มิยาวี ให้ดนตรีโอบอุ้มโลก

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง ภาพ : UNHCR

เมื่อ แองเจลินา โชลี เลือกนักดนตรีหนุ่มชาวญี่ปุ่น “มิยาวี” ให้ร่วมแสดงในหนัง Unbroken ทั้งโลกจึงหันมาสนใจผู้ชายคนนี้ (มากขึ้น)

ทากามาซะ “มิยาวี” อิชิฮาระ ในวัย 35 ปี เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในนาม “มือกีตาร์ ซามูไร” เขาเป็นชาวเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น โด่งดังมีชื่อเสียงในเรื่องการเล่นกีตาร์ในสไตล์ของตัวเอง เขาเล่นกีตาร์ไฟฟ้าโดยไม่ใช้ปิ๊ก ถนัดใช้มือดีดและเคาะกีตาร์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการเล่นเบส เขายังมีรูปลักษณ์และบุคลิกที่โดดเด่น เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยสัก แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเมื่อขึ้นเวที มิยาวี เป็นร็อกเกอร์ตัวหอมฟุ้งด้วยน้ำหอมแบรนด์ดัง พูดจานุ่มนวลและมรรยาทดีงาม เขาใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว เพราะเคยเรียนที่สหรัฐ

งานอัลบั้มล่าสุดของ มิยาวี ชื่อ The Others ได้รับแรงบันดาลใจจากดนตรีคันทรี่ซึ่งลอยกรุ่นอยู่ในบรรยากาศขณะที่เขาทำงานบันทึกเสียงอยู่ที่แนชวิลล์ สหรัฐ หลังจากวางขายงานนี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้ฟังทั่วโลกไม่น้อย

ระหว่างนี้ มิยาวี ยังนำดนตรีมาเป็นสื่อเพื่อทำงานเพื่อโลกและผู้คน จุดเริ่มต้นนั้นต้องย้อนกลับไปในตอนที่ มิยาวี ได้ทำงานแสดงร่วมกับ แองเจลินา โชลี ซึ่งสวมหมวกอีกใบในฐานะผู้แทนพิเศษของ UNHCR หรือสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานคุ้มครองผู้ลี้ภัย และการหาทางออกให้กับปัญหาของผู้ลี้ภัยทั่วโลก

ในปี 2015 มิยาวี ได้มีโอกาสติดตาม แองเจลินา ไปเยือนค่ายผู้อพยพในเลบานอน ทำให้เขาได้สัมผัสรับรู้ความทุกข์ยากลำบากของเพื่อนมนุษย์ จากนั้นมือกีตาร์หนุ่มจึงปวารณาตนว่า จะทำงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยทั่วโลกต่อไปเท่าที่จะทำได้ ตามมาคือ มิวสิควิดีโอ The Others ซึ่งนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ลี้ภัย โดย มิยาวี ได้เดินทางไปถ่ายทำในเลบานอน มาลี จอร์แดน อัฟกานิสถาน และไทย ก่อนนำไปเผยแพร่ทั่วโลก

เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มิยาวี ได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อเยือนผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงทางภาคเหนือ และศึกษาปัญหาเกี่ยวกับผู้อพยพลี้ภัยที่เกิดขึ้นในเอเชีย ในบ่ายวันหนึ่งที่สำนักงานยูเอ็นเอชซีอาร์ กรุงเทพฯ เขาได้เปิดใจเล่าถึงบทบาทหน้าที่ และความตั้งใจของเขาในการทำงานเพื่อผู้อพยพ

ก่อนจะเดินทางมาเมืองไทย มิยาวี บอกว่า เขาได้รับข้อมูลมากมาย แต่สิ่งที่ได้สัมผัสจริงๆ นั้นก็คือ ค่ายอพยพในไทยนั้นทางรัฐบาลได้สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยมามากกว่า 30 ปีแล้ว สภาพของแคมป์ที่นี่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในดินแดนอื่น “ผมได้รับข่าวดีว่า สถานการณ์ในประเทศเมียนมาดีขึ้นมาก ผู้อพยพบางส่วนได้เดินทางกลับไปเมียนมาแล้ว ต้องขอขอบคุณรัฐบาลไทยและ UNHCR ด้วยครับ”

แรกนั้น มิยาวี ตั้งใจจะมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทย แต่เมื่อไม่มีคอนเสิร์ตแล้ว เขาจึงจะไปเปิดการแสดงในแคมป์ผู้ลี้ภัยแทน มิยาวี บอกว่า เมื่อมาเยือนไทย เขาสามารถสัมผัสและรู้สึกได้ถึงน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ “ตรงนี้เป็นสิ่งที่ช่วยเหลือและเปลี่ยนแปลงโลกได้” เขายังพูดถึงเรื่องของการเคารพสิทธิมนุษยชน การยอมรับในความแตกต่าง “ผมคิดว่า เราควรสร้างสะพานไปหาคนอื่นมากกว่าสร้างกำแพง ผมอยากจะย้ำว่า ผู้ลี้ภัยไม่ได้เป็นภาระ พวกเขาเป็นคนเหมือนกัน รัฐบาลต้องหาความสมดุลในการบริหารประเทศและช่วยเหลือผู้ลี้ภัย”

ชีวิตส่วนตัวนั้น มิยาวี แต่งงานกับนักร้องชื่อ เมโลดี้ ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ด้วยความเป็น “คุณพ่อ” ทำให้เขาให้ความสำคัญกับเด็กๆ มาก “พวกเขาควรจะได้รับการศึกษา ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานไปสู่รุ่นต่อๆ ไป” หลังจากได้พบเจอกับเยาวชนในค่ายผู้อพยพ เขาก็บอกสอนลูกๆ ว่า พวกเขาโชคดี และมีโอกาสมากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กๆ ในค่ายอพยพ ซึ่งแทบไม่มีโอกาสในชีวิตเลย

ระหว่างอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย มิยาวี มีโอกาสได้เล่นกีตาร์และร้องเพลงให้เด็กๆ ฟัง “ผมได้เห็นความหวัง ความสดใส และความสุขในดวงตาของเด็กๆ หลายคนบอกว่า อยากเป็นร็อกสตาร์ ทำให้ผมมีความสุขมากที่สามารถทำให้ดนตรีส่งผ่านไปถึงความรู้สึกของพวกเขา

“ดนตรีอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ดนตรีสามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของคนได้ และคนจะเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น” มิยาวี เชื่อในพลังของดนตรี ซึ่งทำให้ความรู้สึกของคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

ปัจจุบัน มิยาวี ทำงานอยู่ที่สหรัฐเป็นหลัก โดยในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ เขามีตารางทัวร์คอนเสิร์ต ASIA ON TOUR ซึ่งจะจัดขึ้นทั่วอเมริกาเหนือ เพื่อนำดนตรีจากเอเชียไปให้โลกได้สัมผัส โดยมีวงดนตรีจากไทยคือ สล็อต แมชชีน และ คิฮา แอนด์ เดอะ เฟซเซส จากเกาหลีใต้ร่วมทัวร์ด้วย