เอ็นริโก ราวา นิว ควอเต็ต อิตาเลียน แจ๊ซ แสนกระชุ่มกระชวย

โดย...พรเทพ เฮง ภาพ firmarte.it, Italian Festival Thailand‎

ยํ่าย่างสู่หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นความประทับใจของค่ำคืนในวันแรกแห่งเดือน มี.ค. ที่ได้สัมผัสรสของอิตาเลียน แจ๊ซ ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นมือทรัมเป็ตสายแจ๊ซและวงดนตรีแจ๊ซร่วมสมัยที่ดีที่สุดในยุคนี้ของอิตาลี นั่นคือ เอ็นริโก ราวา นิว ควอเต็ต พวกเขามานำเสนอผลงานในอัลบั้มชุดล่าสุด “Wild Dance”

ด้วยใจที่ปลอดโปร่งรับรสสุนทรีย์ร่วมกับผู้ชมในวันนั้นอีกเกือบ 700 คน กับเวลา 2 ชั่วโมงกว่าที่วงอิตาเลียน แจ๊ซ ภายใต้การร่ายมนตร์ลมปากผ่านทรัมเป็ตสะกดให้พลิ้วเพริศตามตัวโน้ตที่ลื่นไหลและการอิมโพรไวส์หรือด้นท่วงทำนองกันสดๆ ผ่านแต่ละชิ้นดนตรีกันอย่างกลมกล่อม

นี่เป็นหนึ่งในรายการคอนเสิร์ตของวงดนตรีจากอิตาลี ที่สถานทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย จัดให้ชมฟรีเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ในนามของอิตาเลียน เฟสติวัล 2016 ซึ่งจัดเป็นปีที่ 11 เข้าไปแล้ว

ทีมดนตรีอีก 3 คน คือ ฟรังเซสโก ดิโอดาติ (กีตาร์ไฟฟ้า) เกเบรียล อีแวงเจลิสตา (ดับเบิ้ลเบส) และ เอ็นริโก โมเรลโล (กลอง) ว่ากันตามเนื้อผ้า บทเพลงจาก “Wild Dance” อัลบั้มชุดล่าสุดของเอ็นริโก ราวา นั้น เป็นการทำงานของนักดนตรีที่ข้ามรุ่นหรือมีความต่างในเรื่องอายุกันมากทีเดียว เพราะตัวของนายวงหรือเอ็นริโก ราวา เอง ถูกยกให้เป็นตำนานของดนตรีแจ๊ซอิตาเลียนไปเรียบร้อยแล้ว ถึงขั้นยกให้เป็นปรมาจารย์แจ๊ซของประเทศนี้ แต่การมาร่วมทำงานอย่างเปิดใจและเปิดโอกาสให้นักดนตรีรุ่นใหม่ไฟแรงที่เทียบเป็นรุ่นลูกมาร่วมงานกัน ทำให้เห็นได้ถึงพลังขับของความสนุกสนานในการเล่นดนตรีแบบจิ๊กโก๋แสนเก๋าออกมาบนเวทีได้อย่างครบเครื่อง ทั้งที่อายุอานามของเอ็นริโก ราวา ปาเข้าไปถึง 77 ปีแล้ว

แน่นอน เอ็นริโก ราวา เป็นจุดศูนย์กลาง เสมือนวาทยกรที่มีทรัมเป็ตกำหนดทิศทางและควบคุมเสียงและความรู้สึกของท่วงทำนองและการโซโล่ที่ขับเปล่งออกมา

