posttoday

เอดิสัน เฉิน บนเส้นทางศิลปะ

11 กรกฎาคม 2558

“เอดิสัน เฉิน” มาไทย ถ้าไม่ใช่คนรักเอดิสัน ก็คงจะบอกว่าแล้วไง? คงมีแต่แฟนพันธุ์แท้เท่านั้นล่ะที่จะไปตามกรี๊ด

“เอดิสัน เฉิน” มาไทย

ถ้าไม่ใช่คนรักเอดิสัน ก็คงจะบอกว่าแล้วไง? คงมีแต่แฟนพันธุ์แท้เท่านั้นล่ะที่จะไปตามกรี๊ดนักแสดง-นักร้องชาวฮ่องกง ผู้เคยมีคลิปหลุดและข่าวฉาวกับสาวสวย

และก็จริงดั่งว่า เพราะคนที่ตามไปกรี๊ด เอดิสัน เฉิน หรือ “เฉินกวานซี” ในวันที่เขาอาจไม่ใช่ซุป’ตาร์มาแรงมีแสงสปอร์ตไลต์สาดส่องเหมือนเช่นอดีต ทว่าพลันที่
เอดิสันปรากฏตัว ณ สยามเซ็นเตอร์ เสียงกรี๊ดยาวๆ จากเหล่าคนรักเอดิสันก็ทำเอาหูชา

รู้เลยว่าทำไมเขายังเป็นที่รัก เพราะความเท่บวกความหล่ออย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่แน่ๆ เพราะหลายสิ่งที่หลอมรวมเป็นเอดิสัน รอยยิ้มที่เป็นกันเอง ความขี้เก๊ก และลีลากวนๆ ล้วนแต่เป็นปัจจัยให้เอดิสันยังฮอต!!!

ยิ่งเมื่อการมาเยือนกรุงเทพฯ ครั้งนี้ เอดิสันมาในฐานะ  “คิวเรเตอร์” หรือ “ภัณฑารักษ์” นิทรรศการศิลปะ “แบร์บริค เวิลด์ไวด์ ทัวร์” ที่สยามเซ็นเตอร์และเมดิคอม ทอย คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกันเป็นโต้โผใหญ่นำกองทัพฟิกเกอร์แบร์บริคมาจัดแสดงโชว์อย่างตระการตา ก็ยิ่งทำให้ภาพเจ้าของฉายา “คาสโนวาแห่งเกาะฮ่องกง” เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด พร้อมๆ กับคำถามตามมาว่า เอดิสันทำงานศิลปะด้วยเหรอ แล้วเขามาทำงานคิวเรเตอร์ได้อย่างไร

เอดิสัน เฉิน บนเส้นทางศิลปะ

 

เอดิสันเปิดโอกาสให้สื่อสัมภาษณ์แบบสั้นๆ ถึงประเด็นนี้และนี่ก็คือคำตอบของเขา

“ไม่ครับ ไม่ใช่ครั้งแรกซะเดียว เพราะผมเคยทำงานลักษณะที่เป็นคิวเรเตอร์มาแล้วก่อนหน้านี้ มันเป็นงานแฟชั่นไฮเอนด์ที่จัดขึ้นที่ฮ่องกง ผมก็ร่วมเป็นคิวเรเตอร์กับทีมงาน ส่วนการมาเป็นคิวเรเตอร์งานนี้ผมก็ต้องจัดการและรู้จักหลายๆ เรื่อง เช่น พื้นที่จัดแสดงผลงาน รวมทั้งกลุ่มผู้ชมด้วย การทำหน้าที่เชื่อมต่อผลงานแบร์บริคที่ศิลปินต้องการนำเสนอไปสู่ผู้ชมให้ได้ อันนั้นล่ะผมว่ามันท้าทายสำหรับผม”

