posttoday

ปีศาจก็ต้องการความรัก เอ็ด ฮาร์คอร์ต

09 ตุลาคม 2559

นักร้องนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ “เอ็ด ฮาร์คอร์ต” กลับมาอีกครั้งในวัย 39 ปี เพื่อเริ่มต้นใหม่กับงานชุดใหม่

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

นักร้องนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ “เอ็ด ฮาร์คอร์ต” กลับมาอีกครั้งในวัย 39 ปี เพื่อเริ่มต้นใหม่กับงานชุดใหม่  

เอ็ด ฮาร์คอร์ต อยู่ในวงการนี้มา 15 ปี ผลงานของเขาได้รับคำชื่นชมจากบรรดานักวิจารณ์ รวมทั้งได้รับการยอมรับจากคนในวงการ แต่ที่สวนทางกันคือ เป็นงานดนตรีที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางด้านการขายนัก อาจจะเคยประกาศยอมแพ้ แต่เอ็ดกลับมาได้อีก

หนุ่มลอนดอนคนนี้เริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตอนเป็นวัยรุ่นเขาและเพื่อนๆ ทำวงชื่อ สนัก ได้เซ็นสัญญากับค่าย มีผลงานอัลบั้มออกมา 2 ชุด ก่อนจะเลิกวง แล้วเอ็ดจึงหันมาทำอัลบั้มเดี่ยวในภายหลัง โดยได้รับอิทธิพลทางดนตรีจาก ทอม เวตส์, นิค เคฟ, เจฟฟ์ บัคลีย์ ฯลฯ

งานชุดแรกของเอ็ดออกมาเมื่อปี 2001 และอัลบั้มนี้ถูกเสนอชื่อชิงรางวัลเมอร์คิวรีย์ ผลงานของเขาที่ตามออกมาหลังจากนั้นเป็นที่ชื่นชอบของนักวิจารณ์และเพื่อนร่วมวงการ แต่ยอดขายกลับไม่ได้สวยงามนัก ในปี 2007 เอ็ดประกาศเลิกทำเพลง แต่ก็ยังเขียนงานให้กับศิลปินมากมาย ทั้งยังได้ร่วมเวทีแสดงกับศิลปินหลากหลาย ที่สุดเขาก็ทนกับความยั่วยวนไม่ไหว เอ็ดกลับมาในปี 2010 เขาทำงานอัลบั้มนั้นโดยมีลูกเป็นแรงบันดาลใจ ผลที่ตามมาคือ ความล้มเหลวเชิงพาณิชย์ขนานใหญ่ เอ็ดเจ็บหนัก แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ ยังต้องเขียนเพลงเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัวอยู่

ปีศาจก็ต้องการความรัก เอ็ด ฮาร์คอร์ต

 

เอ็ดให้สัมภาษณ์กับ เดอะ การ์เดียน ว่า ชีวิตของเขาในช่วงนั้นดราม่าสุดๆ เขาโกรธตัวเองและโลกทั้งใบ เขากินหนัก ดื่มหนัก ปล่อยเนื้อปล่อยตัว กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อส่องกระจกก็แทบจะจำไม่ได้ว่าคนที่มองเห็นในนั้นคือใคร!

เมื่อคิดและตัดสินใจที่จะกลับมาสู้อีกสักยก เอ็ดปฏิวัติตัวเองด้วยการเข้ายิมไปต่อยมวย เขาต่อยมวยตอนเช้าก่อนเข้าสตูดิโอทำงานเพลงทุกวัน นั่นทำให้เอ็ดเปลี่ยนจากผู้ชายวัย 30 กว่าปีที่น้ำหนักเกินพิกัด กลายมาเป็นเจ้าของร่างกายที่ฟิตเต็มร้อย นี่นับเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต เอ็ด บอกว่า เป็นการทำลายกำแพง ไม่ใช่แค่ทางด้านร่างกาย แต่เป็นทางด้านจิตใจด้วย เขารู้สึกมั่นใจและเรียกศรัทธาในตัวเองกลับคืนมา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่มีอิทธิพลในงานเพลงของเขาด้วย

เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เอ็ด ฮาร์คอร์ต ก็ได้แนะนำอัลบั้มชุดที่ 7 ของเขาชื่อว่า Furnaces ต่อชาวโลก งานนี้ ฟลอด (Flood) โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยมบริตอวอร์ดส์ ซึ่งเคยทำงานกับศิลปินร็อก อาทิ ยูทู, ดีเพชี โหมด, พีเจ ฮาร์วีย์ ฯลฯ มาช่วยดูแล

บทเพลงในอัลบั้มคือ การคิดคำนึงถึงอนาคตทั้งของตัวเอง ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม และโลก บางเพลงมีนัยในเรื่องการเมือง เพลงของเขาเหมือนกับเป็นปีศาจหรือสัตว์ประหลาดดุร้าย เป็นร็อกแบบ “ดาร์กๆ” ซาวด์มโหฬาร หนักแน่น อัดพลังความโกรธเกรี้ยว รุนแรง เขาเล่นดนตรีเกือบทุกอย่างด้วยตัวเอง เหมือนพยายามที่จะเป็นวงมากกว่าเป็นศิลปินเดี่ยว โดยมีเพื่อนนักดนตรีนักร้องประสานมาเสริมให้แข็งแกร่ง เสียงเปียโนที่เคยโดดเด่นถูกลดบทบาทลงไปแทนที่ด้วยเสียงกีตาร์และกลอง บางเพลงมีอิทธิพลของอิเล็กทรอนิก้า ในเสียงร้องนั้นแต่งแต้มด้วยเอฟเฟกต์มากมาย

ปีศาจก็ต้องการความรัก เอ็ด ฮาร์คอร์ต

 

เพลงไตเติ้ลแทร็ก Furnaces คือ ความรู้สึกของเอ็ดหลังอ่านเรื่องการขุดเจาะน้ำมัน เขารู้สึกโกรธ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น เขายังสรรเสริญยกย่องนักเขียนที่ชื่นชอบ อย่างเช่น เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์, ชาร์ลส์ บูคาวสกี ฯลฯ ในเพลง You Give Me More Than Love มีเครื่องสายมาสร้างสีสัน ใกล้เคียงกับความเป็นเพลงป๊อปที่สุดก็คงเป็นเพลงมนุษย์หมาป่า Loup Garou เพลงแรกของอัลบั้มคือ The World is on Fire เป็นการใคร่ครวญถึงชีวิตบนโลก ก่อนจะปิดอัลบั้มด้วย Antarctica เพลงที่ล่องลอยฝันการดิ้นรนออกไปสู่ถิ่นทุรกันดารอันเหน็บหนาวเพื่อหลบหนีความรุนแรงและการถูกกดขี่ เพียงเพื่อจะได้รู้ว่า ตัวเขาได้ถูกสาปและหายไป 

Furnaces ไม่ใช่อัลบั้มที่ฟังง่าย หรือติดหูตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ได้ฟัง แต่ถ้าหากคุณชอบงานเพลงดีๆ ที่แตกต่างออกไป ... ก็จัดเลย

สำหรับ เอ็ด ฮาร์คอร์ต เขาบอกว่า งานชุดนี้คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งตัวเขาก็อาจจะพอคาดเดาได้ว่า ผลลัพธ์ทางด้านการตลาดนั้นก็คงเป็นแบบเดิมๆ หวังแต่ว่า ไฟในการสร้างสรรค์ของเขาจะยังไม่มอดไหม้หมดไป เพราะคนที่รักจะฟังงานของเขายังมี