ความสดและพลังทางดนตรีของนักดนตรีรุ่นใหม่ ไม่ว่ามือกีตาร์ที่เล่นกับเสียงเอฟเฟกต์ได้อย่างจัดจ้านพอดิบพอดีไม่ล้นไม่พล่านออกมามากจนพองาม ส่งจังหวะเข้าออกกับเอ็นริโก ราวา ได้จี๊ดจ๊าด มือดับเบิ้ลเบสคุมจังหวะได้แน่นมีลูกเล่นที่สร้างบรรยากาศของเพลงให้กระชับ ดึงความคึกคักให้ทะลักออกมาส่วนหนึ่ง ส่วนมือกลองดูเรียบๆ แต่เวลาโชว์คุมทิศทางแสดงให้เห็นถึงกลเม็ดเด็ดพรายทางการตีกลองหลากเทคนิคและอารมณ์ จะเห็นถึงการยกระดับจังหวะของแจ๊ซในสไตล์โพสต์-บ็อพ รวมถึงอวองต์-การ์ด สวิง แจ๊ซ ออกมาอย่างกระชุ่มกระชวยถึงขั้นร้อนแรงในบางมิติอารมณ์ความรู้สึก กำซาบได้ถึงตัวโน้ตที่เปล่งออกมาจากทรัมเป็ตที่แจ่มจรัสเต็มไปด้วยความสว่างในอารมณ์เพลงและเร่าร้อน แต่โดยองค์รวมทั้งหมดยังมีความสุขุมสละสลวยให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นความสอดประสานคล้องจองทางดนตรีที่มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ในการสนทนาทางดนตรีด้วยไหวพริบปฏิภาณชั้นเยี่ยมที่เปล่งออกมาสู่ผู้ชมให้ตราตรึงได้สวยงาม

ความอิสระในการเล่นดนตรีและตีความของทีมดนตรี ทำให้เห็นว่าทำไม เอ็นริโก ราวา จึงอยู่ยาวนานในวงการ กับฐานะคนเป่าทรัมเป็ตที่อยู่ในความนิยมอย่างแพร่หลาย แม้เขาไม่ใช่นักดนตรีแจ๊ซชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของดนตรีแนวนี้ ก็ต้องยกให้เอ็นริโก้ ราวา ติดอยู่ในทำเนียบอันดับต้นๆ เขาดูเหมือนเป็นคนที่มีความเด็ดเดี่ยวโดดเด่นที่นำอิตาเลียน แจ๊ซ สู่ความสนใจของคนฟังดนตรีแจ๊ซในระดับนานาชาติ ออกอัลบั้มมามากมายทั้งในฐานะนายวงและทำงานร่วมกันกับคนอื่น

 “เมื่อผมเลือกนักดนตรีเข้าสู่วงของผม ผมไม่ได้เจาะจงว่าพวกเขาเป็นนักดนตรี ผมรักในดนตรีที่แท้จริงของพวกเขาต่างหาก ผมให้อิสระในการทำงานมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะผมเชื่อมั่นในดนตรีที่จะออกมาว่ามันจริงแท้สำหรับผม และในจุดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น”

คำพูดทั้งหมดที่ยกมาของ เอ็นริโก ราวา ผู้เฒ่าแห่งอิตาเลียน แจ๊ซ ทำให้เห็นว่าการยืนระยะของเขาไม่ใช่เพราะความอยู่ยาวกว่าค่อนชีวิตในฐานะตำนานของวงการดนตรีแจ๊ซ หรืออัตตาที่สูงส่งของดนตรีที่เลิศล้ำ แต่อยู่ผ่านกาลเวลามายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ ตั้งแต่แจ๊ซยุคปลายทศวรรษที่ 60 จนถึงปัจจุบัน เพราะเขามีการทำงานในเชิงสร้างสรรค์และเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นหลังๆ โดยเฉพาะนักดนตรีรุ่นใหม่ได้เข้ามาแบ่งปันความสด ดึงพลังความเก๋าในความแก่ที่เปี่ยมด้วยทักษะฝีมือออกมาอย่างเปี่ยมพลังอยู่เสมอ

คอนเสิร์ตของเขาที่เมืองไทย ก็น่าจะพิสูจน์ข้อนี้ได้ดีว่า นี่คืออิตาเลียน แจ๊ซ ที่เท่ คูล และเก๋า