ความตกต่ำของหนังฮ่องกง โรงหนังสับเละโคตรเซียน

โรงหนังโจมตีโคตรเซียนฯ ทำไมหนังฮ่องกงถึงได้ตกต่ำขนาดนี้ โกงเงินคนดูอย่างไร้จริยธรรม

หลังจากประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งมาแล้วถึง 2 ภาคกับภาพยนตร์บู๊ผสมฮา ประชันลีลานักพนันขั้นเทพ From Vegas to Macau หรือในชื่อไทยว่า "โคตรเซียนมาเก๊าเขย่าเวกัส" โจวเหวินฟะ ยังเดินหน้าต่อไปกับภาคที่ 3 แต่ดูเหมือนว่าภาคล่าสุดที่เพิ่งออกฉายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะได้ผลตรงกันข้ามอย่างน้อยก็ในสายตาของนักวิจารณ์แดนมังกร

ตอนนี้ออกมาภาคแรก โคตรเซียนมาเก๊าเขย่าเวกัสสร้างความฮือฮาพอสมควร เพราะถือว่าเป็นส่วนขยายของหนังเซียนพนันระดับตำนานแห่งยุค 80 นั่นคือ "คนตัดคน" และยังเป็นการผงาดอีกครั้งของโจวเหวินฟะในวงการหนังฮ่องกงที่ช่วงหลังค่อนข้างซบเซา เพราะถูกตีตื้นโดยหนังจีนแผ่นดินใหญ่ แถมยังขาดนักแสดงเจ๋งๆ

แต่มาถึงภาค 3 แม้จะได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากผู้ชมเช่นเดิม แถมยังมีนักแสดงระดับไอคอนของฮ่องกงแบบแน่นเอี้ยด รวมถึง หลิวเต๋อหัว จางเสีวยโหย่ว (อดีตสี่จตุรเทพเชียวนะ) และไซ นักร้องดังเจ้าของเพลง กังนัม สไตล์ แต่แม้จะมีตัวเรียกแขกขนาดนี้ เซียนหนังก็ยังไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่

โรงหนังแห่งหนึ่งในมณฑลกานซูถึงกับมีแถลงการณ์ขอโทษผู้ชมและโจมตีโคตรเซียนฯ อย่างรุนแรงว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกซูเปอร์สตาร์ถึงไม่เลือกบทกันให้ถี่ถ้วนกว่านี้ และไม่เข้าใจว่าทำไมหนังฮ่องกงถึงได้ตกต่ำขนาดนี้ หนังยังโกงเงินคนดูอย่างไร้จริยธรรม ทางโรงหนังทิ้งท้ายว่า ขอวอนให้ท่านผู้ชมอย่ามาดูหนังเรื่องนี้ให้เสียเงินเลย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เข้าทำนองลางเนื้อชอบลางยา เพราะโคตรเซียนฯ ยังทำเงินพอสมควร แสดงว่าในทัศนะของผู้ชมจำนวนไม่น้อย ยังถือว่าไม่เลวร้ายและอาจดีพอสมควรด้วยซ้ำ เพราะทำเงินได้ถึง 420 ล้านหยวนในจีนแผ่นดินใหญ่