สามารถแสดงถึงความเป็นทางการหรือมีเครดิตแบบออฟฟิเชียลในตัวผลงาน มีการระบุตัวตนชัดเจนของเจ้าของผลงาน เพราะต้องมีทีมมากมายในการถ่ายและกระบวนการคิด ปัจจุบันมีเจ้าใหญ่ๆ คุมตลาดเซเลบอยู่ 3 เจ้า กว่าจะหลุดมายากมาก การเป็นออฟฟิเชียลงานใหญ่ๆ จะยากมาก”

 สุดท้าย ทรงวุฒิมองขออนาคตงการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ก็มีหัวใจหลักอยู่การนำเสนอกับการถ่ายภาพ และการสื่อสารอารมณ์ของคู่บ่าวสาวผ่านรูปภาพ มีความสำคัญร่วมกับแนวคิดและคอนเซ็ปต์ของแต่ละงาน

สุขตอนพรีเวดดิ้ง แต่สถิติหย่าร้างสูง

 สถิติคนกรุงหย่าร้าง 1.6 หมื่นคู่/ปี เกิดจากค่านิยมพึ่งพาตนเองสูง และปัญหารักแท้แพ้ใกล้ชิดในที่ทำงาน ร.ต.ภาณุพงษ์ สุทธิสาร ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ผลการเก็บรวบรวมสถิติจดทะเบียนสมรสในพื้นที่ กทม. ตั้งแต่ 1 ม.ค.-1 เม.ย. 2560 พบว่า มีผู้มาจดทะเบียนสมรสแล้วจำนวน 16,670 คู่ และหย่าร้างจำนวน 5,398 คู่ คิดเป็น 32.4% ของการหย่า ส่วนยอดจดทะเบียนสมรสทั้งประเทศอยู่ที่ 113,197 คู่ และหย่าร้างจำนวน 41,206 คู่ คิดเป็น 36.4%

 ขณะที่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 มีผู้มาจดทะเบียนสมรสพื้นที่ กทม.จำนวน 43,721 คู่ หย่าร้าง 15,450 คู่ คิดเป็น 35.3% ส่วนภาพรวมทั้งประเทศจำนวน 296,258 คู่ หย่าร้าง 111,810 คู่ คิดเป็น 37.7%

 ถัดมาปี 2558 ผู้มาจดทะเบียนสมรสในพื้นที่ กทม. จำนวน 45,930 คู่ หย่าร้าง 16,456 คู่ คิดเป็น 35.7% ภาพรวมทั้งประเทศสมรส จำนวน 304,392 คู่ หย่าร้าง 117,880 คู่ คิดเป็น 38.7% และปี 2559 ผู้มาจดทะเบียนสมรสในพื้นที่ กทม. จำนวน 48,519 คู่ หย่าร้าง 16,081 คู่ คิดเป็น 33.1% ส่วนจำนวนผู้มาสมรสทั้งประเทศ จำนวน 307,746 คู่ หย่าร้าง 118,539 คู่ คิดเป็น 38.5% ดังนั้นค่าเฉลี่ยการหย่าร้างของทั้งประเทศอยู่ที่ 37%

 ร.ต.ภาณุพงษ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการหย่าร้างในกรุงเทพฯ ขึ้นลงตามสภาพทางเศรษฐกิจในแต่ละปี โดยเฉลี่ยมีการหย่าร้างจำนวน 1.6 หมื่นคู่/ปี เกิดจากสังคมคนเมืองยุคสมัยนี้ไม่ค่อยพึ่งพากัน เพราะแต่ละคนมีความรู้ความสามารถทำงานเลี้ยงชีพด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงไม่ค่อยคิดถึงปัจจัยที่จะหาคู่ครอง เรื่องต่อมาคือสภาพสังคมครอบครัวเดี่ยว มักไม่มีผู้ใหญ่คอยประคับประคองความสัมพันธ์ อีกทั้งบรรยากาศในที่ทำงานส่งผลให้มีโอกาสนอกใจมากขึ้น เพราะมีความใกล้ชิดเข้ามาเกี่ยวข้อง และเรื่องสุดท้ายคือปัญหาเกี่ยวกับทรัพย์สิน เนื่องจากมีค่านิยมไม่ต้องการผูกพันกันระหว่างสินสมรส

 “ทุกวันนี้การหย่าร้างทำได้ง่าย บางรายเดินทางมาหย่ากันด้วยอารมณ์ ทะเลาะกันเมื่อไหร่ก็ท้าทายด้วยการหย่า จากนั้นไม่นานก็มาจดทะเบียนใหม่ และก็หย่าอีกครั้ง ข้อมูลตรงนี้ยังไม่มีการเก็บเป็นสถิติ แต่เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ขณะที่สมัยก่อนการจะมาเซ็นชื่อหย่าร้างทำได้ยาก เพราะต้องไกล่เกลี่ยกันก่อนเพื่อให้เห็นแก่บุตร ตกลงกันได้หรือไม่ว่าใครจะเป็นผู้เลี้ยงดู ต้องพิจารณาว่าหย่าแล้วเกิดผลกระทบอะไรบ้าง หากทั้งสองฝ่ายยินยอมหรือกลับไปไตร่ตรองพิจารณาแล้วว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ อย่างนี้นายทะเบียนจะรับรองการหย่าให้ ที่สำคัญอยากให้คิดถึงผลกระทบต่อลูกหลานมากๆ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสังคมในอนาคตได้” ร.ต.ภาณุพงษ์ กล่าว

