ทีเด็ดจอมขโมยซีน

ที่ลืมไม่ได้ นั่นคือ ความกล้า แอนด์ ความบ้าแค่เนี้ยล่ะ สูตรสำเร็จของการก้าวขึ้นบันไดไต่ไปสู่ตำแหน่ง “จอมขโมยซีน”

โดย...วิชช์ญะ ยุติ

เสียงชื่นชมดังขรมไปทั่ว ทั้งๆ ที่พวกเขาก็ไม่ใช่คู่พระนางสักหน่อย แต่เพราะบทบาทอันโดดเด้งติดตาไม่รู้ลืม วนเวียนซ้ำๆ เป็นภาพจำจนคุ้นชิน โผล่หน้ามาทีไรก็ได้ใจแฟนๆ เป็นว่าเล่น โกยเรตติ้งให้ตัวเองดังเปรี้ยงทะลุลิมิต

ในฐานะ “จอมขโมยซีน” สุดจี๊ด จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งหน้าตา (อย่างเดียว) หนึ่งสมองกะสองฝ่ามือ อืม!!! แล้วที่ลืมไม่ได้ นั่นคือ ความกล้า แอนด์ ความบ้า

แค่เนี้ยล่ะ สูตรสำเร็จของการก้าวขึ้นบันไดไต่ไปสู่ตำแหน่ง “จอมขโมยซีน” แห่งยุคสมัยที่แสนจะจิ๊บๆ แบบไม่เปลืองน้ำมัน (?)

ปัจุบันทันด่วนที่กำลังเปิดวิกแสดงกัน เรียกความขำกลิ้งซิ่งแซงหน้า ขอยกให้นางกำนัล “ปารีส” ละครเวทีนะยะ “กินรีสีรุ้ง” ตีบทแตกกระจายด้วยลีลาท่าทางแจ๋นแจ๋ น่ารักน่าหยิก เอ้าบางคนก็ว่าน่าหมั่นไส้ซะงั้น ซึ่งคนที่รับบท “นิโรธ รื่นเจริญ” ยอมรับลั้นลา เปล่าตั้งใจขโมยซีน แต่บทเป็นยังนั้นเอง เลยสนุกกับการแสดง

“ใช้พลังงานเยอะครับ เพราะเป็นตัวละครที่อยู่ไม่สุข ไฮเปอร์ตลอดเวลา และจะออกเป็นตัวการ์ตูนนิดๆ เจ็บตัวก็แยะ สะดุด หกล้ม เจอมาหมด ความตลกของปารีสจะเกิดจากสถานการณ์ ตั้งใจให้ตลกตามที่บทวางไว้อยู่แล้ว เป็นตัวสร้างสีสัน เป็นตัวแยบให้เรื่องสนุก ไม่ใช่การพยายามเพื่อจะขโมยซีนหรอกครับ”

ถึงเจ้าตัวจะว่าไม่ใช่การขโมยซีน แต่คนดูน่ะรู้กันดี เพราะสิ่งที่ She แสดงบนเวที ขโมยซีนชัดๆ ไหนจะแอ็กติงเวอร์ๆ ไหนจะคำพูดจิกๆ จี้ๆ กรี๊ดได้สนั่นฮอลล์จนเมื่อยขากรรไกร

“ก็มีนะที่เติมเพิ่มแต่งบางคำพูดเพื่อให้เข้าปาก หรือให้ตลกมากขึ้น เช่น ศัพท์กะเทยบางคำ ส่วนใหญ่จะเป็นอุทาน ดั้นสดๆ ก็มี อย่างตอนที่ไก่ระเบิดหล่นออกนอกบล็อกกิง เราต้องเล่นมุขสดๆ ‘ตอนนี้ไก่ระเบิดได้หายตัวไปแล้วครับท่าน’ คนก็ฮาตรึม บางทีล้มจริงๆ ก็มี คนดูคงคิดว่าเราแกล้งหรือเล่นตามบท แต่ไม่ใช่ ล้มจริงๆ และเจ็บจริงๆ ด้วยนะ”

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ในละครเวทีเรื่องเดียวกันนี่แหละ “ชลเลขา ละงู” กับบทเจ้าของร้านอาหารไฮโซ “จรัสศรี” ที่มาช่วงท้ายๆ แต่สะกดคนดูอยู่หมัดได้ชะงักงัน ด้วยมุขกระแดะๆ จ้อไทยปนอังกฤษ เอ่ยปากมาก็ฮาน้ำตาเล็ด