นิทรรศการที่กรุงเทพฯ ถือเป็นการทัวร์ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยรับเกียรติจากศิลปินจากทั่วโลกร่วมแสดงผลงานกว่า 80 ตัว ที่แต่ละคนสร้างสรรค์ขึ้นได้อย่างตื่นตาตื่นใจ อาทิ “อังเดร ซาไรวา” นักกราฟฟิตี้ชาวสวีเดน ผลงานชวนยิ้ม Mr.A “เควิน พูน” แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง ผู้สร้างสรรค์แบรนด์สตรีทแวร์สุดฮิป CLOT “เจมส์ จาร์วิส” นักวาดภาพประกอบชาวอังกฤษ ผลงานตัวการ์ตูน Aos Toys “มิกะ นินางาวะ” ช่างภาพและผู้กำกับสาวชาวญี่ปุ่นที่นำเสนอผลงานภาพถ่ายดอกไม้สีสด “ยูโกะ ยามางูชิ” เจ้าของคาแรกเตอร์ดีไซน์การ์ตูนแมวสีชมพู Hello Kitty

นอกจากนั้น ยังมีศิลปินไทยหลากหลายสาขาร่วมสร้างสรรค์ผลงานแบร์บริคตามแต่ที่ตัวเองถนัด หลายชิ้นต้องบอกว่าสะดุดตา บางชิ้นแฝงด้วยนัยและสัญญะทางความคิด บางชิ้นเน้นสนุกและให้อารมณ์ฮิป (สเตอร์) บางชิ้นเด่นด้วยลวดลายและสีสัน หวาน เปรี้ยว เก๋ แซบ ก็ว่ากันไป

แน่นอนเอดิสันก็ไม่พลาดที่จะนำผลงานที่เขาสร้างสรรค์มาร่วมแสดง ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นแบร์บริคที่สีน้ำตาลอมเหลือง คล้ายโดนทำร้ายจนไส้ทะลวง หน้าตาอาจไม่หวานแหวว ออกจะไปทางแบร์บริคหลอนๆ โหดๆ จากการผ่านสมรภูมิรบมา ถึงอย่างนั้นผลงานของเขาก็เคยไปเวิลด์ไวด์ทัวร์ครั้งแรกที่เซี่ยงไฮ้มาแล้วและเรียกเสียงฮือฮาไม่แพ้แบร์บริคโดยฝีมือศิลปินชั้นนำ

แบร์บริคหรือสาวกเรียกขานกันว่า “ฟิกเกอร์ร่างหมี” ได้ถือกำเนิดครั้งแรกในปี 2011 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะมีโปรเจกต์เดินสายโชว์ไปยังที่ต่างๆ นอกบ้านเกิด และได้รับความนิยมมากเป็นลำดับ ด้วยว่ามีความต่อเนื่องในการโปรโมทกิจกรรมและจัดนิทรรศการศิลปะ ไม่เว้นกระทั่งการมาเดินสายครั้งที่ 2 ในบ้านเรา ก็มีคนรักแบร์บริคล้นเมือง โดยเฉพาะในหมู่เซเลบริตี้และคนแวดวงศิลปะย่อมรู้จักกันดีและมีแบร์บริคในคอลเลกชั่น

ขณะที่เอดิสันก็มีในคอลเลกชั่น แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมเผยว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เขาบอกสั้นๆ ว่าเยอะพอสมควรอยู่ แล้วก็ปล่อยให้เสียงหัวเราะทำลายข้อสงสัยโดยความตั้งใจ

“ผมไม่อยากบอกหรอกนะว่าผมมีแบร์บริคกี่ตัว เอาเป็นว่าผมมีในคอลเลกชั่นก็เยอะพอสมควรอยู่ (หัวเราะ) พอผมได้ทำความรู้จักกับมัน จากซัพพลายเออร์คนหนึ่งก็น่าจะ 5 ปีแล้วนะ ซึ่งมันก็ทำให้ผมสนใจมันมากขึ้น ต้องขอบคุณเขานะที่ทำให้ผมรู้จักแบร์บริค”