5 ตัวเลือกระดับท็อปถ่ายพรีเวดดิ้งและเนรมิตงานแต่งในฝัน

เว็บไซต์ธนาคารกสิกรไทย ในหมวดหมู่ K-Lifestyle > Smart Shopping > Best Selected ได้เลือกตัวท็อปของวงการเวดดิ้งเมืองไทย ดังนี้

1.Buddy’s Wedding

 เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อแคนดิดเวดดิ้งของเมืองไทยก็ว่าได้ เพราะนำโดยเจ้าของลายเซ็น Vin หรือวิน-ภูริต เนติมงคลชัย ผู้เป็นช่างภาพและเวดดิ้ง แพลนเนอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่รักดาราและเซเลบริตี้ให้เป็นผู้เก็บภาพความทรงจำในวันสำคัญมาแล้วอย่างมากมาย พร้อมกันนั้น Buddy’s Wedding ก็ยังมีบริการจัดทำภาพยนตร์สำหรับงานแต่งงาน (Cinematographer) หรือวิดีโอพรีเซนเทชั่นสุดแสนประทับใจ ซึ่งหากคุณสนใจอยากดูข้อมูลหรือผลงานต่างๆ ที่ผ่านมาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.facebook.com/VinBuddyWedding

2.BOX Wedding

 อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน BOX Wedding เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2551 โดยรับบริการถ่ายภาพนิ่งและจัดทำวิดีโอพรีเซนเทชั่นแนวภาพยนตร์ ซึ่งก็การันตีได้ว่า จะช่วยสร้างเรื่องราวความรักของคู่รักให้สวยหวานดั่งเทพนิยาย เต็มไปด้วยความรู้สึกผ่านมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญ Box Wedding ยังมีผลงานที่โดดเด่นมาแล้วอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญของดารานักแสดงหรือคนดังในสังคมต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าไปดูกันได้ที่ www.box.co.th และ www.facebook.com/BoxWedding

3.BirdEyeView Wedding Studio

 เป็นเวดดิ้งสตูดิโอที่รับบริการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง (Pre Wedding) ถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอในพิธีหมั้นรวมไปถึงวันแต่งงาน โดยทีมช่างภาพมืออาชีพ ซึ่งนำโดย เบิร์ด-ทรงวุฒิ พัฒนศิลาพร ช่างภาพแนวบุคคลที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในวงกว้างและได้รับรางวัลด้านการถ่ายภาพมาแล้วทั้งในระดับประเทศและระดับเอเชีย นอกจากนี้ BirdEyeView ยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากสมาคมช่างภาพแต่งงานแห่งประเทศไทย (TPWPA Thai Professional Wedding Photographer Association) การันตีด้วยคุณภาพ แถมยังการันตีด้วยราคาแพ็กเกจต่างๆ ที่มีโปรโมชั่นอยู่ตลอดอีกด้วย ซึ่งสามารถเข้าไปดูได้ที่ www.birdeyeviewweddingstudio.com และ www.facebook.com/BirdeyeviewWeddingStudio

4.Bangkok Wedding Studio

 แน่นอนว่าบริการถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโออย่างเดียวคงไม่เพียงพอสำหรับวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่ง Bangkok Wedding Studio จึงตอบโจทย์ทุกคู่รักที่ต้องการสตูดิโอแบบครบวงจร ด้วยสินค้าและบริการด้านงานแต่งงานครบทุกความต้องการที่สุด ทั้งคอสตูมเสื้อผ้าชุดแต่งงาน ชุดถ่ายทำ ชุดพิธีหมั้นกว่า 1,000 ชุด ให้ทุกคู่มั่นใจได้ว่าจะเจอชุดที่ถูกใจแน่นอน พร้อมทีมช่างแต่งหน้า ทีมช่างภาพ ทีมตัดต่อ และรีทัชเชอร์ ที่จะมารวมตัวกันสร้างสรรค์ผลงานให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวประทับใจ แบบนี้จะพลาดได้ไง เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ www.bangkokweddingstudio.com

5.Finale Wedding Studio

 ที่นี่จะทำให้ว่าที่เจ้าสาวได้ฟิน ยิ้มไม่หุบ เพราะ Finale Wedding Studio คือห้องเสื้อและสตูดิโอแต่งงานที่ขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องของสไตล์ชุดเจ้าสาวที่หรูหราตามแบบกูตูร์ ซึ่งก็มีให้เลือกอย่างมากมาย อีกทั้งชุดไทย ชุดราตรี และชุดเจ้าบ่าว พร้อมด้วยบริการแต่งหน้า-ทำผม รวมไปถึงบริการออกแบบการ์ด ของชำร่วยต่างๆ และบริการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอพรีเซนเทชั่น จึงเรียกได้ว่า มาที่นี่ที่เดียวงานแต่งในฝันของคุณก็ใกล้จะสมบูรณ์แบบเต็มที คู่รักคู่ไหนสนใจ เข้าไปดูรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ www.finaleweddingstudio.com และ www.facebook.com/finaleweddingstudio