posttoday

"โจอี้บอย"สุดปลื้มปั่นจักรยานพิชิตดอยอินทนนท์

21 กุมภาพันธ์ 2559

"โจอี้บอย"โพสต์อินสตาแกรมเผยประสบการณ์สุดภูมิใจปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์สำเร็จ

"โจอี้บอย"โพสต์อินสตาแกรมเผยประสบการณ์สุดภูมิใจปั่นจักรยานขึ้นดอยอินทนนท์สำเร็จ

เรียกเสียงฮือฮาได้สุดๆ

เมื่อแรปเปอร์หนุ่มสุดเท่ "โจอี้บอย"โพสต์อินสตาแกรม @joeybangkokboy เล่าประสบการณ์อันน่าภูมิใจครั้งหนึ่งของชีวิต หลังจากเข้าร่วมแข่งขันปั่นจักรยานพิชิตดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ สนามประลองที่ขึ้นชื่อเรื่องความหฤโหด ทั้งสูง ทั้งชัน ทั้งยาวไกลและคดเคี้ยว เรียกว่านักปั่นที่พิชิตดอยอินทนนท์ได้ต้องไม่ธรรมดาจริงๆ ข้อความทั้งหมดมีดังนี้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..

ผมค่อนข้างประเมินฝีมือตัวเองสูงไปหน่อยและคิดจะท้าทายธรรมชาติอันสูงใหญ่ที่เป็นเหมือนหลังคาประเทศไทย.. ผมคิดว่าการซักซ้อมและปั่นต่อเนื่องใน1เดือนจะสามารถทำผมรอดจากการลงเข็นที่ดอยนี้ไปได้..

ผมเลือกที่จะใช้อุปกรณ์โดยเฉพาะเฟืองที่ค่อนข้างจะไม่ช่วยเหลือมือใหม่อย่างผมเท่าไร(11-28)ด้วยความซ่า..

สรุปว่าผมลงจอดที่กิโลที่40ต้นๆ และยอมก้มหน้าก้มตาเข็นแบบเจ็บใจเพราะว่าแรงกดลงบนเฟืองที่ไม่ช่วยผ่อนแรงให้ฝีมือระดับผมทำเอาหัวเข่าซ้ายและเส้นเอ็นด้านหลังเจ็บจี้ดทุกครั้งที่กดขาลงไป ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ็บและก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไม่จำ ยังดีที่มีคนเข็นเป็นเพื่อนส่งน้ำให้และส่งเสียงเชียร์เป็นกำลังใจตลอดทาง กราบขออภัยตรงนี้ด้วยเลยที่ทำหน้าเป็นตีนเวลามาขอถ่ายรูปตอนนั้นครับมันแค้นเจ็บใจตัวเองตอนลงเข็นอยู่

ตอนแรกตัดสินใจจะถอดใจถอยหลังกลับบ้านแล้ว เพราะรู้สึกว่าลงรถเข็นขึ้นมันก็เหมือนกับปั่นไม่จบแล้ว แต่ติดตรงมองไปทางใดเพื่อนนักปั่นที่เข็นอยู่ข้างๆเราเต็มไปหมดบรรยากาศช่วงปลายทางในขณะนั้นช่างเหมือนกลุ่มผู้คนมาแสวงบุญกันเหลือเกิน บ้างลากครีทบ้างเตรียมรองเท้าแตะมา และบ้างก็ถอดรองเท้าเดินตรีนเปล่าอย่างไม่แคร์ใครนั่นรวมถึงผมด้วยคือ1ในนั้น

บรรยากาศการเดินเข็นเต็มไปด้วยคนอ่อนล้าเหนื่อยแรงบาดเจ็บราวกับทหารกลับจากสงครามในใจเต็มไปด้วยความหวังที่จะกลับไปให้ถึงถิ่น พวกที่ถึงแล้วบ้างก็รับเหรียญห้อยคอเริ่มดาว์นฮิลสวนลงมาเรื่อยๆใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข บ้างตะโกนให้กำลังใจนักเข็นแสวงบุญสีหน้าอิดโรยตามทาง บ้างก็ขู่ว่าอีกไกลเลยพวกมรึ้ง แต่ที่ขาดไม่ได้คือคนที่เห็นผมก็และเริ่มส่งเสียงโหวกเหวกแซวเมื่อเห็นผมถอดรองเท้าเข็นอยู่ ขอบคุณจริงๆนั่นแหละแรงกำลังใจให้ต่อสู้ไปอย่าได้ถอยหนีโดยแท้

ด้วยความที่กลัวคนแซวด้วยกลัวเพื่อนๆแซวด้วยก็เลยทนกระโดดขึ้นกดลูกบันไดต่อไปทีละกระดึ้บๆ 2กิโลสุดท้ายนี่บอกเลยว่าเหนื่อยกว่า3-40โลที่ปั่นมามากๆ มีคำถามผุดขึ้นมากมายที่อยากจะถามกรมโยธา แต่กลัวเค้าสวนว่า"ใครใช้มึงปั่นขึ้นมา?" ลำพังรถขึ้นมานี่ครัชไหม้เกียร์พังขึ้นไม่ไหวก็เต็มตลอด2ข้างทางละ เอาเป็นว่านิทานเรื่องนี้สอนว่า ชั้นเจ็บครั้งนี้ชั้นมีเธอเป็นดั่งครู..สอนชั้นให้เข้าใจรักร้าวเป็นเช่นไร..ขอบใจจริงๆ

โอวววว เฮียโจ้ของเราเจ๋งสุดๆไปเล้ยยยย

ภาพประกอบจากอินสตาแกรม @joeybangkokboy