สำหรับเอดิสันนั้นกลายเป็นที่จับตามองนับแต่เขาลับมาเที่ยวฮ่องกงหลังจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่โทรอนโต ประเทศแคนาดา พอคนชักชวนมาแสดงภาพยนตร์โฆษณาบัตรเครดิต อันมี “หลี่หมิง” เป็นผู้กำกับ ด้วยหน้าตาและมาดเท่ๆ จึงเป็นที่สนใจของค่ายบันเทิงฮ่องกง งานเข้าเขาจนนำชื่อเสียงเงินทองมาให้หนุ่มวัย 20 ดังเป็นพลุแตก

ปีทองของเอดิสันเริ่มขึ้นเมื่อ บริษัท เจซีกรุ๊ป ของพระเอกนักบู๊ “เฉินหลง” ได้จับเขาจรดปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด บทบาทแรกที่ได้รับคือพระเอกภาพยนตร์ Gen-Y Cops (2000) ตามมาด้วยพาเหรดภาพยนตร์แอ็กชั่นระดับเอลิสต์อีกเพียบ เช่น Infernal Affairs (2002) Infernal Affairs II (2003) The Twins Effect (2003) The Twins Effect II (2004) Dog Bite Dog (2006)

ไม่พอ ความฮอตของเอดิสันยังส่งให้ชีวิตเขารุ่งโรจน์ในฮอลลีวู้ดโดยฝากผลงานไว้ที่ The Grudge 2 และโผล่ในบทรับเชิญภาพยนตร์ The Fast and the Furious : Tokyo Drift จากภาพยนตร์ก็มาเป็นละครโทรทัศน์ แม้จำนวนผลงานอาจมีไม่มาก แต่การแสดงของเอดิสันก็ไม่ทำให้แฟนๆ ลืมเลือนง่ายๆ ไม่ว่าจะ Feel 100% (2002) Hearts of Fencing (2003) หรือ Eight Heroes (2005)

แต่ที่ถูกพูดถึงมากในหมู่วัยรุ่น (สมัยนั้น) ก็คงหนีไม่พ้นการมาจับไมค์ร้องเพลง เอดิสันสร้างผลงานและปรากฏการณ์เพลงบนเกาะฮ่องกง แถมยังขยายฐานไปสู่แฟนเพลงทั่วเอเชีย มีอัลบั้มมากกว่า 10 อัลบั้ม การันตีด้วยรางวัลนักร้องยอดนิยมและดาวรุ่งจากเวที Jade Solid Gold Best Ten Music Awards (2000) TVB8 Mandarin Music Awards (2001)

รวมทั้งหนึ่งงานที่แตกดอกออกผลให้ชื่อเอดิสันเข้าไปอยู่ในใจแฟนๆ (มากกว่าคลิปหลุดและข่าวฉาวกับสาวสวย) นั่นคือการทำธุรกิจร้านหมวกและเสื้อผ้าแนวฮิปฮอป ภายใต้ Juice ปัจจุบันมี 3 สาขา ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และกัวลาลัมเปอร์ โดยในอนาคตเขาเตรียมขยายแบรนด์นี้ไปทั่วโลกให้ครบ 17 สาขาตามแผน

งานในวงการบันเทิงเอดิสันยังมีเรื่อยๆ อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเช่นก่อน แต่ที่เพิ่งผ่านสายตาไปก็มีภาพยนตร์ Golden Chicken 3 (2014) และ Street of Macao (2014) ส่วนผลงานอื่นๆ ยังไม่มีแพลมออกมาว่าจะเมื่อไหร่ แฟนๆ คงได้แต่อดใจรอชมต่อไป

(นิทรรศการแบร์บริค เวิลด์ไวด์ ทัวร์ จัดแสดงที่ชั้น 1สยามเซ็นเตอร์ จนถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้)