มาที่ “จอมขโมยซีน” ตัวแม่กันบ้าง เดี๋ยวนี้นัมเบอร์วันในการฉกชิงซีน โดยอาศัยความฮาก๋าก้า ต้อง She “โอปอล์-ปาณิสรา พิมพ์ปรุ”

ตั้งแต่หนังเรื่องแรก “แจ๋ว” กับบท “จิ๋มดำ” มาถึง “แตน” บทที่เรียกว่าขโมยซีนอย่างไม่เกรงใจใคร ในหนังแอบเลิฟเกลอซี้ “เพื่อนสนิท” หรือจะเป็นบทที่โผล่มาแวบๆ ของหนังอินดี “A Moment in June” เธอก็ยั้งยัง!!! อุตส่าห์ขโมยความสนใจไปได้อีกแน่ะ แม้แต่หนังฮอต “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ซิตคอมทางทีวี “เนื้อคู่ประตูถัดไป” “เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร” โอปอล์ก็กินเรียบ

รายนี้ก็ใช่ย่อย “ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯสุดารัตน์ บุตรพรม” สาวอุดรฯ ที่ทำให้ทุกคนออนซอนหลายกับการขโมยซีน โดยอาศัยคาแรกเตอร์ “เตี้ยล่ำขำฮา” ดึงดูดใจแฟนๆ วัดได้จากรายการทีวีและซิตคอมที่เธอโชว์ฝีมือ “ชิงร้อยชิงล้าน” “ล้วงลับตับแตก” “แฟคทอรีที่รัก” “วงษ์คำเหลา เดอะซีรีส์” หรือไม่ก็หนังดังๆ “แหยมยโสธร” “หอแต๋วแตก แหกกระเจิง” รวมถึงผลงานล่าสุดที่ใกล้จะลงจอให้ดูกันในไม่ช้า “ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ” เธอน่าจะไม่พลาดขโมยซีนอีกเป็นแน่

ตัวพ่อเล่าเป็นใคร ถ้าเป็นขั้นเทพ คงไม่มีใครเกิน “สมเล็ก-สมชาย ศักดิกุล” ที่แจ้งเกิดจากบท “ป๋าสุวัตร” ในหนังรักอารมณ์ลูกทุ่ง “มนต์รักทรานซิสเตอร์” และเรื่องอื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งบทที่ได้รับล้วนแต่ขโมยซีนแทบทั้งสิ้น

สำหรับ “มนต์รักทรานซิสเตอร์” ยังส่งชื่อให้ “บักเสี่ยว” ดังระเบิดด้วยละ บทคนงานตัดอ้อยหนีตาย โดนๆๆๆ โดนใจ จนเจ้าตัว “โตอำพล รัตน์วงศ์” ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเยี่ยงนั้น

“เป็นหนังเรื่องแรกครับ และเป็นเรื่องแรกที่ผมไปแคสติง เพราะหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้แคสติงอีกเลย เวลามีงานน้องๆ ก็จะโทร.หาโดยตรงว่าพี่โตมีบทนี้ๆๆๆ ให้เล่นนะ บทก็จะเป็นตลกซะเยอะ ดรามาแบบมนต์รักฯ ไม่ค่อยมี ซึ่งผมว่ามันเล่นยากนะและอยากเล่นมากๆ” อำพลบอกในวันแถลงข่าว “ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ” หนังเรื่องใหม่ของเขา

จริงๆ ก็ยังมีคนบันเทิงอีกหลายที่เข้าข่าย “จอมขโมยซีน” อืมบางทีก็ไม่ใช่คนก็มี อย่างน้องหมาสุดซ่าๆ “ฮั๋งตู๋” ในละคร “ดอกรักริมทาง” นั่นไง เด่นกว่าพระเอกนางเอกเสียอีก

ฟากพิธีกร ร้อนแรง แรงร้อน ต้องเป็นพิธีกรสาว 30 ยังแจ๋ว “ปุ๊ก-สมาพร ชูกิจ” มาทุกครั้งขโมยซีนทุกครั้ง ไม่เสื้อผ้าหน้าผม She ก็มักจะวาดลวดลายปล่อยมุขเด็ดให้ฮากลางอากาศตลอด

ก็อ่ะนะเพราะแต่ละคนเป็น “จอมขโมยซีน” นี่นา